ReadyPlanet.com
dot
dot
สืบเสาะเจาะลึกเมืองสกล
dot
bulletMegalithic Gate of Equinox ...... Sakon Nakhon Thailand
bulletปฏิทินท่องเที่ยวดาราศาสตร์และโหราศาสตร์เมืองสกล Mar 2024 - Feb 2025
bulletหนองหารหลวง ....... นครแห่ง "สุริยะปฏิทินพันปี"
bulletหนองหารหลวง ........ เมืองแห่ง "มหาสงกรานต์" จริงหรือ?
bulletปราสาทนารายณ์เจงเวง .....อะไรหายไปแล้ว อะไรเสี่ยงสูญหาย
bulletปราสาทภูเพ็ก ถูกดัดแปลง?
bulletสะพานขอมปัจจุบัน ....... โบราณสถานตัวจริง หรือสร้างใหม่?
bulletนาฬิกาแดดขนาดยักษ์เมืองสกล Google Earth ก็มองเห็น
bulletนาฬิกาแดดโรงเรียนวิถีธรรมเมืองสกล ...... มรดกจากบรรพชน
bulletSakon Hempmade มิติใหม่อุตสาหกรรมสิ่งทอ
bulletความรู้ปัจจุบัน ฤาจะเทียบชั้นกับวันวาน Ancient Wisdom V/S Digital Technology
bulletพบฐานรากปราสาทขอมใกล้ลำน้ำก่ำ
bulletปราสาทภูเพ็ก สกลนคร สุดๆแห่งปราสาทขอมในประเทศไทย
bulletปฏิบัติการภูเพ็ก ดอนสวรรค์ พิสูจน์คำทำนายซินแส ฮวงจุ้ยเมืองสกล
bulletสุริยะปฏิทินขอมพันปี
bullet "อาทิตย์ทรงกลด" ณ ปราสาทขอมเมืองสกล วิทยาศาสตร์ที่ลงตัวกับความเชื่อ
bulletโลกล้านปีที่แอ่งสกลนคร
bulletกลุ่มชาติพันธุ์ไทโส้ ....... เป็นใคร ....... มาจากไหน?
bulletพระยาสุระอุทก .......หนองหารหลวง ตำนานที่จับต้องได้
bulletรับพลังสุริยะยุคก่อนประวัติศาสตร์ ...... ที่สกลนคร
bulletกรมศิลปากรโยนหินถาม...เอกสารสิทธิ์ทับคูเมืองสกลโบราณ จะออกทางไหน
bulletหลากมิติอารยธรรม 4 ยุค "บ้านท่าวัด" ริมหนองหาร สกลนคร
bulletถอดจารึกขอม "ภูถ้ำพระ" ทำไมพระพุทธรูปไปอยู่ที่นั่น
bulletปราสาทขอมเมืองสกล.....เอาหินมาจากไหน ?
bulletพระธาตุดุม....ในอีกมุมมอง
bulletมุมมองใหม่ "สะพานขอม" ฝายทดน้ำชลประทาน
bulletไขความลับปราสาทนารายณ์เจงเวง
bulletหนองหารหลวงเมืองหน้าด่าน ยันกับอาณาจักรจาม
bulletไขประตูสู่อดีตพระธาตุเชิงชุม ...... ในอีกมุมมอง
bulletประตูเมืองโบราณสกลนครอยู่ตรงไหน
bulletปฏิบัติการ "มหาสงกรานต์" ไขปริศนาจารึกเมืองสกลโบราณ
dot
เปิดประเด็นการท่องเที่ยว
dot
bulletปราสาทบ้านปรางค์ มิติดาราศาสตร์และศาสตร์แห่งความเชื่อ
bulletปลานิล Biofloc "Safe and Saab"
bulletStory Board มหัศจรรย์ปราสาทภูเพ็ก ตำนานที่จับต้องได้
bulletเรือท่องเที่ยวหนองหารขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
bulletตัวอย่าง เส้นทางท่องเที่ยวสกลนคร 2 วัน 1 คืน
bulletยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเส้นทาง "ราชมรรคา"
bulletTourism Gimmick
bulletTourism Project Proposal
bulletสุริยะปฏิทินจักรราศีดอนสวรรค์ Don Sawan Zodiacal Solar Calendar
bulletSt.Peter's Fish โปรโมทการท่องเที่ยวและสร้างอาชีพใหม่....สกลนคร
bulletBig Project Tourism SNO
bulletAdventure Tourism (Search-Found-Selfie) ลุยป่าค้นหาขอมพันปี
dot
ปฏิบัติการดาราศาสตร์ Operation Astronomy
dot
bulletOperation Equinox 2024
bulletOperation Spica .... ไขปริศนา "เมืองโบราณศรีเทพ"
bulletย้อนอดีต "ราหูอมสุริยา" ก่อนเปลี่ยนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
bulletOperation Rahu Episode XV วัดระยะทาง โลก - ดวงจันทร์ - ดวงอาทิตย์
bulletเจาะลึกเบื้องหลังเมืองโบราณศรีเทพ Operation Spica EP 2
bulletOperación Intercontinental Solsticio de Invierno ปฏิบัติการดาราศาสตร์ เห-มา-ยัน ข้ามทวีป ไทย - เม็กซิโก ธันวาคม 2022
bulletOperation Rahu Episode XIV Total Lunar Eclipse 8 Nov 2022 How Far is The Moon?
bulletOperation Transcontinental Equinox 2022 ปฏิบัติการวสันตวิษุวัตข้ามทวีป 2565
bulletOperation Chou Li Episode V ..... Earth's axis tilt 23.5?
bulletOperation Rahu Episode XIII How Far is the Moon (Lunar Eclipse 26 May 2021)
bulletOperation Bhishma Winter Solstice 2020 finding Earth's axis tilt
bulletOperation Rahu Episode XII Solar Eclipse and Summer Solstice 21 June 2020 How far and how big is the sun
bulletOperation Rahu Episode XI How far is the sun
bulletปฏิบัติการราหู ครั้งที่ 10 (Operation Rahu X) วัดระยะทางโลก - ดวงอาทิตย์ ปรากฏการณ์สุริยะปราคาเต็มดวง
bulletปฏิบัติการชูหลี 4 มุมเอียงโลกยังคง 23.5 หรือไม่ (Operation Chou Li Episode IV)
bulletOperation Eratosthenes Episode II Mar 21, 2019 Measure Earth's circumference with one stick
bulletปฏิบัติการวันสิ้นโลกภาคสาม Operation Doomsday Episode III
bulletOperation Galileo Episode II วัดความเร็วของโลก "หมุนรอบตัวเอง (Rotation) และโคจรรอบดวงอาทิตย์ (Revolution)"
bulletOperation Rahu IX 28 July 2018 Total Lunar Eclipse วัดระยะทางโลก - ดวงจันทร์
bulletOperation Rahu VIII Measuring Distance Earth-Moon ปฏิบัติการข้ามทวีป Thailand - USA
bulletOperation Chou Li Episode III (Measure Earth Axis Tilt With One Stick)
bulletปฏิบัติการไจตระ ถอดรหัสคณิตศาสตร์ขอมพันปี ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร
bulletปฏิบัติการดาราศาสตร์ข้ามทวีป Operation Transcontinental Equinox 2016
bulletOperation Bhishma 2016 ปฏิบัติการดาราศาสตร์ข้ามทวีป ..... การหมุนรอบตัวเองและวงโคจรของโลกยังคงปกติหรือไม่?
bulletวัดมุมเอียงของโลก...ด้วยไม้แท่งเดียว
bulletOperation Rahu Episode I measuring earth to moon วัดระยะทางจากโลกถึงดวงจันทร์ ในปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง
bulletOperation Rahu Episode II สูตรใหม่คำนวณระยะทางโลกไปดวงจันทร์
bulletปฏิบัติการ "เจนัส" วัดมุมเอียงของโลก
bulletOperation Rahu Episode III 4 April 2015 วัดระยะทางโลกไปดวงจันทร์
bulletปฏิบัติการเวกัส 2558 "อีราโต้สทีเน้ส " ภาค 2 วัดโลกทั้งใบด้วยไม้แท่งเดียว
bulletOperation Rahu Episode IV วัดระยะทางโลก - ดวงจันทร์
bulletปฏิบัติการชูหลี (Operation Chou Li) ยืนยันมุมเอียงโลก 23.5 องศา
bulletOperation Rahu Episode V วัดระยะทางโลก - ดวงอาทิตย์
bulletOperation Rahu Episode VI How far and how big is the Moon
bulletOperation Rahu Episode VII How far and how big is the sun
bulletOperation Chou Li Episode II (Measuring Earth's Tilt)
bulletวัดโลกทั้งใบ ไทย กัมพูชา ปฏิบัติการ "อีราโตสทีเนส" ข้ามประเทศ
bulletปฏิบัติการ "กาลิเลโอ" วัดความเร็วการหมุนของโลกที่ปราสาทภูเพ็ก
bulletปฏิบัติการวันสิ้นโลกภาค 2 ข้ามทวีป ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร VS ปีรามิดเผ่ามายา เม็กซิโก
dot
แนะนำผู้เขียน
dot
bulletนายกสโมสรโรตารีสกลนคร ปีบริหาร 2556 - 2557
bulletสรรค์สนธิ บุณโยทยาน
dot
สากกะเบือยันเรือรบ กับปราสาทภูเพ็ก สกลนคร
dot
bulletปฏิบัติการอัสวีน่า ปราสาทภูเพ็ก (Operation Ashvina 23 Sep 2019)
bulletพระพุทธรูปศิลปะขอมซ่อนอยู่ใต้โพรงหินที่ปราสาทภูเพ็ก.....สื่อถึงอะไร
bulletภูเพ็ก....เมกกะโปรเจค นครที่สาปสูญ
bulletปฏิบัติการวันสิ้นโลก 2012 ท้าพิสูจน์ที่ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร
bulletความเป็นมาของปราสาทภูเพ็ก
bulletตลึง ! พบ “ฝายหินพันปี” กลางป่าภูเพ็ก
bulletครบรอบ 10 ปี การค้นพบ "สุริยะปฏิทินพันปี" ปราสาทภูเพ็ก
bulletปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ "เหมายัน" 21 -22 ธันวาคม ที่ปราสาทภูเพ็ก
bulletเผยเทคนิคการออกแบบก่อสร้างปราสาทภูเพ็ก
bulletความเป็นมาของสุริยปฏิทิน
bulletพิสูจน์สุริยะวิถี กับปฏิทินมหาศักราชที่ปราสาทภูเพ็ก
bulletรับพลัง "สุริยันจันทรา" ประชันดาวหางแพนสตาร์
dot
เปิดโลกวิทยาศาสตร์
dot
bulletปลูกป่าส่วนตัว กับ 2050 Net Zero Mission Impossible?
bulletพิสูจน์เชิงประจักษ์ "ปลูกป่าให้โตเร็ว" ด้วยธนาคารน้ำใต้ดิน
bulletBiofloc ...... Fish Farm 4.0
bulletทำไมเดือนกุมภาพันธ์ มี 28 วัน
bulletBiofloc Farming เลี้ยงปลาระบบปิด Fisheries 4.0
bulletข้าวหอมมะลิใช้น้ำน้อย 2019
bulletClimate Change Mitigation & Adaptation "It's Now or Never"
bulletฟาร์มปลาเชิงพาณิชย์ใช้น้ำน้อยระบบ Biofloc
bulletข้าวหอมมะลิใช้น้ำน้อย 2561 (2018)
bulletGroundwater Bank (An alternative water management)
bulletข้าวหอมมะลิกับดาราศาสตร์ ปลูกปีละ 2 ครั้ง ได้หรือไม่?
bulletHow Herbal Medicine Works
bulletระบบให้น้ำโรงเรือนปลูกผักบริษัทประชารัฐ สกลนคร
bulletป่าเศรษฐกิจครอบครัวทางเลือกใหม่ win win ทั้งชาวบ้านและรัฐบาล
bulletEarth and Space Class
bulletวิเคราะห์ฤกษ์รัตนโกสินทร์ในมุมวิทยาศาสตร์
bulletปฏิบัติการพิมาย ชาตินี้มีครั้งเดียว Operation Phimai Once or Never
bulletนาฬิกาแดดโรงเรียนวิถีธรรม ม.ราชภัฏสกลนคร
bulletทำไมชาวมายาในเม็กซิโกจึงมีรูปร่างหน้าเหมือนคนเอเซีย
bulletปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ตรงศรีษะ (sun overhead)
bulletเกาะติดไปกับยาน New Horizons เผยความลับพลูโต "ดาวเคราะห์ลูกเมียน้อย"
bulletทำนาน้ำน้อยแต่ผลผลิตสูง เป็นไปได้หรือไม่ More Rice With Less Water?
bullet21-22 มิถุนายน ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ "ครีษมายัน" Summer Solstice กลางวันยาวที่สุดในรอบปี
bulletดางหาง ISON ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ปิดท้ายปี 2556
bulletมองหมากเม่าผ่านมิติดาราศาสตร์
bulletดาราศาสตร์ที่เราเห็น.....ล้วนเป็นภาพลวงตา
bulletเข้าพรรษาบางปีทำไมต้องเดือน 8-8
bulletประสบการณ์ตรงเรื่อง "ยูเอฟโอ" ผมคิดแบบวิทยาศาสตร์
bulletเกาะติดการค้นหาชีวิตบนดาวอังคาร กับยาน Curiosity
bulletหม้อหุงข้าวพลังแสงอาทิตย์ นวัตกรรมติดดิน
bulletนาฬิกาแดดต้นแบบมิติเวลาของมนุษยชาติ
bulletภาคปฏิบัติ....วัดโลกทั้งใบด้วยไม้แท่งเดียว
bulletการอบรมเชิงปฏิบัติการ "อีราโทสทีเนส"
bulletชวนครูไทย วัดโลกทั้งใบ ด้วยไม้แท่งเดียว
dot
จับประเด็นร้อน
dot
bulletอะไรจะเกิดขึ้นถ้าแม่น้ำโขงเผชิญกับสภาพ "ไร้ตะกอน" (Hungry River)
bulletฤาตำนานหนองหารล่ม.....จะกลายเป็นเรื่องจริง
bulletทำไมคนถึงอยากครอบครอง "ดอนสวรรค์" ในบึงหนองหาร สกลนคร
bulletกู้ "หนองหาร" ด้วยมือเรา.....เริ่มต้นที่บ้าน
bulletบทเรียนอันเจ็บปวดของเขื่อนในอเมริกา....ฤา จะสะท้อนสามแสนล้านบาทเพื่อจัดการน้ำของไทย
bulletโบราณวัตถุพันปีสกลนคร....อยู่ในภาวะเสี่ยงสูญหาย
bulletภัยมืดรุกชาวสกล...จากสาหร่ายพิษในหนองหาร
bulletน้ำท่วม "ตัวเมืองสกล" บทเรียนที่น่าจะถึงเวลาสรุปเสียที
bulletพายุ "นกกระเตน" ทำเสียหายสวนยางเมืองสกล
bulletฤา...นโยบาย 300 บาท จะช่วยบรรเทาปัญหา “หัวดำออก หัวหงอกเลี้ยง”
dot
อินเดียน่าโจนส์ (ภาคสรรค์สนธิ)
dot
bulletThe Cosmic Code of Borobudur รหัสจักรวาลแห่งบูโรพุทโธ
bulletThe Riddle of Ayutthaya
bulletทำไมวันปีใหม่ต้องเป็น 1 มกราคม? Why does the new year begin on January 1 ?
bulletผลการดูงานสหกรณ์การเกษตรประเทศไต้หวัน 23 - 26 สิงหาคม 2559
bulletประกาศิตเทพเจ้ากูกูลข่าน The Return of God Kukulkan
bulletวางผังเมืองเชียงใหม่ด้วยวิธีดาราศาสตร์
bulletกุมภาพันธ์ ปี "อธิกสุรทิน" ทำไมต้อง 29 วัน
bulletมองผ่านประตูพระธาตุพนมในอีกมุม
bulletจับพิรุธรูปสลักหินอ่อน "กษัตริย์เดวิท" ที่เมืองฟอร์เรนซ์
bulletย้อนอดีตกรุงเก่าอยุธยา ถือฤกษ์ "รามนะวามิ"
bulletท่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ "โสมสูตร" ที่ปราสาทขอมในกัมพูชาหายไปไหนหมด
bulletอาทิตย์ตั้งฉากกับพุทธสถานชื่อดังในวันวิสาขบูชาโลก
bulletปราสาทพิมายในมุมมองวิทยาศาสตร์
bulletมองปราสาทขอม ในแง่มุมดาราศาสตร์ การเมือง และความเชื่อ โดยนักรบออนไลน์ กับไกด์มืออาชีพ
bulletตรุษจีน ตรุษเวียต ตรุษไทสกล และบุญเบิกฟ้า
bulletปริศนา "ปราสาทบายน" ฤา.....มนุษยชาติจะผ่านพ้นความขัดแย้ง
bulletประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ทำไมต้องใช้ชื่อว่า "วิสาขะ"
bulletราหู.....น้ำอมฤต.....สนามบินสุวรรณภูมิ
bulletอาณาจักร "ทวารวดี" ทำไมจึงล่มสลาย
bullet"มาฆบูชา" ทำไมต้องใช้ชื่อนี้
bullet"ทัชมาฮาล" ในมุมมองดาราศาสตร์
bulletคำสอนพุทธองค์เปล่งประกายอีกครั้งในดินแดนภารตะ
bulletเมือง "สารนาท" ที่มาแห่งวันอาสาฬหบูชา
bulletแกะรอย "สุริยะเทพ" ที่ปราสาทพนมบาเค็ง
bulletถอดความศิลาจารึกพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พบ "ฤกษ์อโรคยาศาล"
bulletปราสาทหินพิมาย กับสามเหลี่ยมพุทธมหายาน
bulletจากพระธาตุเชิงชุม ถึงพุทธคยา
bulletถอดรหัสขอมพันปี 80 องศา พบราศีเมษ
bulletไขปริศนาปราสาทพนมรุ้ง
bullet13 เมษายน 2551 วันสงกรานต์ จริงหรือ ?
bullet21 มี.ค. 51 ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก
bulletตำนานวันปีใหม่ มิติแห่งกาลเวลาของมนุษยชาติ
bulletเข้าพรรษา ปี 2550 ทำไมต้องมีเดือนแปดสองหน
bulletมหาสงกรานต์ 13–15 เม.ย.
bulletปฏิบัติการอีราโตสทีเนสวัดโลกทั้งใบ ด้วยไม้แท่งเดียว
bulletบ่าวคำหอม ล่ะเบ๋อ
bulletแวดวง BCL.
bulletปฏิบัติการ "อีราโทสทีเนส" วัดเส้นรอบวงโลกด้วยไม้แท่งเดียว




ไขปริศนาปราสาทพนมรุ้ง

 

ไขปริศนาปราสาทพนมรุ้ง

 

          หลายท่านที่สนใจเรื่องราวของปราสาทพนมรุ้งทราบดีว่าที่นี่มีปรากฏการณ์ Amazing คือดวงอาทิตย์ตรงกับประตู 15 ช่อง ปีละ 4 ครั้ง เป็นตอนเช้า 2 ครั้ง ตอนเย็น 2 ครั้ง ผมจึงขอตั้งประเด็นคำถามว่า ......... ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ผู้สร้างมีความจงใจให้เป็นแบบนั้น ...... หรือเป็นเพียงความบังเอิญ ?     

          เรื่องราวของปราสาทพนมรุ้งในทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดีมีนักวิชาการจำนวนมากเขียนเอกสารไว้เรียบร้อยแล้ว ท่านคงจะหาหนังสือหรือข้อมูลเหล่านั้นไม่ยากนัก ในที่นี้ผมขอเปิดประเด็นใหม่ในมุมมอง "วิทยาศาสตร์" ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของท่านผู้สนใจ

           ปัจจุบันการศึกษาแบบเชื่อมโยงระหว่างดาราศาสตร์กับโบราณคดีในประเทศไทยยังไม่แพร่หลายนัก แต่ต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ มีการศึกษาอย่างละเอียดจนเปิดหลักสูตรระดับปริญญาเอกในมหาวิทยาลัย โดยตั้งชื่อว่า Archaeoastronomy เป็นวิชาใหม่ที่ควบรวมระหว่าง โบราณคดี (Archaeology) + ดาราศาสตร์ (Astronomy) ผมเริ่มมีความคิดในการศึกษาเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2521 เมื่อครั้งอยู่ที่ประเทศอิสราเอล จากนั้นก็เริ่มค้นคว้าสะสมข้อมูลมาอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

 

การที่ได้ไปเข้าหลักสูตรฝึกอบรมที่ประเทศ Israel และมีเวลาว่างศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับโบราณสถานต่างๆในพระคำภีร์ไบเบิ้ล ทำให้เกิดความคิดทำไมว่าบรรพชนในยุคนั้นใช้ข้อมูลดาราศาสตร์มากมายในการก่อสร้างสิ่งต่างๆ ต้องมีนัยสำคัญอะไรบางอย่าง 

 

ตัวอย่างหนังสือผลงานวิจัย Archaeoastronomy ในต่างประเทศ

 

  

ผมเขียนหนังสือ Pocket Book เกี่ยวกับเรื่องราว Archaeoastronomy เมื่อปี 2547 ในชื่อว่า "สุริยะปฏิทินพันปี" ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร 

 

       ปราสาทพนมรุ้งกับปรากฏการณ์ดาราศาสตร์และประเพณีประจำปี

 

          จากเอกสารของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ปราสาทพนมรุ้งสร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง สูง 1,320 ฟุต ( 396 เมตร) จากระดับน้ำทะเล ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ พิกัดภูมิศาสตร์ N 14 31 54 E 102 56 24 ชื่อพนมรุ้ง เป็นภาษาเขมรแปลว่า ภูเขาใหญ่ เชื่อว่าสร้างขึ้นโดยเจ้านายขอมในท้องถิ่นชื่อ นเรนทราทิตย์ ในราวคริสตศตวรรษที่ 12 ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่อาณาจักรขอมกำลังรุ่งเรืองอย่างมากตรงกับสมัยพระเจ้าสุริยะวรมันที่ 2 (พ.ศ.1656 – 1693) ผู้สร้างปราสาทนครวัด

         ปราสาทแห่งนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวไทยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นตรงกับช่องประตู 15 ช่อง และส่องลำแสงเข้าไปตามทางยาว 75 เมตร กระทบกับศิวะลึงค์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางทำให้ดูเรือง อร่าม อย่างน่าเกรงขาม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงถือเอาเรื่องนี้เป็นจุดขายที่สำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยจัดงานเดิน ขึ้นเขาพนมรุ้ง ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ( เมษายน) ของทุกปี

        ในความเป็นจริงทางดาราศาสตร์ ปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดประตู 15 ช่อง ประกบคู่กับวันเพ็ญ (ขึ้น 15 ค่ำ) ไม่ได้เกิดขึ้นทุกปี เพราะดวงอาทิตย์เป็นปฏิทินสุริยะคติ (365 วัน) ส่วนดวงจันทร์เป็นปฏิทินจันทรคติ (354 วัน)  นานๆจะโคจรมาประกบคู่ตรงกันสักครั้ง (ประมาณทุกๆ 11 ปี) ดังนี้

           8 เมษายน 2525 ...... 6 เมษายน 2536 ...... 4 เมษายน 2547....... 

         ครั้งล่าสุด 4 เมษายน 2558 ..........  ครั้งต่อไป 2 เมษายน 2569 ...... และ 1 เมษายน 2580

          อย่างไรก็ตามจากการค้นเอกสารที่กล่าวถึงประเพณีการเดินขึ้นปราสาทพนมรุ้ง (http://www.prapayneethai.com/ประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง) พบว่าริเริ่มเป็นครั้งแรกโดยท่านเจ้าคุณโอภาสธรรมญาณ วัดท่าประสิทธิ์ จ.สุรินทร์ ในวันเพ็ญ (ขึ้น 15 ค่ำ) เดือน 5 ปี พ.ศ.2485 จึงใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ดาราศาสตร์ทำการ simulation ย้อนหลังไปวันดังกล่าว พบว่าตรงกับปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ Full Moon วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2485 (ค.ศ.1942) ดวงอาทิตย์ขึ้นตรงกับช่องประตูของปราสาทอย่างพอดีที่มุมกวาด 85.8 องศา เชื่อว่าเป็นที่มาของประเพณีที่นิยมจนถึงปัจจุบัน (อย่างไรก็ตามปฏิทินจันทรคติไทยระบุว่าวันเพ็ญในปีดังกล่าวตรงกับวันที่ 31 มีนาคม)

 

 

 

จำลองปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ (Simulation) ด้วยโปรแกรม The Starry Night Pro Plus พบว่าวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2485 (1942 AD) ตรงกับ Full Moon และดวงอาทิตย์ขึ้นตรงกับช่องประตูปราสาทพนมรุ้งอย่างพอดี เชื่อว่าท่านเจ้าคุณโอภาสธรรมญาณน่าจะเห็นปรากฏการณ์นี้

 

ปรากฏการดวงอาทิตย์ตรงช่องประตู + Full Moon ครั้งล่าสุดวันที่ 4 เมษายน 2558 (2014 AD) และในคืนนั้นเกิดปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์เป็นของแถม 

 

ปรากฏการดวงอาทิตย์ตรงช่องประตู + Full Moon ครั้งต่อไปจะเกิดวันที่ 2 เมษายน 2569 (2026 AD) 

 

             จากการที่ได้ศึกษาข้อมูลทางดาราศาสตร์ที่เกี่ยวข้องปราสาทขอมจำนวนมากทั้งในประเทศไทยและประเทศกัมพูชา พบว่าส่วนใหญ่มีการวางแปลนให้ตัวปราสาทหันหน้าไปทางตำแหน่งทิศตะวันออกแท้ กับหันหน้าเบี่ยงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อย ปราสาทพนมรุ้งอยู่ในข่ายหันหน้าเบี่ยงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยมุมกวาดประมาณ 85 องศา จากทิศเหนือ (Azimuth 85) หรืออีกนัยหนึ่ง เบี่ยงออกจากทิศตะวันออกแท้ไปทางทิศเหนือ 5 องศา จึงทำให้ดวงอาทิตย์ขึ้น และตก ตรงกับประตูทั้ง 15 ช่อง รวม 4 ครั้ง ต่อปี ได้แก่

       

 ตอนเช้า 2 ครั้ง

 วันที่ 4  เมษายน และ 9 กันยายน (+ และ - 2 วัน)

         ตอนเย็น 2 ครั้ง

 วันที่ 7 มีนาคม และ 6 ตุลาคม (+ และ - 2 วัน) 

 

ปราสาทขอมในประเทศไทยและกัมพูชา "ส่วนใหญ่" ถูกออกแบบให้หันหน้าไปทิศตะวันออกแท้ (Equinox) และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeast) และมีเพียงบางแห่งที่หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ (ปราสาทพิมาย และปราสาทตาเมือนธม) และทิศเหนือ (ปราสาทพระวิหาร) นัยว่ามีวัตถุประสงค์เป็นการเฉพาะ ดังรายละเอียดบทความ "ปราสาทพิมายในมุมมองวิทยาศาสตร์" ของเว๊ปไซด์นี้

 

ปราสาทพนมรุ้งหันหน้าไปที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้วยมุมกวาด 85 องศา (Azimuth 85)

 

GPS ยืนยันว่าปราสาทพนมรุ้งหันหน้าที่มุมกวาดประมาณ 85 องศา (azimuth 85) 

 

ตรวจสอบ Alignment ที่ธรณีประตูด้วยเข็มทิศแม่เหล็ก

 

เข็มทิศแม่เหล็กก็แสดงค่ามุมกวาดของปราสาทพนมรุ้งประมาณ 85 องศา 

 

ภาพถ่ายปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ขึ้น มุมมองจากด้านหลังของปราสาท

 

ภาพถ่ายปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ตก มุมมองจากด้านหน้าของปราสาท

 

กราฟิกแสดง Sun's path ของปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ตรงกับช่องประตูปีละ 4 ครั้ง

 

        ทำไมปราสาทพนมรุ้งจึงหันหน้าไปที่มุม 85 องศา ทำไมไม่หันให้ตรงกับ "วสันตวิษุวัต" (Equinox)? ที่มุม 90 องศา?

 

             ก่อนอื่นขอนำท่านให้รู้จักกับปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่เรียกว่า "วิษุวัต" (equinox) ดังนี้

            1.โลกหมุนรอบตัวเองในลักษณะแกนเอียงประมาณ 23.5 องศา  

 

 

          2.โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ในลักษณะมุมเอียงประมาณ 23.5 องศา ทำให้มุมตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่กระทำต่อพื้นโลกเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน เป็นสาเหตุให้เกิดฤดูกาล 4 อย่าง ในรอบปี ได้แก่ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว นักดาราศาสตร์ตั้งชื่อปรากฏการณ์ทั้ง 4 ว่า

         วสันตวิษุวัต (vernal equinox) ตรงกับ 21 มีนาคม เป็นฤดูใบไม้ผลิ และกลางวันเท่ากับกลางคืน 

        ครีษมายัน (summer solstice) ตรงกับ 21 - 22 มิถุนายน เป็นฤดูร้อนและกลางวันยาวที่สุดในรอบปี

        ศารทวิษุวัต (autumnal equinox) ตรงกับ 23 กันยายน เป็นฤดูใบไม้ร่วงและกลางวันเท่ากับกลางคืน

       เหมายัน อ่าน เห-มา-ยัน (winter solstice) ตรงกับ 21 - 22 ธันวาคม เป็นฤดูหนาว  

 

 

          3.ปรากฏการณ์วิษุวัต (equinox) กลางวันเท่ากับกลางคืน มี 2 ครั้ง คือ "วสันตวิษุวัต" (vernal equinox) 21 มีนาคม และ "ศารทวิษุวัต" (autumnal equinox) 23 กันยายน โลกโคจรไปอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งฉากกับดวงอาทิตย์ ปราสาทขอมจำนวนมากที่เมือง Siem Reap และหลายแห่งในประเทศไทยถูกออกแบบให้หันหน้าตรงกับปรากฏการณ์นี้เพราะสอดคล้องกับวันปีใหม่ของปฏิทิน "มหาศักราช" ที่อาณาจักรขอมได้รับอิทธิพลจากอินเดีย 

 

ในปรากฏการณ์ "วิษุวัต" แสงอาทิตย์ทำมุมตั้งฉากกับโลก ณ เส้นศูนย์สูตร ทำให้ดวงอาทิตย์ขึ้นตรงกับ "ทิศตะวันออกแท้" (due east) ที่มุมกวาด 90 องศา (azimuth 90) และกลางวันเท่ากับกลางคืน

 

ปราสาทขอมจำนวนมากถูกออกแบบให้หันหน้าเข้าหาปรากฏการณ์วิษุวัต เพราะเป็นวันปีใหม่ของปฏิทินมหาศักราช

 

           4.ปรากฏการณ์ "วิษุวัต" (equinox) เป็นวันสำคัญของมนุษยชาติทั่วโลก สิ่งก่อสร้างจำนวนมากจึงมีความสอดคล้องกับปรากฏการณ์นี้ เช่น ปราสาทขอมส่วนใหญ่ที่เมือง Siem Reap ประตูท่าแพ ที่เชียงใหม่ ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร ปีรามิด Kulkukan ที่ Chichen Itza Mexico เป็นต้น ท่านที่สนใจรายละเอียนสามารถอ่านได้ที่บทความ "ปฏิบัติการดาราศาสตร์ข้ามทวีป" ในเว้ปไซด์นี้

 

สิ่งก่อสร้างในยุคโบราณทั่วโลกมีความผูกพันกับปรากฏการณ์วิษุวัต

 

          มาถึงประเด็น ทำไมปราสาทพนมรุ้งจึงไม่หันหน้าตรงกับปรากฏการณ์วิษุวัตที่มุม 90 องศา เช่นเดียวกันกับปราสาทขอมจำนวนมาก แต่กลับหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อยที่มุมกวาด 85 องศา ........ ออกแบบผิด?..... ออกแบบถูกแต่ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่ตรงสเป็ก? ...... หรือจงใจให้เป็นเช่นนั้น? 

 

             เป็นคำถามที่ถกเถียงกันมากมายและยังไม่มีใครฟันธงอย่างเป็นทางการ ในบทบาทของนักพิภพวิทยาจึงขอออกความเห็นเป็นการส่วนตัวตามข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ที่ได้ค้นคว้าและเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องโดยเริ่มตั้งประเด็นคำถามตั้งแต่ปี 2535 เมื่อครั้งที่ไปชมปราสาทหลังนี้ร่วมกับวิศวกรชาวเนเธ่อร์แลนด์ ที่ทำงานด้วยกันในโครงการจัดการน้ำชลประทานกับหน่วยงาน UNDP และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วิศวกรท่านนี้ชื่อ Mr Evert D'Noiy มีความสนใจเรื่องโบราณคดีและดาราศาสตร์เป็นงานอดิเรกจึงไปกับผมได้อย่างถูกคอกัน

           จากการศึกษาภูมิปัญญาของบรรพชนที่เราๆท่านๆใช้คำว่า "ขอม" โดยแกะรอยข้อมูลจากโบราณสถานจำนวนมากทั้งในประเทศกัมพูชาและประเทศไทย ทำให้มั่นใจว่าท่านเหล่านั้นเป็นนักวิชาการเต็มร้อย ทุกอย่างที่พวกเขาสร้างขึ้นมาล้วนมีวัตถุประสงค์ชัดเจนมีเหตุมีผลอ้างอิง ดังนั้นจึงเชื่ออย่างเต็มร้อยว่าผู้สร้าง "ปราสาทพนมรุ้ง" มีเจตนาให้ปราสาทหลังนี้หันหน้าไปที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อยด้วยมุมกวาด 85 องศา   

 

ผมกับ Mr.Evert และภรรยาชาวดัช ไปชมปราสาทพนมรุ้งเมื่อปี 2535

 

ผมตั้งคำถามมากมาย เช่น ทำไมต้องมาสร้างตรงนี้ สร้างเพื่ออะไร ฯลฯ 

 

 

ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ (ภาพซ้ายมือ) ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ลอดประตู 15 ช่อง เช้าวันที่ 4 เมษายน และ 9 กันยายน แต่ปราสาทภูเพ็ก จังหวัดสกลนคร (ภาพขวามือ) ปรากฏการณ์ "วสันตวิษุวัต" (vernal equinox) ดวงอาทิตย์ขึ้นตรงกลางประตู เช้าวันที่ 21 มีนาคม และ "ศารทวิษุวัต" (autumnal equinox) 23 กันยายน  

 

เปรียบเทียบค่าองศา Orientation ของปราสาทพนมรุ้ง (Azimuth 85) กับปราสาทภูเพ็ก (Azimuth 90)

 

         ปราสาทหลังนี้ทำมุม 85 องศา เพราะถูกดัดแปลงระหว่างบูรณะ หรือของจริงตั้งแต่การก่อสร้างในยุคนั้น?

          นี่คิอคำถามจากผู้สนใจในระหว่างการบรรยายเมื่อ 9 กันยายน 2561 ที่ได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรพิเศษในปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ลอดประตู 15 ช่อง

 

 

ป็นวิทยากรร่วมกับ คุณพิมพ์นารา กิจโชติประเสริฐ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง 9 กันยายน 2561

 

 

 

         ปราสาทพนมรุ้งได้รับการบูรณะตามหลักวิชาการที่เรียกว่า Anastylosis จากหลักฐานภาพถ่าย (อภินันทนาการจาก นส.พิมพ์นารา กิจโชติประเสริฐ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง) ยืนยันว่าฐานรากของปราสาทพนมรุ้งยังคงสภาพเดิม ส่วนที่พังลงมาเป็นองค์ปรางค์และตัวปราสาท ดังนั้นการที่วัดค่าองศามุมกวาด 85 องศา (azimuth 85) ของ center-line ที่ธรณีประตูจึงเป็นพิกัดที่มีมาแต่ครั้งการก่อสร้าง  

 

 

 

 

 

 

 

 

       ทำไม 85 องศา? ตั้งคำอธิบายไว้สองทฤษฏี

          1.หันหน้าเข้าหาราศีเมษ (Zodiac Aries) เพราะเป็นวันที่มีนัยสำคัญของศาสนาฮินดู

          2.หันหน้าตรงกับปรากฏการณ์ "วันเพ็ญ เดือนไจตระ" 

         ทั้งสองทฤษฏีมีความเกี่ยวข้องกับ "ปฏิทินมหาศักราช" (Saka Calendar) ที่อาณาจักรขอมรับมาจากอินเดีย ในฐานะนักเรียนเก่าจากประเทศอินเดียมีความคุ้นเคยกับปฏิทินนี้เป็นอย่างดีเพราะอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนที่นั่น 

 

รูปร่างหน้าตาของปฏิทินมหาศักราช (Saka Calendar) วันขึ้นปีใหม่ คือ Frist Chaitra ตรงกับ "วสันตวิษุวัต" (vernal equinox) 22 March (ปีปกติ 365 วัน) และถ้าปีใดเป็น leap year (366 วัน) ก็ให้ร่นเป็นวันที่ 21 March

 

Student Diary of Punjab Agricultural University ปี 1974 มีทั้ง Civil Calendar และ Saka Calendar ทำให้ผมคุ้นเคยกับปฏิทิน "มหาศักราช" มาตั้งแต่เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกษตรแห่งรัฐปันจาบ ประเทศอินเดีย ระหว่างปี 1970 - 1974 ไดอารี่ระบุว่า วันที่ 22 March 1974  (vernal equinox) ตรงกับ Chetra 1, 1896 Saka และ 23 September 1974 (autumnal equinox) ตรงกับ Asvina 1, 1896 Saka 

 

ใช้ไดอารี่สำหรับจดบันทึกกำหนดวันสอบ เช่น วิชา Hort 401 (Horticalture 401 วิชาพืชสวน) สอบวันที่ 28 April  1974 นักศึกษาทุกคนต้องมีไดอารี่ของมหาวิทยาลัยโดยซื้อใหม่ทุกๆปีในเดือน January 

 

 

          ทฤษฏีแรก ....... หันหน้าเข้าหา "ราศีเมษ"

         ตามหลักวิชาดาราศาสตร์มีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "การเคลื่อนที่ถดถอยของวิษุวัต" (Precession of vernal equinox) เนื่องมาจากการแกว่งของแกนโลก (Earth's shift) เป็นผลให้วันวิษุวัต (vernal equinox) กับราศีเมษ (zodiac Aries) แยกตัวออกจากกัน

          แต่เมื่อครั้งอดีตระหว่าง 2220 BC - 60 BC "ราศีเมษ" กับ "วสันตวิษุวัต" อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ดังนั้นเมื่อมาถึงยุคขอมเรืองอำนาจและเข้ามามีอิทธิพลในภาคอีสานราวๆ 1100 AD ราศีเมษ ได้แยกตัวออกไปอยู่ที่มุมกวาดราวๆ 85 องศา (Azimuth 85) ปรากฏการณ์เช่นนี้ทำให้ "ท่านพราหมณ์" ในราชสำนักอาณาจักรขอม จำเป็นต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง "ราศีเมษ" กับ "วสันตวิษุวัต" เราๆท่านๆอาจใช้คำพูดว่ารักพี่ก็เสียดายน้อง แต่ก็จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ยังผลให้ปราสาทขอมส่วนใหญ่ในเมืองหลวงนครอังกอร์เลือกเอา "วสันตวิษุวัต" ส่วนปราสาทขอมในประเทศไทยส่วนใหญ่เลือกเอา "ราศีเมษ" ปราสาทพนมรุ้งก็จัดอยู่ในสเป็กนี้

 

เนื่องจากการแกว่งของแกนโลกทำให้ตำแหน่งของดาวฤกษ์ในปรากฏการณ์ "วสันวิษุวัต" เปลี่ยนไปทุกๆ 2,160 ปี และจะเวียนกลับมาที่เดิมเมื่อครบรอบ 26,000 ปี ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Precession of vernal equinox 

 

ราว 2000 BC ปรากฏการณ์ "วสันตวิษุวัต" และราศีเมษ (Aries) อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน แต่พอมาถึง 1100 AD ในยุคขอมเรืองอำนาจราศีเมษขยับไปอยู่ที่มุม 85 องศา 

 

ปราสาทพนมรุ้งถูกเลือกให้หันหน้าเข้าหา "ราศีเมษ" (Aries) ที่ 85 องศา เพราะหากหันตรงกับทิศตะวันออกแท้ 90 องศา (Equinox) จะเป็นราศีมีน (Pisces) ซึ่งไม่ใช่สเป็กของท่านพราหมณ์

 

ถ้าอาณาจักรขอมยังคงอยู่ถึงปัจจุบันและพวกเขาต้องการสร้างปราสาทหลังใหม่ให้ตรงกับราศีเมษ ก็ต้องออกแบบให้หันหน้าไปที่ 78 องศา เพราะราศีเมษขยับไปอยู่ที่นั่นด้วยเหตุผลของ Precession of vernal equinox อย่างไรก็ตามหากท่านพราหมณ์ต้องการจะให้ปราสาทหันหน้าตรงกับ "ราศีเมษ" + วสันตวิษุวัต ที่มุม 90 องศา ก็ต้องรออีกประมาณสองหมื่นกว่าปีให้แกนโลกหมุนกลับมาที่เดิมเช่นเดียวกับเมื่อสามพันกว่าปีที่แล้ว  

 

  

จากการเก็บตัวอย่างปราสาทขอมจำนวน 85 แห่ง ในประเทศไทยและกัมพูชา พบว่าปราสาทส่วนใหญ่ในประเทศไทย (41%) หันหน้าเข้าหา "ราศีเมษ" (Aries) และ 35% หันหน้าเข้าหา "วสันตวิษุวัต" (Equinox) และอีก 24% หันหน้าเข้าหานครหลวงอังกอร์  (Royal Angkor) แต่ปราสาทส่วนใหญ่ที่นครหลวงอังกอร์ 78% หันหน้า Equinox เพียงส่วนน้อย 11% หันหน้าเข้าหา"ราศีเมษ" อย่างไรก็ตามในภาพรวมทั้งสองประเทศปราสาทส่วนใหญ่ยังคงยึดหลักหันหน้าเข้าหา Equinox  

 

 

ตัวอย่างโบราณสถานที่เมืองเก่าสุโขทัยซึ่งสร้างขึ้นตามความเชื่อที่รับมรดกมาจากอาณาจักรขอม มีทั้งหันหน้าเข้าหา "ราศีเมษ"  (Aries) และหันหน้าเข้าหา "วสัตวิษุวัต" (Equinox) เช่น วัดมหาธาตุหันหน้าเข้าหา Aries วัดพระพายหลวงหันหน้าเข้าหา Equinox ขณะที่วัดศรีสวายหันหน้าไปทางนครหลวงอังกอร์

 


ไดอะแกรมแสดงการเคลื่อนที่ถดถอยของวสัตวิษุวัต แสดงให้เห็นว่า Zodiac Aries กับ vernal equinox อยู่ตรงกันในช่วง 2220 BC - 60 BC แต่ปัจจุบัน vernal equinox เปลี่ยนมาตรงกับ Zodiac Pisces ระหว่างช่วง 60 BC - 2100 AD 

 

ในช่วงเวลาที่สร้าง "ปราสาทพนมรุ้ง" วสันตวิษุวัต อยู่ในราศีมีน (Zodiac Pisces) สัญลักษณ์เป็นรูปปลาคู่ ไม่ถูกสะเป็กของท่านพราหมณ์ผู้ออกแบบปราสาทหลังนี้ จึงตัดสินใจเลือก "ราศีเมษ" โดยไม่คำนึงถึงปรากฏการณ์ "วสันตวิษุวัต" 

 

           ในทางดาราศาสตร์เมื่อราวพันกว่าปีที่แล้วตรงกับช่วงที่อาณาจักรขอมเรืองอำนาจ ดวงอาทิตย์ในราศีเมษอยู่ที่ตำแหน่ง มุมกวาด  85 องศา จากทิศเหนือ แต่ปัจจุบันตำแหน่งดวงอาทิตย์ในราศีเมษเปลี่ยนไปเป็นแถวๆ มุมกวาด 78 องศา เนื่องจากสาเหตุการแกว่งของแกนโลกทำให้ตำแหน่งจักรราศีเปลี่ยนไปในลักษณะเคลื่อนที่ถอยหลัง ภาษาดาราศาสตร์เรียกว่า “ การเคลื่อนที่ถดถอยของจักรราศี ” (Precession of vernal equinox) ดังนั้น ถ้าจะสร้างปราสาทพนมรุ้งขึ้นใหม่ในปัจจุบัน และยังคงต้องการให้หันหน้าเข้า หาดวงอาทิตย์ในราศีเมษเหมือนเดิม ต้องวางผังแปลนให้หันหน้าเบี่ยงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้น โดยอยู่ที่มุมกวาดแถวๆ 78 องศา จากทิศเหนือ (Azimuth 78) แต่ถ้ายังคงยืนยันจะให้หันหน้าด้วยมุมกวาด 85 องศา เหมือนของเดิมในยุคขอมเรืองอำนาจ ท่านจะต้องรออีกประมาณ 25 ,000 ปี ให้แกนของโลกหมุนกลับมาที่เดิม เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นกับสิ่งก่อสร้างของชาวอียิปส์มาแล้ว ทำให้กษัตริย์องค์ใหม่ในยุคพันกว่าปีต่อมาจำเป็นต้องเปลี่ยนแบบแปลนวิหารเสียใหม่ เพื่อให้ตรงกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ในวันสำคัญทางศาสนา

                      ดังนั้น ท่านที่ไปชมปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ขึ้น หรือดวงอาทิตย์ตก ผ่านช่องประตู 15 ช่องที่ปราสาทพนมรุ้ง ก็ให้นึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างความเชื่อทางศาสนา ที่เอาข้อมูลทางดาราศาสตร์มาเป็นตัวกำหนดวันศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ทราบว่าบรรพชนเหล่านั้นจะรู้หรือไม่ อีกพันปีข้างหน้าพวกเขาต้องฟื้นขึ้นมาใหม่เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งปราสาทให้ตรงกับราศีเมษ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้สร้างความอึดอัดใจระหว่างนักดาราศาสตร์กับนักโหราศาสตร์ เพราะฝ่ายแรกรู้ดีว่าจักรราศีเปลี่ยนไปทุกๆ 2 ,160 ปี ต่อ 1 ราศี และจะหมุนกลับมาครบรอบ 12 ราศี ใช้เวลา เกือบ 26,000 ปี ทำให้ราศีเมษ ไม่ได้ตรงกับวันวสันตวิษุวัต (Vernal equinox) หรือวันที่ 21 มีนาคม อีกต่อไปแล้ว แต่ปัจจุบันวันวสันตวิษุวัต อยู่ระหว่างช่วงต่อของ “ ราศีมีน ” กับ “ ราศีคนแบกหม้อน้ำ ” จึงมีการแต่งเพลง Aquarius ขึ้นมาร้องกันทั่วประเทศอเมริกา แต่ทางฝ่ายท่านโหราจารย์ฝรั่งยังยึดตำราเล่มเดิมเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว ถือว่าจุดเริ่มต้นของราศีเมษ (First point of Aries) ยังคงเป็นวันที่ 21 มีนาคม ส่วนท่านโหราจารย์ไทยค่อยยังชั่วหน่อย ได้ปรับราศีเมษมาอยู่ที่ 15 เมษายน แล้ว อย่างไรก็ตามเพื่อความสมานฉันท์ทั้งสองฝ่ายจึงถือคติ “ ทางใครทางมัน ”

 

เปรียบเทียบระหว่างจักรราศีสากล กำหนดให้ราศีเมษเริ่มต้น 22 มีนาคม ส่วนจักรราศีไทย กำหนดให้ราศีเมษเริ่มต้น 15 เมษายน

 

       ทฤษฏีที่สอง

           จากการศึกษาจารึกภาษาขอมที่พบ ณ อโรคยาศาลหลายแห่งในยุคสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า ............ "วันเพ็ญ เดือนไจตระ และพิธีศารท ในกาลที่พระอาทิตย์คล้อยไปทางทิศเหนือ" แสดงว่าวันนี้ต้องมีนัยสำคัญ ไม่งั้นคงไม่จารึกไว้ตั้งหลายแห่ง ด้วยเหตุนี้ทำให้อโรคยาศาลจำนวนหนึ่ง เช่น กู่บ้านเขวา มหาสารคาม ปราสาทนางรำ โคราช และปราสาทตาเมือนโต๊ด สุรินทร์ ทำมุม 85 องศา เหมือนกับปราสาทพนมรุ้ง รวมทั้งปราสาทที่เมือง Siem Reap Cambodia เช่น Prasat Banteay Kdei และ Prasat Banteay Samrei 

          อนึ่ง "เดือนไจตระ" ตามจารึกอโรคยาศาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เมื่อเปรียบเทียบกับปฏิทินปัจจุบันอยู่ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม - 20 เมษายน (ปีอธิกสุรทิน 366 วัน) และ 22 มีนาคม - 20 เมษายน (ปีปกติสุรทิน 365 วัน) และ "วันเพ็ญ" น่าจะตกอยู่ในช่วงวันใดวันหนึ่งหลังจากวันที่ 21 หรือ 22 มีนาคม เป็นปรากฏการณ์เดียวกันกับ "ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5" ซึ่งเป็นที่มาของประเพณีเดินขึ้นปราสาทพนมรุ้ง 

          อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นทุกปีดังที่กล่าวในข้างต้น เพราะเป็นความต่างระหว่างปฏิทิน "สุริยะคติ" กับปฏิทิน "จันทรคติ" จากการเก็บข้อมูลพบว่าจะเกิดทุกๆ 11 ปี ได้ทดสอบทำภาพจำลองย้อนหลัง (simulation) ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดาราศาสตร์ The Starry Night พบว่าในยุคที่เริ่มสร้างปราสาทพนมรุ้ง ราว AD 1000 เป็นต้นมา ได้เกิดปรากฏการณ์ "วันเพ็ญในเดือนใจตระ ที่ดวงอาทิตย์คล้อยไปทางทิศเหนือ" ทุกๆ 11 ปี ดังตัวอย่างภาพข้างล่างนี้ ดังนั้นทุกรอบ 11 ปี น่าจะมีนัยสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่ง  

 

ภาพจำลองปรากฏการณ์ Full Moon in Chaitra Month ทุกๆ 11 ปี (AD 1051 AD 1062 AD 1073)  

 

จารึกอโรคยาศาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กล่าวถึง "วันเพ็ญ เดือนไจตระ"  

 

รูปร่างหน้าตาของหลักจารึกของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 

 

ตัวอย่างคำแปลของจารึกอโรคยาศาลที่กล่าวถึง "วันเพ็ญ เดือนไจตระ และพิธีศารท ในกาลที่พระอาทิตย์คล้อยไปทางทิศเหนือ

 

 

รูปร่างหน้าตาของปราสาทตาเมือนโต๊ด หนึ่งในกลุ่มปราสาทตาเมือน ที่ จ.สุรินทร์

 

 

อโรคยาศาล ปราสาทตาเมือนโต๊ด หันหน้า 85 องศา  

 

อโรคยาศาล กู่บ้านเขวา จ.มหาสารคาม หันที่มุม 85 องศา

 

ปราสาทนางรำ โคราช ก็หันหน้าที่มุมกวาด 85 องศา 

 

Prasat Banteay Kdei ที่เมือง Siem Reap Cambodia ก็ทำมุม 85 องศา  

 

 Prasat Banteay Samrei ก็เป็นอีกแห่งที่หันเข้าหา 85 องศา 

 

        ข้อสังเกต ..... ปราสาทกับบาราย

           ถ้าพิจารณา center-line ของตัวปราสาทพนมรุ้ง เปรียบเทียบกับบาราย จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีข้อน่าสังเกตแห่งความผิดปกติ กล่าวคือ ปราสาทขอมโดยทั่วไป center-line ของปราสาทกับบารายจะสอดคล้องกัน เช่นปราสาทเมืองต่ำที่อยู่ใกล้ๆกับปราสาทพนมรุ้ง ทำมุมเดียวกันทั้งตัวปราสาทและบาราย ที่มุมกวาด 79-80 องศา แต่ของปราสาทพนมรุ้งมาแปลกคือ ตัวปราสาททำมุมกวาด 85 องศา แต่บารายทำมุมกวาด 89.5 องศา (ใกล้เคียงวิษุวัต หรือ equinox) ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?

         น่าจะเป็นไปได้ว่าผู้สร้างปราสาทยังคง "รักพี่เสียดายน้อง" จึงต้องคง "ราศีเมษ ที่ตัวปราสาท" และ "วิษุวัต ที่บาราย" เพื่อให้รู้ว่าพวกเขายอมรับทั้งราศีเมษและวิษุวัต 

 

ตรวจสอบจากภาพถ่ายดาวเทียม Google มองเห็นได้ชัดเจนว่าปราสาทหันหน้าที่มุมกวาด 85 องศา แต่บารายหันหน้าไปที่ 89.5 องศา (วิษุวัต หรือ equinox) 

 

 ปราสาทเมืองต่ำและบารายหันหน้าไปทาง centerline เดียวกันที่มุมกวาด 79 - 80 องศา (ขยายภาพปราสาทใหญ่ขึ้น) 

 

คำถามเพิ่มเติม

1.ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกที่ปราสาทขอม อื่นๆ ในวันเดียวกันกับปราสาทพนมรุ้งมีหรือไม่? 

คำตอบ มีครับและหลายแห่งทั้งในประเทศไทยและกัมพูชา ได้แก่ Prasat Banteay Kdei และ Prasat Banteay Samrei ที่เมือง Siem Reap ปราสาทนางรำ ที่โคราช กู่บ้านเขวา ที่มหาสารคาม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ที่สุรินทร์ แม้กระทั้งวัดเก่าแก่ที่เมืองพระนครศรีอยุธยา เช่น วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดศรีสรรเพชร และวัดพระราม เป็นต้น 

 

 

  





 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


               

 

2.ปราสาทและโบราณสถานเหล่านั้นที่หันหน้า 85 องศาเหมือนกับปราสาทพนมรุ้ง แต่อยู่ห่างกันเป็นร้อยกิโลเมตร เขาใช้วิธีวางแนว centerline อย่างไร 

คำตอบ ใช้เทคนิคทางวิชาดาราศาสตร์ที่เรียกว่า Shadow Plot คือตอนแรกต้องหาทิศทั้งสี่ให้ได้เสียก่อน เสร็จแล้วให้ลากเส้นทำมุม 85 องศา จากทิศเหนือ

 

 วิธีทำ Shadow Plot โดยใช้เงาดวงอาทิตย์ตั้งแต่เช้าจนบ่าย

 

เสร็จแล้วจะได้ทิศทั้งสี่

ทำเครื่องหมายหรือลากเส้นตามแนวทิศทั้งสี่และทำมุม 85 องศา จากทิศเหนือ

 

สร้างปราสาทให้ตรงกับแนว centerline 

 

 

 

 

 ประมวลภาพปราสาทพนมรุ้ง

 

 

 

 

 

 

 

  

ปชมปราสาทพนมรุ้งหลายครั้งเพื่อเก็บข้อมูลทางดาราศาสตร์ 

 

ปี 2546 ก็ไปทั้งครอบครัวภรรยาและลูกสาวสองคน

 

นี่คือประตูหน้าสุดด้านทิศตะวันออก

 

พื้นประตูด้านทิศตะวันออกมีเส้น center-line ผมจึงใช้เข็มทิศวางทาบเพื่อตรวจสอบตำแหน่งทางดาราศาสตร์

 

สมัยนั้น 9 November 2004 ยังไม่มี GPS I-Phone จึงต้องใช้เข็มทิศแม่เหล็กไปพลางก่อน แต่ก็พอมองเห็นได้ชัดเจนว่าปราสาทหลังนี้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้วยมุมกวาด (Azimuth) ราวๆ 85 องศา

 

วันที่ 4 Nov 2004 (2547) เดินทางกลับมาจากเมือง Siem Reap Cambodia ก็เลยแวะที่ปราสาทพนมรุ้ง

 

ทิวทัศน์อันสวยงามด้านล่างของปราสาทพนมรุ้ง

 

 

 วันที่ 31 มกราคม 2559 กลับไปที่ปราสาทพนมรุ้งอีกครั้ง และใช้ GPS จับทิศของตัวปราสาทก็ได้ตัวเลข "มุมกวาด 85 องศา" (Azimuth 85) 

       

         สรุป

            หลายท่านถามผมว่าทำไมปราสาทหลังนี้ไม่หันหน้าไปที่ตำแหน่ง "วิษุวัต" (Equinox azimuth 90) เหมือนกับปราสาทขอมจำนวนมากที่เมืองหลวง (Angkor ปัจจุบันชื่อเมือง Siem Reap) แต่กลับหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อยที่มุมกวาด Azimuth 85 องศา เป็นคำถามที่น่าสนใจครับ คำตอบในทัศนะส่วนตัวของผมคือ

          1.ผู้สร้างต้องการที่จะหันหน้าเข้าหาตำแหน่งดวงอาทิตย์ใน "ราศีเมษ" ซึ่งเป็นสเป็กหรือทางเลือกแห่งความเชื่ออีกอย่างหนึ่งของท่านพราหมณ์ (ปุโรหิตา) ในราชสำนัก ทำนองเดียวกันกับปราสาทขอมอีกจำนวนหนึ่ง หรือหันหน้าเข้าหาวันสำคัญดังจารึกว่า "วันเพ็ญเดือนไจตระ และพิธีศารท ในกาลที่พระอาทิตย์คล้อยไปทางทิศเหนือ" อนึ่ง ในความเห็นของผมทั้งสองทฤษฏีมี นัยสำคัญคนละแง่มุม กล่าวคือ

          ทฤษฏีแรก ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกๆปี (ราศีเมษอย่างเดียวไม่มีวันเพ็ญ)

          ทฤษฏีที่สอง เกิดขึ้นทุก 11 ปี (มีราศีเมษ + วันเพ็ญ)  

               2.จากปรากฏการณ์เคลื่อนที่ถดถอยของจักราศี (Precession of vernal equinox) เนื่องจาก "แกนโลกแกว่ง" (Earth's pole shifted) ทำให้ตำแหน่งดวงอาทิตย์ในวัน "วสันตวิษุวัต" (vernal equinox) ย้ายถอยหลังไปอยู่ใน "ราศีมีน" แทนที่จะเป็น "ราศีเมษ" เหมือนเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว เรื่องนี้ได้สร้างความกะอักกระอ่วนใจระหว่างความเชื่อในราศีเมษ กับ วันวิษุวัต ทำให้ท่านพราหมณ์จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

          3.นักดาราศาสตร์กับนักโหราศาสตร์รู้เรื่องการแกว่งของแกนโลกเป็นอย่างดีครับ แต่ก็ไม่ทะเลาะกันเพราะเข้าตำรา "ทางใคร ทางมัน" ดังนั้นราศีเมษของฝรั่งจึงยังคงอยู่ที่ equinox วันที่ 21 March แต่ราศีเมษของไทย อินเดียตอนใต้ และบังกลาเทศ จึงย้ายไปอยู่วันที่15 April เราๆท่านๆก็เลือกเอาก็แล้วกันครับ แต่ถ้าพระเดชพระคุณท่านต้องการให้ "ราศีเมษ" กลับมาตรงกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ในปรากฏการณ์ "วสัตวิษุวัต" ท่านก็ต้องรออีกราวๆ "สองหมื่นกว่าปี" ครับผม

          4.จากข้อมูลที่ผมสำรวจตัวอย่างปราสาทขอม 85 แห่ง ในประเทศไทยและประเทศกัมพูชา พบว่า 78% ของปราสาทในกัมพูชาหันหน้าเข้าหา equinox ที่มุมกวาด 90 องศา (azimuth 90) และหันหน้าเข้า "ราศีเมษ" (Aries) 11% แต่ปราสาทในประเทศไทยหันหน้าเข้าหา equinox เพียง 35% และหันหน้าเข้าหา Aries มากถึง 41% ก็แสดงว่าปราสาทขอมในประเทศไทยนิยมสร้างให้ตรงกับ Aries  มากกว่า equinox ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ? กำลังพยายามหาเหตุผลมาอธิบาย ........ แต่เท่าที่พอจะนึกได้อาจจะเป็นเพราะพวกเขาออกไปตั้งถิ่นฐานอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงนครอังกอร์ ทำให้ความคิดความอ่านเปลี่ยนไปเฉกเช่นศาสนาต่างๆที่มีการตั้งนิกายใหม่ๆ เป็นไปได้ว่าเจ้านายขอมที่อยู่ห่างไกลเมืองหลวงให้ราคา "ราศีเมษ" หรือ Aries มากกว่า equinox ดังเช่น "วันสงกรานต์" ก็เลื่อนจาก "วิษุวัต" ไปราวกลางเดือนเมษายน 

 

  

 

 

  

 

   

 

 

 







Copyright © 2010 All Rights Reserved.
มูลนิธิเพื่อการพัฒนาผู้นำธุรกิจและชุมชน
The Foundation for Business and Community Leadership Development
โดย
นายอารีย์ ภู่สมบูญ
ประธานกรรมการมูลนิธิฯ