ReadyPlanet.com
dot
dot
สืบเสาะเจาะลึกเมืองสกล
dot
bulletMegalithic Gate of Equinox ...... Sakon Nakhon Thailand
bulletปฏิทินท่องเที่ยวดาราศาสตร์และโหราศาสตร์เมืองสกล Mar 2024 - Feb 2025
bulletหนองหารหลวง ....... นครแห่ง "สุริยะปฏิทินพันปี"
bulletหนองหารหลวง ........ เมืองแห่ง "มหาสงกรานต์" จริงหรือ?
bulletปราสาทนารายณ์เจงเวง .....อะไรหายไปแล้ว อะไรเสี่ยงสูญหาย
bulletปราสาทภูเพ็ก ถูกดัดแปลง?
bulletสะพานขอมปัจจุบัน ....... โบราณสถานตัวจริง หรือสร้างใหม่?
bulletนาฬิกาแดดขนาดยักษ์เมืองสกล Google Earth ก็มองเห็น
bulletนาฬิกาแดดโรงเรียนวิถีธรรมเมืองสกล ...... มรดกจากบรรพชน
bulletSakon Hempmade มิติใหม่อุตสาหกรรมสิ่งทอ
bulletความรู้ปัจจุบัน ฤาจะเทียบชั้นกับวันวาน Ancient Wisdom V/S Digital Technology
bulletพบฐานรากปราสาทขอมใกล้ลำน้ำก่ำ
bulletปราสาทภูเพ็ก สกลนคร สุดๆแห่งปราสาทขอมในประเทศไทย
bulletปฏิบัติการภูเพ็ก ดอนสวรรค์ พิสูจน์คำทำนายซินแส ฮวงจุ้ยเมืองสกล
bulletสุริยะปฏิทินขอมพันปี
bullet "อาทิตย์ทรงกลด" ณ ปราสาทขอมเมืองสกล วิทยาศาสตร์ที่ลงตัวกับความเชื่อ
bulletโลกล้านปีที่แอ่งสกลนคร
bulletกลุ่มชาติพันธุ์ไทโส้ ....... เป็นใคร ....... มาจากไหน?
bulletพระยาสุระอุทก .......หนองหารหลวง ตำนานที่จับต้องได้
bulletรับพลังสุริยะยุคก่อนประวัติศาสตร์ ...... ที่สกลนคร
bulletกรมศิลปากรโยนหินถาม...เอกสารสิทธิ์ทับคูเมืองสกลโบราณ จะออกทางไหน
bulletหลากมิติอารยธรรม 4 ยุค "บ้านท่าวัด" ริมหนองหาร สกลนคร
bulletถอดจารึกขอม "ภูถ้ำพระ" ทำไมพระพุทธรูปไปอยู่ที่นั่น
bulletปราสาทขอมเมืองสกล.....เอาหินมาจากไหน ?
bulletพระธาตุดุม....ในอีกมุมมอง
bulletมุมมองใหม่ "สะพานขอม" ฝายทดน้ำชลประทาน
bulletไขความลับปราสาทนารายณ์เจงเวง
bulletหนองหารหลวงเมืองหน้าด่าน ยันกับอาณาจักรจาม
bulletไขประตูสู่อดีตพระธาตุเชิงชุม ...... ในอีกมุมมอง
bulletประตูเมืองโบราณสกลนครอยู่ตรงไหน
bulletปฏิบัติการ "มหาสงกรานต์" ไขปริศนาจารึกเมืองสกลโบราณ
dot
เปิดประเด็นการท่องเที่ยว
dot
bulletปราสาทบ้านปรางค์ มิติดาราศาสตร์และศาสตร์แห่งความเชื่อ
bulletปลานิล Biofloc "Safe and Saab"
bulletStory Board มหัศจรรย์ปราสาทภูเพ็ก ตำนานที่จับต้องได้
bulletเรือท่องเที่ยวหนองหารขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
bulletตัวอย่าง เส้นทางท่องเที่ยวสกลนคร 2 วัน 1 คืน
bulletยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเส้นทาง "ราชมรรคา"
bulletTourism Gimmick
bulletTourism Project Proposal
bulletสุริยะปฏิทินจักรราศีดอนสวรรค์ Don Sawan Zodiacal Solar Calendar
bulletSt.Peter's Fish โปรโมทการท่องเที่ยวและสร้างอาชีพใหม่....สกลนคร
bulletBig Project Tourism SNO
bulletAdventure Tourism (Search-Found-Selfie) ลุยป่าค้นหาขอมพันปี
dot
ปฏิบัติการดาราศาสตร์ Operation Astronomy
dot
bulletOperation Equinox 2024
bulletOperation Spica .... ไขปริศนา "เมืองโบราณศรีเทพ"
bulletย้อนอดีต "ราหูอมสุริยา" ก่อนเปลี่ยนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
bulletOperation Rahu Episode XV วัดระยะทาง โลก - ดวงจันทร์ - ดวงอาทิตย์
bulletเจาะลึกเบื้องหลังเมืองโบราณศรีเทพ Operation Spica EP 2
bulletOperación Intercontinental Solsticio de Invierno ปฏิบัติการดาราศาสตร์ เห-มา-ยัน ข้ามทวีป ไทย - เม็กซิโก ธันวาคม 2022
bulletOperation Rahu Episode XIV Total Lunar Eclipse 8 Nov 2022 How Far is The Moon?
bulletOperation Transcontinental Equinox 2022 ปฏิบัติการวสันตวิษุวัตข้ามทวีป 2565
bulletOperation Chou Li Episode V ..... Earth's axis tilt 23.5?
bulletOperation Rahu Episode XIII How Far is the Moon (Lunar Eclipse 26 May 2021)
bulletOperation Bhishma Winter Solstice 2020 finding Earth's axis tilt
bulletOperation Rahu Episode XII Solar Eclipse and Summer Solstice 21 June 2020 How far and how big is the sun
bulletOperation Rahu Episode XI How far is the sun
bulletปฏิบัติการราหู ครั้งที่ 10 (Operation Rahu X) วัดระยะทางโลก - ดวงอาทิตย์ ปรากฏการณ์สุริยะปราคาเต็มดวง
bulletปฏิบัติการชูหลี 4 มุมเอียงโลกยังคง 23.5 หรือไม่ (Operation Chou Li Episode IV)
bulletOperation Eratosthenes Episode II Mar 21, 2019 Measure Earth's circumference with one stick
bulletปฏิบัติการวันสิ้นโลกภาคสาม Operation Doomsday Episode III
bulletOperation Galileo Episode II วัดความเร็วของโลก "หมุนรอบตัวเอง (Rotation) และโคจรรอบดวงอาทิตย์ (Revolution)"
bulletOperation Rahu IX 28 July 2018 Total Lunar Eclipse วัดระยะทางโลก - ดวงจันทร์
bulletOperation Rahu VIII Measuring Distance Earth-Moon ปฏิบัติการข้ามทวีป Thailand - USA
bulletOperation Chou Li Episode III (Measure Earth Axis Tilt With One Stick)
bulletปฏิบัติการไจตระ ถอดรหัสคณิตศาสตร์ขอมพันปี ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร
bulletปฏิบัติการดาราศาสตร์ข้ามทวีป Operation Transcontinental Equinox 2016
bulletOperation Bhishma 2016 ปฏิบัติการดาราศาสตร์ข้ามทวีป ..... การหมุนรอบตัวเองและวงโคจรของโลกยังคงปกติหรือไม่?
bulletวัดมุมเอียงของโลก...ด้วยไม้แท่งเดียว
bulletOperation Rahu Episode I measuring earth to moon วัดระยะทางจากโลกถึงดวงจันทร์ ในปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง
bulletOperation Rahu Episode II สูตรใหม่คำนวณระยะทางโลกไปดวงจันทร์
bulletปฏิบัติการ "เจนัส" วัดมุมเอียงของโลก
bulletOperation Rahu Episode III 4 April 2015 วัดระยะทางโลกไปดวงจันทร์
bulletปฏิบัติการเวกัส 2558 "อีราโต้สทีเน้ส " ภาค 2 วัดโลกทั้งใบด้วยไม้แท่งเดียว
bulletOperation Rahu Episode IV วัดระยะทางโลก - ดวงจันทร์
bulletปฏิบัติการชูหลี (Operation Chou Li) ยืนยันมุมเอียงโลก 23.5 องศา
bulletOperation Rahu Episode V วัดระยะทางโลก - ดวงอาทิตย์
bulletOperation Rahu Episode VI How far and how big is the Moon
bulletOperation Rahu Episode VII How far and how big is the sun
bulletOperation Chou Li Episode II (Measuring Earth's Tilt)
bulletวัดโลกทั้งใบ ไทย กัมพูชา ปฏิบัติการ "อีราโตสทีเนส" ข้ามประเทศ
bulletปฏิบัติการ "กาลิเลโอ" วัดความเร็วการหมุนของโลกที่ปราสาทภูเพ็ก
bulletปฏิบัติการวันสิ้นโลกภาค 2 ข้ามทวีป ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร VS ปีรามิดเผ่ามายา เม็กซิโก
dot
แนะนำผู้เขียน
dot
bulletนายกสโมสรโรตารีสกลนคร ปีบริหาร 2556 - 2557
bulletสรรค์สนธิ บุณโยทยาน
dot
สากกะเบือยันเรือรบ กับปราสาทภูเพ็ก สกลนคร
dot
bulletปฏิบัติการอัสวีน่า ปราสาทภูเพ็ก (Operation Ashvina 23 Sep 2019)
bulletพระพุทธรูปศิลปะขอมซ่อนอยู่ใต้โพรงหินที่ปราสาทภูเพ็ก.....สื่อถึงอะไร
bulletภูเพ็ก....เมกกะโปรเจค นครที่สาปสูญ
bulletปฏิบัติการวันสิ้นโลก 2012 ท้าพิสูจน์ที่ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร
bulletความเป็นมาของปราสาทภูเพ็ก
bulletตลึง ! พบ “ฝายหินพันปี” กลางป่าภูเพ็ก
bulletครบรอบ 10 ปี การค้นพบ "สุริยะปฏิทินพันปี" ปราสาทภูเพ็ก
bulletปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ "เหมายัน" 21 -22 ธันวาคม ที่ปราสาทภูเพ็ก
bulletเผยเทคนิคการออกแบบก่อสร้างปราสาทภูเพ็ก
bulletความเป็นมาของสุริยปฏิทิน
bulletพิสูจน์สุริยะวิถี กับปฏิทินมหาศักราชที่ปราสาทภูเพ็ก
bulletรับพลัง "สุริยันจันทรา" ประชันดาวหางแพนสตาร์
dot
เปิดโลกวิทยาศาสตร์
dot
bulletปลูกป่าส่วนตัว กับ 2050 Net Zero Mission Impossible?
bulletพิสูจน์เชิงประจักษ์ "ปลูกป่าให้โตเร็ว" ด้วยธนาคารน้ำใต้ดิน
bulletBiofloc ...... Fish Farm 4.0
bulletทำไมเดือนกุมภาพันธ์ มี 28 วัน
bulletBiofloc Farming เลี้ยงปลาระบบปิด Fisheries 4.0
bulletข้าวหอมมะลิใช้น้ำน้อย 2019
bulletClimate Change Mitigation & Adaptation "It's Now or Never"
bulletฟาร์มปลาเชิงพาณิชย์ใช้น้ำน้อยระบบ Biofloc
bulletข้าวหอมมะลิใช้น้ำน้อย 2561 (2018)
bulletGroundwater Bank (An alternative water management)
bulletข้าวหอมมะลิกับดาราศาสตร์ ปลูกปีละ 2 ครั้ง ได้หรือไม่?
bulletHow Herbal Medicine Works
bulletระบบให้น้ำโรงเรือนปลูกผักบริษัทประชารัฐ สกลนคร
bulletป่าเศรษฐกิจครอบครัวทางเลือกใหม่ win win ทั้งชาวบ้านและรัฐบาล
bulletEarth and Space Class
bulletวิเคราะห์ฤกษ์รัตนโกสินทร์ในมุมวิทยาศาสตร์
bulletปฏิบัติการพิมาย ชาตินี้มีครั้งเดียว Operation Phimai Once or Never
bulletนาฬิกาแดดโรงเรียนวิถีธรรม ม.ราชภัฏสกลนคร
bulletทำไมชาวมายาในเม็กซิโกจึงมีรูปร่างหน้าเหมือนคนเอเซีย
bulletปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ตรงศรีษะ (sun overhead)
bulletเกาะติดไปกับยาน New Horizons เผยความลับพลูโต "ดาวเคราะห์ลูกเมียน้อย"
bulletทำนาน้ำน้อยแต่ผลผลิตสูง เป็นไปได้หรือไม่ More Rice With Less Water?
bullet21-22 มิถุนายน ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ "ครีษมายัน" Summer Solstice กลางวันยาวที่สุดในรอบปี
bulletดางหาง ISON ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ปิดท้ายปี 2556
bulletมองหมากเม่าผ่านมิติดาราศาสตร์
bulletดาราศาสตร์ที่เราเห็น.....ล้วนเป็นภาพลวงตา
bulletเข้าพรรษาบางปีทำไมต้องเดือน 8-8
bulletประสบการณ์ตรงเรื่อง "ยูเอฟโอ" ผมคิดแบบวิทยาศาสตร์
bulletเกาะติดการค้นหาชีวิตบนดาวอังคาร กับยาน Curiosity
bulletหม้อหุงข้าวพลังแสงอาทิตย์ นวัตกรรมติดดิน
bulletนาฬิกาแดดต้นแบบมิติเวลาของมนุษยชาติ
bulletภาคปฏิบัติ....วัดโลกทั้งใบด้วยไม้แท่งเดียว
bulletการอบรมเชิงปฏิบัติการ "อีราโทสทีเนส"
bulletชวนครูไทย วัดโลกทั้งใบ ด้วยไม้แท่งเดียว
dot
จับประเด็นร้อน
dot
bulletอะไรจะเกิดขึ้นถ้าแม่น้ำโขงเผชิญกับสภาพ "ไร้ตะกอน" (Hungry River)
bulletฤาตำนานหนองหารล่ม.....จะกลายเป็นเรื่องจริง
bulletทำไมคนถึงอยากครอบครอง "ดอนสวรรค์" ในบึงหนองหาร สกลนคร
bulletกู้ "หนองหาร" ด้วยมือเรา.....เริ่มต้นที่บ้าน
bulletบทเรียนอันเจ็บปวดของเขื่อนในอเมริกา....ฤา จะสะท้อนสามแสนล้านบาทเพื่อจัดการน้ำของไทย
bulletโบราณวัตถุพันปีสกลนคร....อยู่ในภาวะเสี่ยงสูญหาย
bulletภัยมืดรุกชาวสกล...จากสาหร่ายพิษในหนองหาร
bulletน้ำท่วม "ตัวเมืองสกล" บทเรียนที่น่าจะถึงเวลาสรุปเสียที
bulletพายุ "นกกระเตน" ทำเสียหายสวนยางเมืองสกล
bulletฤา...นโยบาย 300 บาท จะช่วยบรรเทาปัญหา “หัวดำออก หัวหงอกเลี้ยง”
dot
อินเดียน่าโจนส์ (ภาคสรรค์สนธิ)
dot
bulletThe Cosmic Code of Borobudur รหัสจักรวาลแห่งบูโรพุทโธ
bulletThe Riddle of Ayutthaya
bulletทำไมวันปีใหม่ต้องเป็น 1 มกราคม? Why does the new year begin on January 1 ?
bulletผลการดูงานสหกรณ์การเกษตรประเทศไต้หวัน 23 - 26 สิงหาคม 2559
bulletประกาศิตเทพเจ้ากูกูลข่าน The Return of God Kukulkan
bulletวางผังเมืองเชียงใหม่ด้วยวิธีดาราศาสตร์
bulletกุมภาพันธ์ ปี "อธิกสุรทิน" ทำไมต้อง 29 วัน
bulletมองผ่านประตูพระธาตุพนมในอีกมุม
bulletจับพิรุธรูปสลักหินอ่อน "กษัตริย์เดวิท" ที่เมืองฟอร์เรนซ์
bulletย้อนอดีตกรุงเก่าอยุธยา ถือฤกษ์ "รามนะวามิ"
bulletท่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ "โสมสูตร" ที่ปราสาทขอมในกัมพูชาหายไปไหนหมด
bulletอาทิตย์ตั้งฉากกับพุทธสถานชื่อดังในวันวิสาขบูชาโลก
bulletปราสาทพิมายในมุมมองวิทยาศาสตร์
bulletมองปราสาทขอม ในแง่มุมดาราศาสตร์ การเมือง และความเชื่อ โดยนักรบออนไลน์ กับไกด์มืออาชีพ
bulletตรุษจีน ตรุษเวียต ตรุษไทสกล และบุญเบิกฟ้า
bulletปริศนา "ปราสาทบายน" ฤา.....มนุษยชาติจะผ่านพ้นความขัดแย้ง
bulletประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ทำไมต้องใช้ชื่อว่า "วิสาขะ"
bulletราหู.....น้ำอมฤต.....สนามบินสุวรรณภูมิ
bulletอาณาจักร "ทวารวดี" ทำไมจึงล่มสลาย
bullet"มาฆบูชา" ทำไมต้องใช้ชื่อนี้
bullet"ทัชมาฮาล" ในมุมมองดาราศาสตร์
bulletคำสอนพุทธองค์เปล่งประกายอีกครั้งในดินแดนภารตะ
bulletเมือง "สารนาท" ที่มาแห่งวันอาสาฬหบูชา
bulletแกะรอย "สุริยะเทพ" ที่ปราสาทพนมบาเค็ง
bulletถอดความศิลาจารึกพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พบ "ฤกษ์อโรคยาศาล"
bulletปราสาทหินพิมาย กับสามเหลี่ยมพุทธมหายาน
bulletจากพระธาตุเชิงชุม ถึงพุทธคยา
bulletถอดรหัสขอมพันปี 80 องศา พบราศีเมษ
bulletไขปริศนาปราสาทพนมรุ้ง
bullet13 เมษายน 2551 วันสงกรานต์ จริงหรือ ?
bullet21 มี.ค. 51 ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก
bulletตำนานวันปีใหม่ มิติแห่งกาลเวลาของมนุษยชาติ
bulletเข้าพรรษา ปี 2550 ทำไมต้องมีเดือนแปดสองหน
bulletมหาสงกรานต์ 13–15 เม.ย.
bulletปฏิบัติการอีราโตสทีเนสวัดโลกทั้งใบ ด้วยไม้แท่งเดียว
bulletบ่าวคำหอม ล่ะเบ๋อ
bulletแวดวง BCL.
bulletปฏิบัติการ "อีราโทสทีเนส" วัดเส้นรอบวงโลกด้วยไม้แท่งเดียว




ทำไมชาวมายาในเม็กซิโกจึงมีรูปร่างหน้าเหมือนคนเอเซีย

 

ทำไมชาวมายาในเม็กซิโกจึงมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนเอเซีย

ทุกครั้งที่ไปเม็กซิโกมักถูกผู้คนที่นั่นคิดว่าผมก็เป็นเม็กซิกันและส่งภาษาสแปนนิชทักทาย ......... ต้องบอกเขาว่า "มาจากประเทศไทย" (Yo soy Thailandia)

 

 

 

......... ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 12,600 ปี ณ ดินแดนที่ปัจจุบันถูกตั้งชื่อว่าเมืองวิสแซล รัฐมอนทาน่า สหรัฐอเมริกา........ พ่อกับแม่ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าบรรจงวางร่างไร้วิญณาณของลูกน้อยอายุราวสองขวบลงในหลุมพร้อมกับอุปกรณ์สำคัญในการล่าสัตว์ทำจากหินและเขากวางราว 115 ชิ้น จากนั้นก็โรยฝุ่นหินสีแดงเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความผูกพันที่ไร้กาลเวลา........

          ปี 1968 คนงานก่อสร้างในที่ดินส่วนตัวของตระกูลแอนซิก (Anzick) พบหลุมฝังศพโบราณมีโครงกระดูกโรยด้วยฝุ่นหินสีแดงและอาวุธโบราณจำนวนมาก สร้างความตื่นเต้นแก่นักโบราณคดีเพราะนี่คือหลักฐานโครงกระดูกเพียงชิ้นเดียวของบรรพชนยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ถูกตั้งชื่อว่า "วัฒนธรรมโครวิส" (Clovis Culture) เรียกตามชื่อเมืองโครวิส รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ที่มีการขุดพบหอกปลายแหลมทำด้วยหินเมื่อปี ค.ศ.1930 แต่ไม่เคยพบโครงกระดูกมาก่อนเลย

           นักโบราณคดีตั้งทฤษฏีว่าชาวโครวิสน่าจะอพยพมาจากทวีปเอเซียผ่านทางแผ่นดินเชื่อมต่อระหว่างไซบีเรียกับรัฐอลาสก้าปัจจุบันเรียกว่า "ช่องแคบแบร่ิง" เพราะมีการพบหอกปลายแหลมลักษณะเดียวกันในดินแดนไซบีเรีย ทฤษฏีนี้ถูกแย้งโดยนักโบราณคดีหลายคนว่าชาวโครวิสน่าจะมาจากทวีปยุโรปเพราะที่นั่นก็มีหอกปลายแหลมเหมือนกัน ข้อถกเถียงยังคงดำเนินต่อไปหลายสิบปีเพราะขาดหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์

 

 พ่อกับแม่และสมาชิกของเผ่าช่วยกันทำหลุมฝังศพให้แก่เด็กชายอายุราวสองขวบราว 12,600 - 13,000 ปีที่แล้ว ณ ดินแดนที่ปัจจุบันเรียกว่าเมืองวิสแซล รัฐมอนทาน่า สหรัฐอเมริกา

 

 

มาถึงยุคปัจจุบัน ปี 1968 คนงานก่อสร้างขุดพบโครงกระดูกโรยด้วยฝุ่นหินสีแดง (red ochre) และหอกปลายแหลมทำด้วยหินและเขากวางราว 115 ชิ้น ทำให้นักโบราณคดีรู้ว่าเจ้าของโครงกระดูกนี้ต้องเป็นบุคคลระดับวีไอพีเพราะมีการประดับประดาด้วยอาวุธไฮเทคของยุคนั้น

 

  

นักโบราณคดีตั้งชื่อบรรพชนที่เป็นเจ้าของหอกปลายแหลมนี้ว่า "วัฒนธรรมโครวิส" (Clovis Culture) ตามชื่อเมืองโครวิส รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา (Clovis New Mexico USA) ที่มีการพบหอกปลายแหลมเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1930

 

   

นักโบราณคดีจินตนาการว่าชาวโครวิสใช้หอกปลายแหลมในการล่าสัตว์

 

 

บรรพชนวัฒนธรรมโครวิสสามารถผลิตเสื้อผ้าและเครื่องใช้จากสัตว์

 

        ทฤษฏีแบริงเจีย ....... วัฒนธรรมโครวิสมาจากทวีปเอเซีย? 

          นักโบราณคดีส่วนหนึ่งเชื่อว่าชาวโครวิสอพยพมาจากทวีปเอเซียผ่านจุดเชื่อต่อระหว่างไซบีเรียกับรัฐอลาสก้าเมื่อครั้งโลกอยู่ในยุคน้ำแข็งราว 32,000 - 18,000 ปีที่แล้ว และกลายมาเป็นบรรพชนของเผ่าอเมริกันพื้นเมืองในปัจจุบันซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนประเทศอเมริกาและประเทศต่างในอเมริกลางกับอเมริกาใต้ แต่ทฤษฏีนี้ถูกคัดค้านจากนักโบราณคดีจำนวนมากเพราะลำพังเพียงหลักฐานจาก "หอกหินปลายแหลม" มันไม่ชัดเจนเนื่องจากทั่วโลกก็มีหลักฐานลักษณะคล้ายกัน 

 

เมื่อครั้งโลกอยู่ในยุคน้ำแข็งรอยเชื่อมต่อระหว่างทวีปเอเซียกับทวีปอเมริกาเป็นแผ่นน้ำแข็งที่หนาและกว้างใหญ่จนเหมือนแผ่นดินสามารถเดินข้ามไปมาได้ ปัจจุบันเรียกว่าช่องแคบแบริ่ง และทฤษฏีนี้ถูกให้ชื่อว่า "แบริงเจีย" (Beringia)

 

  

ทฤษฏีแบริงเจียอธิบายว่าชาวเอเซียเหล่านี้อพยพและตั้งถิ่นฐานทั่วดินแดนทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ต่อมาก็กลายเป็นบรรพบุรุษของชาวพื้นเมืองในปัจจุบัน (native american) ที่เราๆท่านเรียกพวกเขาว่าอินเดียแดง มายา แอสเท็ก อินคา ฯลฯ

 

       ทำไมจึงสนใจเรื่องนี้

           จากการไปศึกษาเรื่องราวโบราณคดีและดาราศาสตร์ที่คาบสมุทรยูคาตัน ประเทศเม็กซิโก (Yucatan Mexico) ได้พบเห็นชาวพื้นเมืองเผ่ามายามีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างกับคนเอเซีย หลายครั้งพวกเขาก็คิดว่าผมเป็นพลเมืองเม็กซิกัน อีกทั้งยังได้ยินจากคนพื้นเมืองว่าเด็กแรกเกิดชาวมายามีปานสีน้ำเงินที่ภาษาแพทย์เรียกว่า Mongolian Blue Spot และจะจางหายไปเมื่ออายุราวหกขวบ ในความคิดของผมเราต้องมี "ดีเอ็นเอ" ร่วมกันอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่งั้นหน้าตาจะฟ้องขนาดนี้เชียวหรือ

 

 

สนใจศึกษาเรื่องราวของชาวมายาตั้งแต่ปี 2526 (1983) โดยซื้อหนังสือเล่มนี้ที่ร้านของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 October 1983

   

ภาพซ้ายมือยืนคู่กับสตรีชาวมายา ที่เมืองแคนคูน เม็กซิโก ภาพขวามือถ่ายกับป้าแต๋วเจ้าของร้านอาหารไทยที่เมืองทัลซ่า รัฐโอคลาโฮม่า สหรัฐอเมริกา รูปร่างหน้าตาของชาวมายากับคนไทยอยู่ในโทนเดียวกัน

 

จำแนกชาวเม็กซิกันในปัจจุบันออกเป็น 3 ลักษณะตามหลักฐานกายภาพ (Phynotypic Character) ประเภทที่ 1 เป็นฝรั่งผิวขาวเชื้อสายสแปนนิช 100% ประเภทที่ 2 เป็นลูกผสมระหว่างชาวพื้นเมืองกับฝรั่งเรียกว่า "เมสติโส้" (mestizo) ประเภทที่ 3 มายันพันธ์ุแท้ 100%  

 

 

ชาวมายามีผิวพรรณเหมือนคนไทยและตัวเตี้ยๆ ผู้ชายจะอยู่ในราว 150 ซม 

 

ยืนเปรียบเทียบกับชาวมายาที่สูงประมาณ 150 ซม

 

 

พี่น้องชาวมายาคู่นี้ก็สูงราวๆ 150 ซม 

 

เพราะชาวมายาตัวเตี้ยๆประตูโบราณสถานของพวกเขาจึงเตี้ยตาม ความสูงขนาดผม 170 ซม ต้องก้มเดินเข้าไป

 

ปราสาทบันทายศรี (Banteay Srei) ประเทศกัมพูชา กับปีรามิด Ek Balam ของชาวมายาที่เม็กซิโก มีส่วนคล้ายกันตรง "ประตูเตี้ย" 

 

ประตูของปราสาทบันทายศรี (Banteay Srei) กับปีรามิด Ek Balam ของชาวมายาที่แหลม Yacatun Mexico มีลักษณะคล้ายกันที่ "ความเตี้ย" 

 

 

 

บ้านของชาวมายาปัจจุบันนิยมมุงหลังคาด้วยใบไม้ (คนไทยเรียกหลังคาจาก) แม้ว่าพวกเขาจะหันมาพูดภาษาสแปนนิชและนับถือศาสนาคาทอลิกตามอิทธิพลของเจ้าอาณานิคมจากสเปนส์

 

   

ภายในตัวบ้านของชาวมายา ในคาบสมุทรยูคาตันใกล้ๆกับโบราณสถาน Chichen Itza 

 

อาหารของชาวมายายังคงสืบทอดแต่ครั้งบรรพบุรุษ เป็นแผ่นโรตีทำจากแป้งข้าวโพดและข้าวสาลี เรียกว่าต่อทีย่า (Tortilla)

 

 ทดสอบกินอาหารชาวมายาแท้ๆ

 

กินอาหารเสร็จก็ถ่ายรูปและขอบคุณคุณยายอายุ 76 ปี เจ้าของบ้าน

 

 

เด็กผู้หญิงชาวมายาหน้าตาก็ไม่ต่างจากชาวเอเซีย

 

 

เด็กผู้ชายชาวมายาก็เหมือนเด็กๆทั่วไปของประเทศไทย 

 

 

 ชาวมายามีเครื่องแต่กายเป็นเอกลักษณ์

 

ชาวมายารูปร่างแตกต่างจากชาวเม็กซิกันอื่นๆ และเครื่องแต่งกายก็เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะอยูที่บ้านหรือไปที่ไหนๆพวกเขาก็แต่งกายด้วยชุดประจำเผ่า

 

       การตรวจ DNA ฟันธงชาวพื้นเมืองในทวีปอเมริกามีบรรพบุรุษมาจากทวีปเอเซีย

          ได้เกริ่นแต่ต้นว่ามีการค้นพบโครงกระดูกเด็กอายุราวสองขวบที่เมืองรัฐมอนทาน่าเมื่อปี ค.ศ.1968 ในที่ดินส่วนตัวของตระกูล Anzick ครอบครัวเจ้าของที่ดินได้เก็บรักษาโครงกระดูกนี้ไว้จนถึงปี 2014 จึงยินยอมให้ทีมงานนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Texas at A & M USA และมหาวิทยาลัย Copenhagen Denmark นำไปสกัดดีเอ็นเอและจัดทำแผนที่ ดีเอ็นเอ 3 ชนิด คือ Mitochondrial DNA (mt DNA) Full nuclear DNA และ Y- Chromosome แล้วนำไปเปรียบเทียบกับตัวอย่าง DNA ของผู้คนทั่วโลก พบว่า  DNA ของโครงกระดูกชาวโครวิสตรงกับชาวพื้นเมืองปัจจุบันในทวีปอเมริกา (Native Americans) ทั้งชาวอินเดียแดง ชาวพื้นเมืองอเมริกากลาง และอเมริกาใต้

         อนึ่ง การนำโครงกระดูกของชาวพื้นเมืองในอเมริกาไปตรวจทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะประเทศอเมริกามีกฏหมายที่เรียกว่า Native American Graves Protection and Repatriation Act (NAGPRA) เพื่อคุ้มครองสิทธิการเป็นเจ้าของโดยคนพื้นเมืองและห้ามไม่ให้ผู้ใดมายุ่งเกี่ยว แต่เผอิญโครงกระดูกอันนี้เป็นสมบัติส่วนบุคคลของครอบครัว Anzick จึงมีการเลี่ยงบาลีว่าไม่เข้าข่ายกฏหมายที่ว่าแต่นักวิทยาศาสตร์ก็ต้องเจรจากับหัวหน้าเผ่าในพื้นที่อยู่นานเพราะมีเรื่องของความเชื่อโบราณ และบังเอิญอีกเช่นกันที่ลูกสาวของครอบครัวนี้คือ Dr.Sarah Anzick เป็นนักวิทยาศาสตร์สาขา Molecular Biology (ตอนที่พบโครงกระดูกเมื่อปี1968 Sarah Anzick อายุเพียง 2 ขวบ) จึงเจรจาให้ครอบครัวของเธออนุญาตให้มีการตรวจ DNA ด้วยข้อแม้ว่าเธอต้องร่วมงานครั้งนี้ด้วย และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้วต้องนำโครงกระดูกไปฝังยังที่เดิมพร้อมกับประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ 

 

บริเวณที่ขุดพบโครงกระดูกเด็กชาวโครวิส และถูกตั้งชื่อว่า Anzick -1 

 

โฉมหน้าทีมตรวจ DNA ประกอบด้วย Dr.Eske Willerslev จาก University of Copenhagen Dr.Michael Waters จาก University of Texas at A & M และ Dr.Sarah L Anzick ลูกสาวเจ้าของโครงกระดูก

 

คำอธิบายเรื่องราวของการตรวจ DNA จากโครงกระดูก Anzick - 1

 

ชาวพื้นเมืองในทวีปอเมริกาซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก Clovis Culture

 

University of Cambridge ก็ยืนยันผลการตรวจ DNA ว่าชาว Clovis มาจากทวีปเอเซีย ท่านๆที่สนใจในรายละเอียดก็สามารถเข้าไปอ่านที่เว้ปไซด์ หรือใช้ Keyword ว่า clovis from Asia 

 

โฉมหน้า Dr.Andrea Manica จากมหาวิทยาลัยเคมบริจด์ เป็นอีกท่านหนึ่งที่ยืนยันว่า DNA ของ Clovis มาจากเอเซีย

 

 

ตอนแรกๆที่พบหอกปลายแหลมที่ถูกตั้งชื่อว่า Clovis Point ยังไม่สามารถฟันธงว่าพวกเขามาจากทวีปเอเซีย จึงเป็นเพียง "เชื่อว่า และน่าจะ" 

 

โฉมหน้าชาวพื้นเมืองในทวีปอเมริกาปัจจุบัน ถ้าเอามาเดินอยู่แถวๆจังหวัดสมุทรสาครก็ไม่ต่างกับแรงงานพม่าและแรงงานกัมพูชา 

 

 Dr.Sarah Anzick นำโครงกระดูกกลับมาฝังที่เดิม โดยมีหัวหน้าเผ่าพื้นเมืองเป้นสักขีพยาน

 

มีการทำพิธีตามแบบฉบับชาวพื้นเมืองอย่างชนิดจัดเต็ม

 

        ชาวเอเซียบุกทวีปอเมริกาอีกครั้งในยุคปัจจุบัน

           ทุกวันนี้ชาวอเมริกันโดยสัญชาติ (American Citizen) จำนวนหลายล้านคนเป็นชาวเอเซียจากประเทศต่าง เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ไทย ลาว กัมพูชา เนปาล อินเดีย ปากีสถาน อิหร่าน มาเลเซีย ภูฐาน พม่า แม้กระทั้งชนกลุ่มน้อยอย่างชาวม้ง และไทดำ ก็เป็นอเมริกันโดยสัญชาติ ที่รัฐ Iowa จึงมีสมาคมชาวเอเซีย (Asian Alliance) ตั้งมาเกือบสามสิบปี และมีการจัดงาน Asian Festival ทุกๆปีในเดือนพฤษภาคม ทุกวันนี้ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเซียทำงานทำการเป็นนักธุรกิจ ผู้รับเหมา นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ พยาบาล ตำรวจ ทหารแทบทุกเหล่า วิศวกร และอีกหลากหลายอาชีพ พวกเขาสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงให้กับประเทศอเมริกาด้วยการสร้างผลงานนานนาชนิดและที่สำคัญจ่ายภาษีให้แก่คุณลุงแซมชนิดจัดเต็ม อาจเรียกได้ว่าพวกเขาเหล่านี้เป็น "วัฒนธรรมโครวิสยุคศตวรรษที่ 21" (The 21st Century Clovis Culture)  

 

 

พิธีเปิดการจัดงาน Asian Festival ประจำปี 2019 ระหว่าง 25 - 26 May 

 

หมื่นกว่าปีที่แล้วในยุค "น้ำแข็ง" ชาวเอเซียอพยพเข้าสู่ทวีปอเมริกาผ่านช่องแคบแบริ่งโดยเดินบน Land-bridge ที่เป็นน้ำแข็ง

 

ชาวเอเซียในยุคหมื่นกว่าปีที่แล้วใช้วิธีเดินจากทวีปเอเซียเข้าสู่ทวีปอเมริกาพวกเขาน่าจะใช้เวลาหลายชั่วอายุคน

 

ยุคปัจจุบันชาวเอเซียอพยพเข้าสู่อเมริกาผ่านช่องแคบแบริ่งเหมือนเมื่อหมื่นกว่าปีที่แล้วแต่พวกเขานั่งบนเครื่องบินใช้เวลาเพียง 10 - 15 ชั่วโมง

 

ชาวเอเซียเหล่านี้เป็น "วัฒนธรรมโครวิส ยุคศตวรรษที่ 21" 

 

เปรียบเทียบระหว่างชาวเอเซียในยุคก่อนประวัติศาสตร์กับชาวเอเซียในยุคปัจจุบันที่ประเทศอเมริกา

 

          สรุป

          ความคิดของผมที่เชื่อว่า "ชาวมายา" มีบรรพบุรุษจากทวีปเอเซีย ได้รับการยืนยันด้วยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ บวกกับหลักฐานทางกายภาพที่เรียกว่า "ตาดูหูฟัง" จึงไม่ต้องสงสัยอีกต่อไปว่าทำไมชาวมายาในคาบสมุทรยูคาตันกับผมจึงมีหน้าตาเหมือนกันมากถึงมากที่สุด ........ และนี่ก็คือเหตุผลที่ผมชอบไปค้นคว้าเรื่องโบราณคดีและดาราศาสตร์ที่ประเทศเม็กซิโกเป็นประจำทุกปี  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

   

 

 

 

   

 

 







Copyright © 2010 All Rights Reserved.
มูลนิธิเพื่อการพัฒนาผู้นำธุรกิจและชุมชน
The Foundation for Business and Community Leadership Development
โดย
นายอารีย์ ภู่สมบูญ
ประธานกรรมการมูลนิธิฯ