ReadyPlanet.com
dot
dot
สืบเสาะเจาะลึกเมืองสกล
dot
bulletMegalithic Gate of Equinox ...... Sakon Nakhon Thailand
bulletปฏิทินท่องเที่ยวดาราศาสตร์และโหราศาสตร์เมืองสกล Mar 2024 - Feb 2025
bulletหนองหารหลวง ....... นครแห่ง "สุริยะปฏิทินพันปี"
bulletหนองหารหลวง ........ เมืองแห่ง "มหาสงกรานต์" จริงหรือ?
bulletปราสาทนารายณ์เจงเวง .....อะไรหายไปแล้ว อะไรเสี่ยงสูญหาย
bulletปราสาทภูเพ็ก ถูกดัดแปลง?
bulletสะพานขอมปัจจุบัน ....... โบราณสถานตัวจริง หรือสร้างใหม่?
bulletนาฬิกาแดดขนาดยักษ์เมืองสกล Google Earth ก็มองเห็น
bulletนาฬิกาแดดโรงเรียนวิถีธรรมเมืองสกล ...... มรดกจากบรรพชน
bulletSakon Hempmade มิติใหม่อุตสาหกรรมสิ่งทอ
bulletความรู้ปัจจุบัน ฤาจะเทียบชั้นกับวันวาน Ancient Wisdom V/S Digital Technology
bulletพบฐานรากปราสาทขอมใกล้ลำน้ำก่ำ
bulletปราสาทภูเพ็ก สกลนคร สุดๆแห่งปราสาทขอมในประเทศไทย
bulletปฏิบัติการภูเพ็ก ดอนสวรรค์ พิสูจน์คำทำนายซินแส ฮวงจุ้ยเมืองสกล
bulletสุริยะปฏิทินขอมพันปี
bullet "อาทิตย์ทรงกลด" ณ ปราสาทขอมเมืองสกล วิทยาศาสตร์ที่ลงตัวกับความเชื่อ
bulletโลกล้านปีที่แอ่งสกลนคร
bulletกลุ่มชาติพันธุ์ไทโส้ ....... เป็นใคร ....... มาจากไหน?
bulletพระยาสุระอุทก .......หนองหารหลวง ตำนานที่จับต้องได้
bulletรับพลังสุริยะยุคก่อนประวัติศาสตร์ ...... ที่สกลนคร
bulletกรมศิลปากรโยนหินถาม...เอกสารสิทธิ์ทับคูเมืองสกลโบราณ จะออกทางไหน
bulletหลากมิติอารยธรรม 4 ยุค "บ้านท่าวัด" ริมหนองหาร สกลนคร
bulletถอดจารึกขอม "ภูถ้ำพระ" ทำไมพระพุทธรูปไปอยู่ที่นั่น
bulletปราสาทขอมเมืองสกล.....เอาหินมาจากไหน ?
bulletพระธาตุดุม....ในอีกมุมมอง
bulletมุมมองใหม่ "สะพานขอม" ฝายทดน้ำชลประทาน
bulletไขความลับปราสาทนารายณ์เจงเวง
bulletหนองหารหลวงเมืองหน้าด่าน ยันกับอาณาจักรจาม
bulletไขประตูสู่อดีตพระธาตุเชิงชุม ...... ในอีกมุมมอง
bulletประตูเมืองโบราณสกลนครอยู่ตรงไหน
bulletปฏิบัติการ "มหาสงกรานต์" ไขปริศนาจารึกเมืองสกลโบราณ
dot
เปิดประเด็นการท่องเที่ยว
dot
bulletปราสาทบ้านปรางค์ มิติดาราศาสตร์และศาสตร์แห่งความเชื่อ
bulletปลานิล Biofloc "Safe and Saab"
bulletStory Board มหัศจรรย์ปราสาทภูเพ็ก ตำนานที่จับต้องได้
bulletเรือท่องเที่ยวหนองหารขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
bulletตัวอย่าง เส้นทางท่องเที่ยวสกลนคร 2 วัน 1 คืน
bulletยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเส้นทาง "ราชมรรคา"
bulletTourism Gimmick
bulletTourism Project Proposal
bulletสุริยะปฏิทินจักรราศีดอนสวรรค์ Don Sawan Zodiacal Solar Calendar
bulletSt.Peter's Fish โปรโมทการท่องเที่ยวและสร้างอาชีพใหม่....สกลนคร
bulletBig Project Tourism SNO
bulletAdventure Tourism (Search-Found-Selfie) ลุยป่าค้นหาขอมพันปี
dot
ปฏิบัติการดาราศาสตร์ Operation Astronomy
dot
bulletOperation Equinox 2024
bulletOperation Spica .... ไขปริศนา "เมืองโบราณศรีเทพ"
bulletย้อนอดีต "ราหูอมสุริยา" ก่อนเปลี่ยนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
bulletOperation Rahu Episode XV วัดระยะทาง โลก - ดวงจันทร์ - ดวงอาทิตย์
bulletเจาะลึกเบื้องหลังเมืองโบราณศรีเทพ Operation Spica EP 2
bulletOperación Intercontinental Solsticio de Invierno ปฏิบัติการดาราศาสตร์ เห-มา-ยัน ข้ามทวีป ไทย - เม็กซิโก ธันวาคม 2022
bulletOperation Rahu Episode XIV Total Lunar Eclipse 8 Nov 2022 How Far is The Moon?
bulletOperation Transcontinental Equinox 2022 ปฏิบัติการวสันตวิษุวัตข้ามทวีป 2565
bulletOperation Chou Li Episode V ..... Earth's axis tilt 23.5?
bulletOperation Rahu Episode XIII How Far is the Moon (Lunar Eclipse 26 May 2021)
bulletOperation Bhishma Winter Solstice 2020 finding Earth's axis tilt
bulletOperation Rahu Episode XII Solar Eclipse and Summer Solstice 21 June 2020 How far and how big is the sun
bulletOperation Rahu Episode XI How far is the sun
bulletปฏิบัติการราหู ครั้งที่ 10 (Operation Rahu X) วัดระยะทางโลก - ดวงอาทิตย์ ปรากฏการณ์สุริยะปราคาเต็มดวง
bulletปฏิบัติการชูหลี 4 มุมเอียงโลกยังคง 23.5 หรือไม่ (Operation Chou Li Episode IV)
bulletOperation Eratosthenes Episode II Mar 21, 2019 Measure Earth's circumference with one stick
bulletปฏิบัติการวันสิ้นโลกภาคสาม Operation Doomsday Episode III
bulletOperation Galileo Episode II วัดความเร็วของโลก "หมุนรอบตัวเอง (Rotation) และโคจรรอบดวงอาทิตย์ (Revolution)"
bulletOperation Rahu IX 28 July 2018 Total Lunar Eclipse วัดระยะทางโลก - ดวงจันทร์
bulletOperation Rahu VIII Measuring Distance Earth-Moon ปฏิบัติการข้ามทวีป Thailand - USA
bulletOperation Chou Li Episode III (Measure Earth Axis Tilt With One Stick)
bulletปฏิบัติการไจตระ ถอดรหัสคณิตศาสตร์ขอมพันปี ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร
bulletปฏิบัติการดาราศาสตร์ข้ามทวีป Operation Transcontinental Equinox 2016
bulletOperation Bhishma 2016 ปฏิบัติการดาราศาสตร์ข้ามทวีป ..... การหมุนรอบตัวเองและวงโคจรของโลกยังคงปกติหรือไม่?
bulletวัดมุมเอียงของโลก...ด้วยไม้แท่งเดียว
bulletOperation Rahu Episode I measuring earth to moon วัดระยะทางจากโลกถึงดวงจันทร์ ในปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง
bulletOperation Rahu Episode II สูตรใหม่คำนวณระยะทางโลกไปดวงจันทร์
bulletปฏิบัติการ "เจนัส" วัดมุมเอียงของโลก
bulletOperation Rahu Episode III 4 April 2015 วัดระยะทางโลกไปดวงจันทร์
bulletปฏิบัติการเวกัส 2558 "อีราโต้สทีเน้ส " ภาค 2 วัดโลกทั้งใบด้วยไม้แท่งเดียว
bulletOperation Rahu Episode IV วัดระยะทางโลก - ดวงจันทร์
bulletปฏิบัติการชูหลี (Operation Chou Li) ยืนยันมุมเอียงโลก 23.5 องศา
bulletOperation Rahu Episode V วัดระยะทางโลก - ดวงอาทิตย์
bulletOperation Rahu Episode VI How far and how big is the Moon
bulletOperation Rahu Episode VII How far and how big is the sun
bulletOperation Chou Li Episode II (Measuring Earth's Tilt)
bulletวัดโลกทั้งใบ ไทย กัมพูชา ปฏิบัติการ "อีราโตสทีเนส" ข้ามประเทศ
bulletปฏิบัติการ "กาลิเลโอ" วัดความเร็วการหมุนของโลกที่ปราสาทภูเพ็ก
bulletปฏิบัติการวันสิ้นโลกภาค 2 ข้ามทวีป ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร VS ปีรามิดเผ่ามายา เม็กซิโก
dot
แนะนำผู้เขียน
dot
bulletนายกสโมสรโรตารีสกลนคร ปีบริหาร 2556 - 2557
bulletสรรค์สนธิ บุณโยทยาน
dot
สากกะเบือยันเรือรบ กับปราสาทภูเพ็ก สกลนคร
dot
bulletปฏิบัติการอัสวีน่า ปราสาทภูเพ็ก (Operation Ashvina 23 Sep 2019)
bulletพระพุทธรูปศิลปะขอมซ่อนอยู่ใต้โพรงหินที่ปราสาทภูเพ็ก.....สื่อถึงอะไร
bulletภูเพ็ก....เมกกะโปรเจค นครที่สาปสูญ
bulletปฏิบัติการวันสิ้นโลก 2012 ท้าพิสูจน์ที่ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร
bulletความเป็นมาของปราสาทภูเพ็ก
bulletตลึง ! พบ “ฝายหินพันปี” กลางป่าภูเพ็ก
bulletครบรอบ 10 ปี การค้นพบ "สุริยะปฏิทินพันปี" ปราสาทภูเพ็ก
bulletปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ "เหมายัน" 21 -22 ธันวาคม ที่ปราสาทภูเพ็ก
bulletเผยเทคนิคการออกแบบก่อสร้างปราสาทภูเพ็ก
bulletความเป็นมาของสุริยปฏิทิน
bulletพิสูจน์สุริยะวิถี กับปฏิทินมหาศักราชที่ปราสาทภูเพ็ก
bulletรับพลัง "สุริยันจันทรา" ประชันดาวหางแพนสตาร์
dot
เปิดโลกวิทยาศาสตร์
dot
bulletปลูกป่าส่วนตัว กับ 2050 Net Zero Mission Impossible?
bulletพิสูจน์เชิงประจักษ์ "ปลูกป่าให้โตเร็ว" ด้วยธนาคารน้ำใต้ดิน
bulletBiofloc ...... Fish Farm 4.0
bulletทำไมเดือนกุมภาพันธ์ มี 28 วัน
bulletBiofloc Farming เลี้ยงปลาระบบปิด Fisheries 4.0
bulletข้าวหอมมะลิใช้น้ำน้อย 2019
bulletClimate Change Mitigation & Adaptation "It's Now or Never"
bulletฟาร์มปลาเชิงพาณิชย์ใช้น้ำน้อยระบบ Biofloc
bulletข้าวหอมมะลิใช้น้ำน้อย 2561 (2018)
bulletGroundwater Bank (An alternative water management)
bulletข้าวหอมมะลิกับดาราศาสตร์ ปลูกปีละ 2 ครั้ง ได้หรือไม่?
bulletHow Herbal Medicine Works
bulletระบบให้น้ำโรงเรือนปลูกผักบริษัทประชารัฐ สกลนคร
bulletป่าเศรษฐกิจครอบครัวทางเลือกใหม่ win win ทั้งชาวบ้านและรัฐบาล
bulletEarth and Space Class
bulletวิเคราะห์ฤกษ์รัตนโกสินทร์ในมุมวิทยาศาสตร์
bulletปฏิบัติการพิมาย ชาตินี้มีครั้งเดียว Operation Phimai Once or Never
bulletนาฬิกาแดดโรงเรียนวิถีธรรม ม.ราชภัฏสกลนคร
bulletทำไมชาวมายาในเม็กซิโกจึงมีรูปร่างหน้าเหมือนคนเอเซีย
bulletปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ตรงศรีษะ (sun overhead)
bulletเกาะติดไปกับยาน New Horizons เผยความลับพลูโต "ดาวเคราะห์ลูกเมียน้อย"
bulletทำนาน้ำน้อยแต่ผลผลิตสูง เป็นไปได้หรือไม่ More Rice With Less Water?
bullet21-22 มิถุนายน ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ "ครีษมายัน" Summer Solstice กลางวันยาวที่สุดในรอบปี
bulletดางหาง ISON ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ปิดท้ายปี 2556
bulletมองหมากเม่าผ่านมิติดาราศาสตร์
bulletดาราศาสตร์ที่เราเห็น.....ล้วนเป็นภาพลวงตา
bulletเข้าพรรษาบางปีทำไมต้องเดือน 8-8
bulletประสบการณ์ตรงเรื่อง "ยูเอฟโอ" ผมคิดแบบวิทยาศาสตร์
bulletเกาะติดการค้นหาชีวิตบนดาวอังคาร กับยาน Curiosity
bulletหม้อหุงข้าวพลังแสงอาทิตย์ นวัตกรรมติดดิน
bulletนาฬิกาแดดต้นแบบมิติเวลาของมนุษยชาติ
bulletภาคปฏิบัติ....วัดโลกทั้งใบด้วยไม้แท่งเดียว
bulletการอบรมเชิงปฏิบัติการ "อีราโทสทีเนส"
bulletชวนครูไทย วัดโลกทั้งใบ ด้วยไม้แท่งเดียว
dot
จับประเด็นร้อน
dot
bulletอะไรจะเกิดขึ้นถ้าแม่น้ำโขงเผชิญกับสภาพ "ไร้ตะกอน" (Hungry River)
bulletฤาตำนานหนองหารล่ม.....จะกลายเป็นเรื่องจริง
bulletทำไมคนถึงอยากครอบครอง "ดอนสวรรค์" ในบึงหนองหาร สกลนคร
bulletกู้ "หนองหาร" ด้วยมือเรา.....เริ่มต้นที่บ้าน
bulletบทเรียนอันเจ็บปวดของเขื่อนในอเมริกา....ฤา จะสะท้อนสามแสนล้านบาทเพื่อจัดการน้ำของไทย
bulletโบราณวัตถุพันปีสกลนคร....อยู่ในภาวะเสี่ยงสูญหาย
bulletภัยมืดรุกชาวสกล...จากสาหร่ายพิษในหนองหาร
bulletน้ำท่วม "ตัวเมืองสกล" บทเรียนที่น่าจะถึงเวลาสรุปเสียที
bulletพายุ "นกกระเตน" ทำเสียหายสวนยางเมืองสกล
bulletฤา...นโยบาย 300 บาท จะช่วยบรรเทาปัญหา “หัวดำออก หัวหงอกเลี้ยง”
dot
อินเดียน่าโจนส์ (ภาคสรรค์สนธิ)
dot
bulletThe Cosmic Code of Borobudur รหัสจักรวาลแห่งบูโรพุทโธ
bulletThe Riddle of Ayutthaya
bulletทำไมวันปีใหม่ต้องเป็น 1 มกราคม? Why does the new year begin on January 1 ?
bulletผลการดูงานสหกรณ์การเกษตรประเทศไต้หวัน 23 - 26 สิงหาคม 2559
bulletประกาศิตเทพเจ้ากูกูลข่าน The Return of God Kukulkan
bulletวางผังเมืองเชียงใหม่ด้วยวิธีดาราศาสตร์
bulletกุมภาพันธ์ ปี "อธิกสุรทิน" ทำไมต้อง 29 วัน
bulletมองผ่านประตูพระธาตุพนมในอีกมุม
bulletจับพิรุธรูปสลักหินอ่อน "กษัตริย์เดวิท" ที่เมืองฟอร์เรนซ์
bulletย้อนอดีตกรุงเก่าอยุธยา ถือฤกษ์ "รามนะวามิ"
bulletท่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ "โสมสูตร" ที่ปราสาทขอมในกัมพูชาหายไปไหนหมด
bulletอาทิตย์ตั้งฉากกับพุทธสถานชื่อดังในวันวิสาขบูชาโลก
bulletปราสาทพิมายในมุมมองวิทยาศาสตร์
bulletมองปราสาทขอม ในแง่มุมดาราศาสตร์ การเมือง และความเชื่อ โดยนักรบออนไลน์ กับไกด์มืออาชีพ
bulletตรุษจีน ตรุษเวียต ตรุษไทสกล และบุญเบิกฟ้า
bulletปริศนา "ปราสาทบายน" ฤา.....มนุษยชาติจะผ่านพ้นความขัดแย้ง
bulletประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ทำไมต้องใช้ชื่อว่า "วิสาขะ"
bulletราหู.....น้ำอมฤต.....สนามบินสุวรรณภูมิ
bulletอาณาจักร "ทวารวดี" ทำไมจึงล่มสลาย
bullet"มาฆบูชา" ทำไมต้องใช้ชื่อนี้
bullet"ทัชมาฮาล" ในมุมมองดาราศาสตร์
bulletคำสอนพุทธองค์เปล่งประกายอีกครั้งในดินแดนภารตะ
bulletเมือง "สารนาท" ที่มาแห่งวันอาสาฬหบูชา
bulletแกะรอย "สุริยะเทพ" ที่ปราสาทพนมบาเค็ง
bulletถอดความศิลาจารึกพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พบ "ฤกษ์อโรคยาศาล"
bulletปราสาทหินพิมาย กับสามเหลี่ยมพุทธมหายาน
bulletจากพระธาตุเชิงชุม ถึงพุทธคยา
bulletถอดรหัสขอมพันปี 80 องศา พบราศีเมษ
bulletไขปริศนาปราสาทพนมรุ้ง
bullet13 เมษายน 2551 วันสงกรานต์ จริงหรือ ?
bullet21 มี.ค. 51 ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก
bulletตำนานวันปีใหม่ มิติแห่งกาลเวลาของมนุษยชาติ
bulletเข้าพรรษา ปี 2550 ทำไมต้องมีเดือนแปดสองหน
bulletมหาสงกรานต์ 13–15 เม.ย.
bulletปฏิบัติการอีราโตสทีเนสวัดโลกทั้งใบ ด้วยไม้แท่งเดียว
bulletบ่าวคำหอม ล่ะเบ๋อ
bulletแวดวง BCL.
bulletปฏิบัติการ "อีราโทสทีเนส" วัดเส้นรอบวงโลกด้วยไม้แท่งเดียว




ย้อนอดีตกรุงเก่าอยุธยา ถือฤกษ์ "รามนะวามิ"

 

ย้อนอดีตกรุงเก่าอยุธยา ถือฤกษ์ "ราม นะวามิ"

           เมืองเก่าอยุธยาเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคณะไม่เคยพลาด และทราบกันดีว่าเมืองนี้เป็นราชธานีของพระเจ้าอู่ทองปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ.1893 คำว่า "อยุธยา" มาจากเมือง "อโยธยา" ริมแม่น้ำสรายุ รัฐอุตาระประเทศ อินเดีย ที่นี่เป็นบ้านเกิดของ "พระราม" ซึ่งชาวฮินดูในประเทศอินเดียให้ความนับถืออย่างมากและเชื่อกันอย่างแพร่หลายว่าพระรามมีตัวตนจริงๆเมื่อ 5114 ปี ก่อนคริสตกาล

 

 

          ผมได้ให้ข้อมูลกับมัคคุเทศก์อาชีพ 160 ท่าน โดยตั้งคำถามว่าทำไมวัดต่างๆจำนวนมากในเมืองเก่าอยุธยาจึงพร้อมใจกันหันหน้าไปที่มุมกวาด 85 องศา (Azimuth 85) ในระหว่างอบรมหลักสูตร "การสร้างปราสาทขอมกับหลักดาราศาสตร์" ซึ่งจัดโดยกรมการท่องเที่ยวร่วมกับสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 - 24 กันยายน 2557 และ 18 - 22 มีนาคม 2558 มีการดูงานและฝึกปฏิบัติการทางดาราศาสตร์ที่วัดชัยวัฒนาราม และวัดมหาธาตุ เมืองเก่าอยุธยา

 

 

กำลังบรรยายข้อมูลดาราศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเมืองอยุธยาแก่มัคคุเทศก์อาชีพที่หน้าวัดชัยวัฒนาราม 

 

อีกมุมของการบรรยายสดเรื่อง "อยุธยากับดาราศาสตร์" แก่มัคคุเทศก์อาชีพ

 

          ราม นะวามิ คืออะไร และทำไมเกี่ยวข้องกับกรุงศรีอยุธยา          

           ในฐานะนักเรียนเก่าจากมหาวิทยาลัยในประเทศอินเดียระหว่าง พ.ศ.2512 - 2517 ผมคุ้นเคยกับคำว่า "ราม นะวามิ" (Ram Nawami) เพราะเป็นวันหยุดราชการของรัฐบาลอินเดียเพื่อรำลึกถึงวันเกิดของพระราม จากเอกสารประวัติการก่อตั้งกรุงศรีอยุธยามีข้อความกล่าวถึงพระเจ้าอู่ทองส่งคณะช่างไปดูงานที่เมืองอโยธยา ประเทศอินเดีย เพราะพระองค์มีความเชื่อในเรื่องศาสนาฮินดูประกอบกับข้อมูลสมมุติฐานว่าพระองค์สืบเชื้อสายมาจาก "ลพบุรี" ดังนั้น การสร้างเมืองอยุธยาจึงต้องใช้สะเป็กเดียวกันกับต้นแบบที่อินเดีย

           ชาวฮินดูจำนวนมากเชื่อว่าพระรามมีตัวตนจริงๆไม่ใช่เรื่องนิยายอย่างที่เราๆท่านๆในประเทศไทยได้รับทราบจากวรรณคดีรามเกียรติ์ พวกเขาเชื่อว่าพระรามถือกำเนิด ณ ริมฝั่งแม่น้ำสรายุ เมื่อวันที่ 10 มกราคม ปี 5114 ก่อนคริสตกาล ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดข้อขัดแย้งอย่างรุนแรงที่เมืองอโยธยาเพราะชาวฮินดูซึ่งเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ต้องการสร้าง "วิหารพระราม" ขึ้นมาใหม่ในบริเวณที่เป็นมัสยิดของชาวมุสลิม จนเรื่องนี้เป็นคดีฟ้องร้องถึงศาลและมีคำตัดสินให้ "แบ่งกันอยู่คนละส่วน" แต่ทุกครั้งเมื่อถึงเทศกาลฉลองวันเกิดพระรามในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนผู้คนจะแห่กันไปลงแม่น้ำสรายุ และเมื่อมีการรวมตัวกันมากๆเข้าก็เสี่ยงต่อการก่อเหตุบุกเข้าทำลายมัสยิด ร้อนถึงรัฐบาลต้องส่งทหารเข้าไปควบคุมสถานะการณ์

 

     

นักวิชาการชาวอินเดียใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ดาราศาสตร์คำนวณปรากฏการณ์ย้อนหลังไปถึงวันเกิดพระราม 10 มกราคม 5114 ปี ก่อนคริสตกาล โดยระบุว่าในวันนั้นตรงกับขึ้น 9 ค่ำ และดวงอาทิตย์อยู่ในราศีเมษ ขณะเดียวกันก็มีรายละเอียดว่าดาวอังคารอยู่ในราศีแพะทะเล ดาวเสาร์ในราศีคันช่าง ดาวพฤหัสในราศีปู และดาวศุกร์ในราศีมีน

 

 ตามความเชื่อของชาวฮินดูพระรามเป็นอวตาลลำดับที่ 7 ของพระวิศนุ ซึ่งมาเกิดเป็นมนุษย์บนโลกเพื่อปราบอสูรร้ายที่ชื่อว่า "ราวันน่า" คนไทยเรียกว่า "ทศกัณฑ์"

 

อโยธยา ริมแม่น้ำสรายุ บ้านเกิดของพระราม

 

วิหารพระราม (Ram Temple) ที่ชาวฮินดูต้องการสร้างขึ้นมาใหม่ ณ สถานที่เดิมที่เชื่อว่าเคยอยู่ตรงนี้ แต่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของมัสยิด 

 

          จากข้อมูลวันเกิดพระรามตามความเชื่อของชาวฮินดูที่ระบุว่าตรงกับขึ้น 9 ค่ำ และดวงอาทิตย์อยู่ในราศีเมษ ทำให้ผมต้องมานั่งคำนวณอย่างละเอียดในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดาราศาสตร์ด้วยการใช้วิธีสร้างภาพจำลองย้อนหลังไปในปรากฏการณ์ที่สร้างกรุงศรีอยุธยาโดยอาศัยข้อมูล ดังนี้

           1.ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่เรียกว่า Waxing Gibbous 9 ใกล้ๆกับราศี Gemini and Cancer และ Sun in Aries ซึ่งตรงกับวันเกิดพระราม หรือ ราม นะวามิ (Ram Nawami) 

           2.เชื่อว่าพระเจ้าอู่ทองมีพราหมณ์ในราชสำนักเป็นผู้คำนวณหาฤกษ์ดังกล่าว โดยได้รับข้อมูลตรงจากการดูงานที่เมืองอโยธยา 

          3.ท่านพราหมณ์เป็นผู้ "วางแนว" เสาเอกซึ่งเป็นแกนหลักของเมืองให้ตรงกับดวงอาทิตย์ในปรากฏการณ์ ขึ้น 9 ค่ำ และราศีเมษ เพื่อให้สอดคล้องกับฤกษ์ของเมืองอโยธยาที่อินเดีย  

          สิ่งที่ผมพบและมีหลักฐานทางดาราศาสตร์ยืนยันสอดคล้องกับวัตถุพยานของวัดสำคัญต่างๆในเมืองเก่าอยุธยาที่พร้อมใจกันหันหน้าไปที่มุมกวาด 85 องศา (Azimuth 85) ก็คือ

           "ได้ฤกษ์การปักหมุดกำหนดแกนหลักของเมืองตรงกับวันที่ 29 - 30 มีนาคม พ.ศ.1892 (AD 1349) สอดคล้องกับปรากฏการณ์บนท้องฟ้า เพื่อเป็นเตรียมการล่วงหน้าสำหรับพิธีสถาปนาเมืองอยุธยาอย่างเป็นทางการในปีถัดไป พ.ศ.1893" 

          1.0:09 AM วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.1892 ดวงจันทร์ข้างขึ้น 9 ค่ำ และอยู่ใกล้กับราศีคนคู่ (Gemini) และราศีปู (Cancer) 

          2.เช้าวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 1892 ดวงอาทิตย์ขึ้นในราศีเมษ ที่มุมกวาด 85 องศา (Azimuth 85) เวลา 06:47 นาที

 

 ปัจจุบันชาวอินเดียกำหนดวันเกิดพระราม (Ram Navami) ตรงกับขึ้น 9 ค่ำ เดือน Chaitra ของปฏิทินมหาศักราชของฮินดู (Saka Calendar) เทียบกับปฏิทินสากล (Gregorian Calendar) ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม ถึง 20 เมษายน 

 

ปฏิทินมหาศักราชของอินเดียที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เปรียบเทียบกับปฏิทินสากล (Gregorian Calendar)

 

คืนวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 1349 พ.ศ. 1892 ดวงจันทร์ข้างขึ้น 9 ค่ำ ในราศี Cancer เวลา 07:52 PM

 

ดวงอาทิตย์ขึ้นในราศีเมษ ที่มุมกวาด 85 องศา วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.1892 (AD 1349) เวลา 06:49 AM 

 

          นี่คือเหตุผลยืนยันว่าทำไมวัดสำคัญต่างๆในกรุงเก่าอยุธยาจึงต้องหันหน้าไปที่มุมกวาด 85 องศา (Azimuth 85) เพื่อให้สอดคล้องกับสะเป็กของฤกษ์ "ราม นะวามิ อโยธยา"   

           ดังเช่น วัดพระราม วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดโลกยสุธาราม วัดวรเชษฐาราม และวัดศรีสรรเพชญ์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

           พิสูจน์ด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ว่าวัดมหาธาตุหันไปที่มุมกวาด 85 องศา

           เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2558 ผมและคณะมัคคุเทศก์อาชีพ 80 ท่าน ได้ทำการลงพื้นที่ที่วัดมหาธาตุและทดสอบการใช้อุปกรณ์ทันสมัยคือ Smart Phone ควบคู่กับ Magnetic Compass เพื่อพิสูจน์ว่าวัดมหาธาตุหันหน้าไปที่มุมกวาด 85 องศา จริงหรือไม่ ผลปรากฏตามที่เห็นในภาพครับ

 

 

มัคคุเทศก์อาชีพทุกท่านกำลังฝึกใช้อุปกรณ์ไฮเท็คในการวัดองศาของมุมกวาดที่วัดมหาธาตุ

 

หลายท่านเริ่มชำนาญขึ้นมากสามารถใช้ smart phone อย่างคุ้มค่าที่ซื้อมาแพงๆ

 

Iphone 4 ของผมแสดงตัวเลข Azimuth 85 

 

เข็มทิศแสดงแนว center-line ของวัดมหาธาตุ ชี้ไปที่มุมกวาด 85 องศา (Azimuth 85)  

 

แปลนวัดมหาธาตุแสดงมุมกวาด 85 องศา (Azimuth 85)

 

       วัดพุทไธศวรรย์ วัดไชยวัฒนาราม และวัดอรุณ คือปริศนาที่ต้องขบคิดต่อไป

           จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่าวัดพุทไธศวรรย์ วัดไชยวัฒนาราม และวัดอรุณ ซึ่งสร้างในยุคกรุงศรีอยุธยาแต่ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งสามแห่งหันหน้าไปที่มุมกวาด 70 องศา เหมือนกันหมด และเผอิญตรงกับแนว East - West ของปราสาทพิมาย ทำให้ปรากฏการณ์ sunrise and sunset เป็นวันเดียวกันกับปราสาทพิมาย

 

ภาพถ่าย Google Earth แสดงมุมกวาดของวัดทั้งสามแห่งที่ 70 องศา (azimuth 70) และตั้งอยู่ทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนกันทั้งสามวัด

 

Center-line จองวัดทั้งสามแห่งตรงกับแนว East - West ของปราสาทพิมาย

 

ปรากฏการณ์ sunrise and sunset ของวัดทั้งสามแห่งจึงเป็นช่วงวันเดียวกันกับปราสาทพิมาย

 

ปรากฏการณ์ Sunset ที่วัดอรุณ กทม และวัดชัยวัฒนาราม อยุธยา 27 มกราคม 2562 ขอขอบคุณภาพถ่ายจาก Guide Ning Nuanwan Hansanawin and น้องเต๋า (Tow Napapahn) หลานสาวของผมที่เป็นชาวอยุธยาโดยกำเนิด 

 

ดวงอาทิตย์หย่อนตัวลงด้านหลังวัดอรุณอย่างสวยงาม ฝีมือถ่ายภาพจาก Guide Ning Nuanwan Hansanawin 

 

มีการเก็บข้อมูลเบื้องต้นที่วัดไชยวัฒนารามในโครงการอบรมมัคคุเทศก์อาชีพ 2 รุ่น ระหว่างวันที่ 19 - 23 กันยายน 2557 และ 18 - 22 มีนาคม 2559

 

การฝึกอบรมมัคคุเทศก์อาชีพหลักสูตรดาราศาสตร์ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกรมการท่องเที่ยว

 

มัคคุเทศก์อาชีพกำลังฝึกหัดการใช้อุปกรณ์เข็มทิศและ smart Phone ในการจับพิกัดดาราศาสตร์ของวัดไชยวัฒนาราม ในภาพพบว่าวัดแห่งนี้หันหน้าไปที่ตำแหน่งมุมกวาด 70 องศา (azimuth 70)

 

จากข้อมูลประวัติศาสตร์วัดพุทไธศวรรย์สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทองจึงเป็นวัดแรกของกรุงศรีอยุธยา และเป็นต้นแบบของวัดไชยวัฒนารามและวัดอรุณ วัดไชยวัฒนารามอยู่ห่างจากวัดพุทไธศวรรย์ 1.9 กม. ส่วนวัดอรุณห่าง 66 กม. วิธีการสร้างให้หันหน้าไปที่พิกัดมุมกวาด 70 องศาเหมือนกัน สามารถทำได้โดยใช้ตำแหน่งดวงอาทิตย์เป็นตัวชี้เรียกว่า shadow plot เชื่อว่าท่านโหราจารย์ในยุคนั้นมีความรู้คณิตศาสตร์และดาราศาสตร์อย่างดีคงจะสามารถทำได้อย่างสบาย

 

          คำถามที่เป็นปริศนา ทำไมวัดทั้งสามหันหน้าไปที่ตำแหน่ง 70 องศา ทำไมแตกต่างจากวัดอื่นๆที่อยู่ในเมืองเก่าอยุธยาที่หันหน้า 85 องศา และทำไมจึงตั้งอยู่ทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนกันหมด ..... คงต้องวิเคราะห์ต่อไป

 

       ทำไมชาวฮินดูจึงมีความรู้ดาราศาสตร์

           เป็นคำถามที่คาใจหลายท่านผมจึงต้องขอย้อนเวลากลับไปในอดีตราวหกพันปีที่แล้วในดินแดนเมโสโปเตเมีย นักโบราณคดีเรียกดินแดนนี้ว่า "อาณาจักรสูเม่อร์" (The Sumer Empire) และเรียกประชาชนที่นี่ว่า "ชาวสุเมเรี่ยน" (Sumerian) ยังไม่มีใครตอบได้ว่าพวกเขาโผล่ออกมาจากที่ไหนเพราะตอนนั้นมนุษยชาติยังอยู่ในสภาพ "มนุษย์โบราณ" แต่ชาวสุเมเรี่ยนมีความรู้ทางคณิตศาสตร์ ภาษาศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ และที่สำคัญ "ดาราศาสตร์" พวกเขารู้จักระบบสุริยะอย่างดีจนทำให้องค์การนาซ่าหน้าแตก เช่น คำจารึกที่อธิบายลักษณะของดาวเคราะห์ยูเรนัสและเนปจูนว่ามีขนาดเท่าๆกันเหมือนฝาแฝดและมีสีสดใสเหมือนน้ำ ข้อมูลเหล่านี้ประจักษ์ชัดตามจารึกเมื่อหกพันปีที่แล้วก็เมื่อยานอวกาศ "Voyager 2" บินไปถึงดาวเคราะห์ยูเรนัสในปี 1986 และเนปจูน 1989 (อ้างอิงจากผลงานการค้นคว้าของนักโบราณคดีชาวอเมริกันชื่อ Zacharia Sitchin และเขียน Pocket Book ชื่อ The Genesis Revisited )

 

แผนที่แสดงแหล่งกำเนิดอารยธรรมแห่งแรกๆของโลก

 

จารึกแผ่นดินเผาของชาวสุเมเรี่ยนแสดงระบบสุริยะและเรื่องราวของดาราศาสตร์

 

จารึกอักขระรูปลิ่ม และคณิตศาสตร์ฐานหกสิบที่ยังคงใช้อยู่ในวิชาตรีโกณมิติ เรขาคณิต และมิติแห่งเวลา 

 

           

จารึกเกี่ยวกับโลกและดาราศาสตร์ และที่สำคัญ "สัญลักษณ์แห่งจักรราศี" ที่ตกทอดมาเป็นวิชาโหราศาสตร์

 

           ยุคใกล้เคียงกันมีอีกอาณาจักรหนึ่ง "อารยธรรมลุ่มน้ำสินธุ" ปัจจุบันอยู่ในประเทศปากีสถานติดต่อกับอัฟกานีสถาน เมืองเอกชื่อว่า "โมเฮนจา เดโร" และ "ฮารับปา" มีความสัมพันธ์กับชาวสุเมเรี่ยนอย่างมาก และต่อมาดินแดนแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของชาว "อารยัน" (Aryan) และเริ่มขยายตัวรุกเข้าไปในตอนเหนือของชมพูทวีปจนทำให้ให้เกิดอาณาจักรและศาสนาใหม่นั่นคือ "พราหมณ์และฮินดู" มีการนับถือเทพเจ้าที่เราๆท่านๆรู้จักกันดีในนาม พระศิวะ พระวิศณุ พระพรหม ฯลฯ ซึ่งต่อมาแตกแขนงเป็นศาสนาพุทธ ศาสนาเจน และนิกายอื่นๆอีกมากมาย มรดกสำคัญของชาวอารยันก็คือ "ความเชื่อในเทพเจ้า ดาราศาสตร์ และปฏิทินมหาศักราช" ตกทอดมายังดินแดนเอเซียใต้ และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จนถึงอาณาจักรอยุธยาและรัตนโกสินทร์ในปัจจุบัน

 

 

เมืองโบราณ "โมเฮนจา เดโร" ต้นกำเนิดอารยธรรมลุ่มน้ำสินธุ และต่อมาเป็น "ชาวอารยัน" 

 

 

ชาวอารยันรุกเข้ามาในอินเดียตอนเหนือเมื่อสามพันกว่าปีที่แล้ว

 

อิทธิพลของชาวอารยันทำให้เกิดศาสนาพราหมณ์และฮินดูที่แพร่ไปยังอินเดียใต้ และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

 

อิทธิพลของพราหมณ์และฮินดูทำให้พี่ไทยอย่างเราๆท่านๆได้ซึมซับมรดกแห่งความเชื่อในเทพเจ้า แม้ว่าคำสอนของพุทธองค์จะบอกชาวพุทธให้ยึดมั่นในสัจธรรมแห่งชีวิต ไม่งมงายอยู่ในอิทธิฤทธิ แต่พออ้าปากออกมาเราก็มักจะติดประโยคว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาล........."  

 

       ผลการค้นคว้าครั้งนี้จะมีประโยชน์อย่างไร ?

          ผมเชื่อว่าข้อมูลที่ค้นคว้าและพิสูจน์ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ สอดคล้องกับวัตถุพยานคือวัดต่างๆ ประกอบกับเรื่องราวความเชื่อของพระเจ้าอู่ทองที่ส่งช่างไปดูงานที่อินเดียและกลับมาตั้งชื่อเมืองว่า "อยุธยา" น่าจะก็ให้เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว ดังนี้

           1.ทำให้มีข้อมูลในมุมมองใหม่ที่เป็นวิทยาศาสตร์บรรยายแก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ และชาวต่างชาติที่มีพื้นความรู้ทางดาราศาสตร์ 

           2.สามารถสร้างเรื่องราวน่าสนใจให้แก่ชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาท่านที่ "กระเป๋าหนัก" ภาษาฮินดิเรียกว่า "ฮินดูสตานี่วารา ไปซ่า โบโฮดแหก้า" ให้มาฉลองการแต่งาน หรือถ่ายทำภาพ pre-wedding ที่เมืองเก่าอยุธยา เดี๋ยวผมจะเอาข้อมูลนี้ใส่มือให้ท่านสาธิต เซกัล ประธานสมาคมนักธุรกิจไทยอินเดียให้ช่วยประชาสัมพันธ์

          3.น่าจะจัดทำเรื่องราว Light and Sound ในแนวใหม่ "Ayutthaya and Ram Nawami" เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว

          4.ไหนๆเราก็เป็นประชาคมอาเซี่ยนแล้ว ผมว่าน่าจะไปจับมือกับการท่องเที่ยวของอินโดนีเซียจัดงานฉลอง "คู่แฝด อโยธยา" ระหว่าง อยุธยา กับ ยอกค์จาการ์ต้า เพราะทั้งสองเมืองนี้มีที่มาเหมือนกัน

          5.เป็นคำตอบว่าทำไมชื่อต่างๆในประเทศไทยจึงผูกพันอยู่กับ "พระราม" เริ่มตั้งแต่พระนามของกษัตริย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ใช้คำว่า "รามาธิบดี" และทรงเป็นสมมุติเทพ สถานที่ราชการและสิ่งก่อสร้าง เช่น สะพานพระรามเก้า โรงพยาบาลรามา ถนนพระรามสอง แม้กระทั้งชื่อโรงแรมอย่างรามาการ์เด้น ฯลฯ  

 

 

อยุธยา และยอกค์จาการ์ต้า เป็นเมืองคู่แฝดในนามของ "ราม นะวามิ" 

       สรุป

          ถ้าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเล่นด้วยกับมุขนี้ของผม เชื่อว่าต้องเข้าตานักท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวภารตะที่จัดอยู่ในข่าย "กระเป๋าหนัก" ต้องนิยมมาฉลองการแต่งงานที่อยุธยาอย่างแน่นอน ประเทศไทยเราสามารถบริการได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่บริการจัดหาพราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญ เครื่องบวงสวงครบชุด พาหนะรับส่ง ถ้ามาเป็นขบวนใหญ่ของบุคคลระดับวีไอพีก็สามารถจัดรถฉลามนำทางได้ มีโรงแรม พร้อมอาหารการกิน และที่สำคัญมีไกด์นำเที่ยวแบบมืออาชีพ

 

 

 

           ผมสะสมประสบการณ์และข้อมูลต่างๆตั้งแต่ครั้งเป็นนักเรียนที่อินเดีย พ.ศ. 2512 - 2517 ที่อิสราเอล 2521 - 2522 ปากีสถาน 2528 - 29 กัมพูชา 2541 และอัฟกานีสถาน 2549 เอาข้อมูลจากเรื่องราวของเมโสโปเตเมีย พระคำภีร์ไบเบิ้ล พระคำภีร์ฮินดู และศาสนาพุทธ มาวิเคราะห์อย่างเชื่อมโยง ทำให้ผมกล้าเขียนบทความนี้อย่างตรงไปตรงมาในแง่มุมที่เป็นวิทยาศาสตร์และมีวัตถุพยานยืนยัน อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัว   

 

 

 

 







Copyright © 2010 All Rights Reserved.
มูลนิธิเพื่อการพัฒนาผู้นำธุรกิจและชุมชน
The Foundation for Business and Community Leadership Development
โดย
นายอารีย์ ภู่สมบูญ
ประธานกรรมการมูลนิธิฯ