ป่าเศรษฐกิจครอบครัว ทางเลือกใหม่ win win ทั้งชาวบ้านและรัฐบาล
เป็นแนวคิดของบริษัทประชารัฐรักสามัคคีสกลนคร วิสาหกิจเพื่อสังคม เกิดขึ้นจากการสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับ "เครือข่ายอินแปง" อำเภอกุดบาก สกลนคร ที่พยายามสร้างป่าในที่ดินส่วนบุคคลของเกษตรกรที่เป็นสมาชิก โดยมีนโยบายว่าใครมีที่ดิน 10 ไร่ น่าจะปลูกป่าประมาณ 3 - 4 ไร่ เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ขณะเดียวกันก็มีผลผลิตอาหารธรรมชาติเพื่อการบริโภคในครัวเรือน ชุมชน และยังสามารถขายเป็นรายได้
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide11.jpg)
ทำไมจึงใช้ชื่อ "ป่าเศรษฐกิจครอบครัว"
เมื่อพูดถึงคำว่า "ป่า" ทุกท่านนึกถึงภาพของ "ป่าสงวน และอุทยานแห่งชาติ" ซึ่งเป็นสมบัติของรัฐ ดูแลรักษาโดยหน่วยงานราชการในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ "ป่าเศรษฐกิจครอบครัว" เป็นสมบัติส่วนบุคคลมีเอกสารสิทธิ์ นส.3 หรือโฉนดที่ดิน เจ้าของแต่ละรายดูแลรักษาต้นไม้ที่เกิดตามธรรมชาติหรือปลูกขึ้นใหม่เพื่อเป็นแหล่งอาหารในครัวเรือน ชุมชน และขายเป็นรายได้ นานๆเข้าป่าเหล่านี้ก็ทำหน้าที่รักษาระบบนิเวศน์ทำให้ที่ดินบริเวณใกล้เคียงเกิดความชุ่มชื้นจากน้ำใต้ดินจนสามารถเพาะปลูกพืชต่างๆได้ดี
บริษัทประชารัฐรักสามัคคีสกลนคร ได้แนวคิดนี้จาก "เครือข่ายอินแปง" ที่อำเภอกุดบาก เป็นองค์กรภาคประชาชนที่รวมตัวกันสร้างป่าเพื่อเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติและรักษาระบบนิเวศน์ จึงสนับสนุน "ป่าเศรษฐกิจครอบครัว" ให้เป็นโครงการระดับจังหวัดเพื่อขยายผลไปยังราษฏรรายอื่นๆที่มีที่ดินพอเพียงต่อการปลูกป่าคู่ขนานกับการทำเกษตรกรรมที่เหมาะสม
คณะกรรมการบริษัทประชารัฐรักสามัคคีสกลนคร ได้เข้าร่วมพบปะและเสวนากับเครือข่ายอินแปงหลายครั้งจนได้ข้อสรุปบว่าต้องเดินหน้าโครงการ "ป่าเศรษฐกิจครอบครัว" ให้เป็นโครงการใหญ่ระดับจังหวัด
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide07.jpg)
การลงพื้นที่หลายครั้งพบว่าราษฏรหลายคนมีป่าของตนเองจากการรักษาต้นไม้ที่เกิดจากธรรมชาติและปลูกขึ้นมาใหม่ ดังตัวอย่างป่ายางนา 20 ไร่ จำนวน 1,200 ต้น ของคุณยายสวิงทอง รำคำ อายุ 65 ปี บ้านบัว ตำบลค้อน้อย อำเภอกุดบาก
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide12.jpg)
ป่ายางนาของคุณยายสวิงทอง รำคำ มีเห็ดธรรมชาติเกิดตามฤดูกาลมากมาย สามารถขายเป็นรายได้ทุกๆปี
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide08.jpg)
นอกจากเห็ดธรรมชาติแล้วยังมี "ยางตะเคียน" เป็นยาสมุนไพรแก้แผลกดทับได้อย่างดี มีราคากิโลกรัมละ 300 บาท
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide05(1).jpg)
ป่าธรรมชาติในที่ดิน 200 ไร่ ของนายสุมัธ ศรีมี อำเภอสว่างแดนดิน
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide06.jpg)
ป่าของนายสุมัธ ศรีมี อุดมไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด เป็นคำยืนยันจากคุณลุงทรงพล เดชพันธ์ุ อายุ 74 ปี เป็นหมอสมุนไพรพื้นบ้าน
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide11(1).jpg)
ต้นฤดูฝน 13 กรกฏาคม 2562 เครือข่ายป่าเศรษฐกิจครอบครัวได้ร่วมกันปลูกไม้ป่าเพิ่มเติมซึ่งสนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (BEDO)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide12(1).jpg)
บริษัทประชารัฐฯได้สนับสนุนโครงการนำร่อง "เลี้ยงหอยเพื่อผลิตเครื่องสำอาง Snail White" ที่บ้านโคกสะอาด ต.อุ้มจาน อ.กุสุมาลย์ สกลนคร
การวิเคราะห์ SWOT
จุดแข็ง (Strength)
1.เครือข่ายอินแปงมีโครงการส่งเสริมให้สมาชิกปลูกป่าในที่ดินของตนเองมานานกว่า 20 ปี (บริษัทประชารัฐกำลังสำรวจขึ้นทะเบียน)
2.สอดคล้องกับค่านิยมและอุปนิสัยของคนไทยที่ชอบดูแลรักษาสมบัติส่วนตัวอย่างจริงจัง
3.มีรายได้ตามฤดูกาลจากผลผลิตธรรมชาติ เช่น เห็ดป่า ใข่มดแดง แมลง พืชผักพื้นบ้าน สมุนไพร ฯลฯ อีกทั้งในระยะยาวสามารถขายไม้ในราคาสูง
4.รักษาระบบนิเวศน์นำมาซึ่งความชุ่มชื้นจากน้ำใต้ดินและลดการสูญเสียหน้าดินจากการกัดเซาะ ทำให้การเพาะปลูกในบริเวณใกล้เคียงได้รับอนิสงค์
จุดอ่อน (Weakness)
1.รายได้จากผลผลิตที่เกิดจากป่ายังไม่มีความแน่นอนในด้านการตลาด
2.ไม่เหมาะกับผู้มีที่ดินจำกัด
3.ใช้เวลาหลายปีในการเห็นผล
โอกาศ (Opportunity)
1.รัฐบาลมีนโยบายที่จะต้องเพิ่มพื้นที่ป่าและมีงบประมาณรองรับทุกปี
2.กระแสการใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น สมุนไพร เครื่องสำอางค์ อาหารเสริม ฯลฯ เริ่มมาแรงในหมู่ลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
3.สอดคล้องกับข้อตกลงนานาชาติเรื่อง "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก" ซึ่งรัฐบาลไทยได้ร่วมลงนามตามความตกลงกรุงปารีส เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559 โดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มอบสัตยาบันสารเข้าเป็นภาคีความตกลงปารีสแก่เลขาธิการสหประชาชาติ ระหว่างการเข้าร่วมกิจกรรม High-Level Event on the Ratification of the Paris Agreement
4.ประเทศไทยได้ตั้ง "องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก องค์การมหาชน" เมื่อปี 2550 เพื่อรองรับความตกลง Kyoto Protocol ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 16 กุมภาพันธ์ 2548 เป็นโอกาศที่จะมีการรับซื้อ Carbon Credit เพื่อสร้างรายได้พิเศษให้แก่ป่าเศรษฐกิจครอบครัว
5.สำนักงานเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (Biodiversity-Based Economy Development Office: BEDO) ให้ความสนใจและเข้ามาสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ด้วยการขึ้นทะเบียนโครงการนำร่องป่าเศรษฐกิจครอบครัว 32 แปลง ที่สกลนคร และจัดสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องในจังหวัดต่างๆ
ภัยคุกคาม (Threat)
1.กระแสอุตสาหกรรมการเกษตรรายใหญ่ที่ต้องการใช้ที่ดินจำนวนมาก
2.นโยบายรัฐบาลที่เน้นสร้าง GDP จากภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจบริการจะส่งผลให้ลูกหลานชาวชนบทไม่อยากทำงานในท้องถิ่น และไม่มีความหวงแหนที่ดินมรดกจากบรรพบุรุษ
3.การบีบคั้นทางเศรษฐกิจทำให้ราษฏรต้องการขายที่ดิน
4.ราชการยังไม่ยอมรับว่า "ป่าเศรษฐกิจครอบครัว" เป็นส่วนหนึ่งของการเกษตร จึงขาดโอกาศในการรับความช่วยเหลือในกรณีความเสียหายจากภัยธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ
5.การลงทุนอุตสาหกรรมเหมืองแร่โปแตสอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ป่าครอบครัว
จากข้อมูลวิเคราะห์ SWOT เมื่อนำ "จุดแข็ง" มาผสมผสานกับ"โอกาศ" ทำให้มองเห็นแนวทาง 2 ประเด็น ในการสร้างรายได้แก่ราษฏรที่เข้าร่วมโครงการป่าเศรษฐครอบครัว ขณะเดียวกันก็เป็นการตอบคำถามที่พี่ไทยอย่างเราๆท่านๆชอบพูดแบบดราม่าว่า "ปลูกป่าเศรษฐกิจครอบครัวตามนโยบายบริษัทประชารัฐฯแล้วจะได้อะไร"
1.สร้างมูลค่าเพิ่มจากป่าโดยใช้ตลาดเป็นตัวนำ เช่น การขายวัตถุดิบ หรือผลผลิตกึ่งแปรรูป เช่น สมุนไพร หรือผลผลิตพืชต่างๆให้แก่เอกชนที่มีตลาดอยู่แล้ว ขณะเดียวกันป่าที่มีศักยภาพต่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ก็สามารถพัฒนาในส่วนนี้ได้ ทั้งนี้บริษัทประชารัฐจะทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตและผู้ซื้อ
2.ผลักดันให้ภาครัฐเปิดนโยบายมิติใหม่ "ซื้อคาร์บอนเครดิต" จากป่าเศรษฐกิจครอบครัวคู่ขนานกับนโยบายปลูกป่า ทำให้ราษฏรมีรายได้ประจำปีที่แน่นอน เข้าตำรา "รัฐได้ป่า ประชาได้เงิน" ภาษา Thailand 4.0 เรียกว่า win win ในการนี้บริษัทประชารัฐฯจะประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในท้องถิ่นเพื่อสร้าง "มาตรการและกลไกในการซื้อคาร์บอนเครดิต" โดยมีสาระสำคัญ เช่น
2.1 มาตรการและวิธีการกำหนดมูลค่าคาร์บอนเครดิต (สามารถศึกษาจากงานวิจัยที่เครือข่ายอินแปง อ.กุดบาก ของมหาวิทยาลัยมหาสารคามร่วมกับมหาวิทยาลัยมิชิแกน สเตท เมื่อปี 2550 - 2553)
2.2 มาตรการสร้างแรงจูงใจแก่ราษฏรรายใหม่ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ
2.3 มาตรการอื่นๆที่เหมาะสม
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide01.jpg)
ตัวอย่างแนวคิด "การขายคาร์บอนเครดิต" ของเครือข่ายอินแปง จากงานวิจัยโดยมหาวิทยาลัยมหาสารคามร่วมกับ มหาวิทยาลัยมิชิแกน สเตท สหรัฐอเมริกา
(ร่าง) รูปแบบการซื้อขาย Carbon Credit จากป่าเศรษฐกิจครอบครัวสกลนคร โดยมีส่วนราชการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้แก่ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (BEDO) มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เฉลิมพระเกียรติสกลนคร และบริษัทประชารัฐรักสามัคคีสกลนคร จำกัด
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide04.jpg)
จุดประกายแห่งความหวังในโครงการซื้อขาย Carbon Credit โดย ท่านจุฬารัตน์ นิรัติศยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (สพก) และผู้แทนจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก) เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2562 ณ Road show สร้างการรับรู้การดำเนินงานพื้นที่สีเขียวบอกเขตอนุรักษ์ ชุมชนไม้มีค่า - ป่าครอบครัว ตามหลัก BEDO Concept ณ โรงแรมรามาการ์เดน กทม.
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide01(1).jpg)
บรรยากาศแห่งการทำ Road Show ที่โรงแรมรามาการ์เดน กทม วันที่ 7 กันยายน 2562
Case Study การปลูกป่าในที่ดินส่วนบุคคล
บริษัทประชารัฐฯจับมือกับหอการค้าผลักดันนโยบายส่งเสริมให้เอกชนหรือบุคคลที่มีที่ดินและประสงค์จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้ประเทศชาติ ด้วยการว่าจ้างเครือข่าย "อินแปง" ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในเรื่องไม้ป่าเป็นผู้รับเหมาปลูกและดูแลป่า ขณะเดียวกันก็เป็นการกระจายรายได้สู่ประชาชนในท้องถิ่น ในฐานะที่เป็นผู้เสนอแนวคิดนี้จึงเริ่มต้นในที่ดินของตนเอง 4 ไร่ ที่บ้านกุดพร้าว ตำบลวาริช อำเภอวาริชภูมิ สกลนคร เพื่อเป็นตัวอย่างเชิงประจักษ์แก่ผู้สนใจ
วางแผนและเตรียมดินโดยลุงเอก ผู้เชี่ยวชาญการปลูกป่าจากเครือข่ายอินแปง มิถุนายน 2561
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide02(1).jpg)
ปลูกไม้ป่านานาชนิดในเนื้อที่ 4 ไร่ ปลายเดือนมิถุนายน 2561
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide03.jpg)
ติดตามผลปลูกซ่อมแซม และดูแลรักษา มิถุนายน 2563
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide04(3).jpg)
เปรียบเทียบการเจริญเติบโตของไม้ป่าระยะเวลา 22 เดือน ระหว่าง มิถุนายน 2561 กับ มีนาคม 2564
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide05(4).jpg)
เปรียบเทียบการเจริญเติบโต ในรอบ 7 เดือน
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide06(3).jpg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide06(4).jpg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide4(4).jpg)
เปรียบเทียบการเจริญเติบโตไม้พยุงในรอบ 1 ปี เมษายน 2563 และเมษายน 2564
จากวันแรกมิถุนายน 2561 (ซ้าย) ถึงพฤศจิกายน 2564 (ขวา)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide1(3).jpeg)
ในฐานะสมาชิกสโมสรโรตารีสากลภาค 3340 ก็ต้องร่วมมือในเป้าหมาย Supporting Environment of Rotary International
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide1.jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide05(2).jpg)
ผู้รับเหมาจากเครือข่ายอินแปงทำการปลูกและดูแลรักษาอย่างน้อย 3 ปี
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide07(1).jpg)
เป็นการกระจายรายได้สู่ชาวบ้านในท้องถิ่น
มีการผสมเชื้อเห็ดป่ากับดินที่เพาะต้นไม้เพื่อให้มีอาหารธรรมชาติเมื่อต้นไม้โตในอีก 3 ปีข้างหน้า
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide02.jpg)
นายสรรค์สนธิ บุณโยทยาน รองประธานบริษัทประชารัฐฯสกลนคร และที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดสกลนคร ได้นำเสนอโครงการนี้ต่อที่ประชุมเครือข่ายป่าครอบครัว จัดโดยสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (BEDO) เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562 ที่ศูนย์การศึกษาพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สกลนคร และ 7 กันยายน 2562 ที่โรงแรมรามาดการ์เดน กทม.
ธนาคารน้ำใต้ดิน (Groundwater Bank) มีผลอย่างไรกับป่าเศรษฐกิจครอบครัว
สโมสรโรตารีสกลนครสนับสนุนให้ป่าเศรษฐกิจครอบครับ ฟาร์มดงไร่ อ.วาริชภูมิ สกลนคร เป็นจุดสาธิตผลดีของธนาคารน้ำใต้ดินกับการปลูกป่า โดยเริ่มสร้างธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิด (close system groundwater bank) 5 หลุม กระจายในพื้นที่ 4 ไร่ โดยใช้งบประมาณ 10,000 บาท ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide36.jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide39.jpeg)
เริ่มสร้างธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิดเมื่อธันวาคม 2561
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide36(1).jpeg)
เปรียบเทียบการเติบโตของต้นไม้ระหว่างเมษายน 2563 กับเมษายน 2566
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide38.jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide38(1).jpeg)
ธนาคารน้ำใต้ดินทำหน้าที่สร้างความชุ่มชื้นแก่ต้นไม้ด้วยขบวนการ "ไส้ตะเกียง" (capillary action) หรืออีกนัยหนึ่งคือระบบชลประทานใต้ดิน (Subsurface Irrigation)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide35(1).jpeg)
เปรียบเทียบการเจริญเติบโตของต้นไม้ระหว่างป่าที่มีธนาคารน้ำใต้ดิน กับป่าที่รับน้ำฝนตามธรรมชาติ
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide35.jpeg)
ภาพถ่ายเดือนมีนาคม 2566 ป่าเศรษฐกิจครอบครัว ฟาร์มดงไร่ อ.วาริชภูมิ สกลนคร ต้นไม้โตเร็วมากเพราะมีธนาคารน้ำใต้ดิน
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide37.jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide37(1).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide37(2).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide37(3).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1508897973/Slide37(4).jpeg)
ตรวจสอบระดับน้ำใต้ดิน (groundwater table) เดือนเมษายน 2566 โดยใช้เชือกผูกลูกลอยหย่อนลงไปในท่อสังเกตระดับน้ำใต้ดิน 3 แห่ง (Observation Well) พบว่าระดับน้ำอยู่ที่ 2.9 m 3.26 m และ 3.35 m ซึ่งเหมาะสมต่อการสร้างความชุ่มชื้นด้วยปฏิกริยาใส้ตะเกียง (capillary action)
สรุป
หากราษฏรมีความมั่นคงทางอาหารจากป่า มีรายได้ที่ต่อเนื่องจากการขายผลผลิต บวกกับรายได้พิเศษจากการขายคาร์บอนเครดิตให้กับภาคเอกชน และเกิดความภาคภูมิใจว่าได้เป็นหนึ่งแรงในการกอบกู้โลกจากภาวะ Climate Change จะนำไปสู่การหวงแหนป่าและหันมาปลูกป่ามากขึ้น โดยภาครัฐไม่ต้องเป็นภาระในการดูรักษา เข้าทำนอง win win ทั้งชาวบ้านและรัฐบาล
ผมนับถือความคิดของสาวน้อยชาวสวีเดนอายุ 16 ชื่อ Greta Thunberg ที่หยุดโรงเรียนทุกวันศุกร์มานั่งประท้วงนักการเมืองและรัฐบาลให้หันมาสนใจเรื่อง Climate Change โดยสาวน้อยใช้คำพูดกระหึ่มโลกว่า "ไม่มีใครเล็กเกินไปที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง" (you are never too small to make a difference)
ป้ายภาษาสวีเดนที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ School Strike for Climate ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในแวดวงสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ น้อง Greta ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานที่สำนักงานใหญ่ UN ที่กรุงนิวยอก สหรัฐอเมริกา เดือนกันยายน 2019