วันสถาปนากรุงศรีอยุธยา ....... มุมมองวิทยาศาสตร์
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide1(2).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide1(1).jpeg)
กระทั่งปัจจุบัน "วันสถาปนากรุงศรีอยุธยา" ก็ยังคงถกเถียงกันไม่จบสิ้นว่าเป็นวันไหนกันแน่? เอกสารทางวิชาการที่อยู่ในสื่อ internet เท่าที่พอค้นหาได้มี 3 กรณี จะนำมาวิเคราะห์ด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์ เพื่อชั่งน้ำหนักว่าอันไหนมีเหตุผลควรเชื่อถือมากที่สุด
โดยส่วนตัวมีโอกาสลงพื้นที่เก็บข้อมูลอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ณ เมืองโบราณอยุธยา 3 ครั้ง (ไม่นับคราวที่ไปเที่ยวชมแบบเราๆท่านๆทั่วไป) โดยเน้นที่วัดไชยวัฒนาราม และวัดมหาธาตุ
ครั้งที่หนึ่ง 20 กันยายน 2557 เป็นวิทยากรบรรยายและสาธิตวิชาดาราศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับโบราณสถาน แก่มัคคุเทศก์อาชีพ 80 คน จัดโดยกรมการท่องเที่ยว
ครั้งที่สอง 19 มีนาคม 2558 เป็นวิทยากรบรรยายวิชาดาราศาสตร์เหมือนครั้งแรก พร้อมกับลงพื้นที่ฝึกปฏิบัติกับสถานที่จริง
ครั้งที่สาม 29 กรกฏาคม 2561 ไปที่นั่นโดยส่วนตัวกับครอบครัวเก็บข้อมูลค่อนข้างละเอียดที่วัดไชยวัฒนาราม และวัดมหาธาตุ
ผลการลงพื้นที่ทั้งสามครั้งได้ข้อมูลการวางตัวของโบราณสถานชื่อดัง "วัดไชยวัฒนาราม" ทำมุมกวาด 70 องศา (azimuth 70) ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบวัดโบราณอีก 2 แห่ง คือ วัดพุทไธศวรรย์ และวัดอรุณ ก็ทำมุมกวาด 70 องศา เช่นเดียวกัน และทั้งสามแห่งตั้งอยู่บนฝั่งทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนกัน ...... โดยหลักตรรกวิทยาความเหมือนของวัดทั้งสามแห่งไม่น่าจะเป็นเหตุบังเอิญ นำมาสู่คำถาม "มีนัยสำคัญอะไร?" ยอมรับว่าตอนนั้นยังไขปริศนาไม่ออก
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide5.jpeg)
ยืนบรรยายกลางแดดเปรี้ยงๆ ณ ลานด้านทิศตะวันออกของวัดไชยวัฒนาราม
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide6(1).jpeg)
บรรยายวิชาดาราศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับโบราณสถาน แก่มัคคุเทศก์อาชีพที่วัดไชยวัฒนาราม 2 ครั้ง 20 กันยายน 2557 และ 19 มีนาคม 2558
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide9.jpeg)
ทั้งสองครั้งจัดโดยกรมการท่องเที่ยวร่วมกับสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide7.jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide8.jpeg)
ได้ฝึกให้มัคคุเทศก์ใช้เข็มทิศ และ application compass smartphone จับองศาการวางตัวของวัดไชยวัฒนาราม พบว่าโบราณสถานแห่งนี้ทำมุมกวาด 70 องศา (azimuth 70)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide10.jpeg)
ลงพื้นที่ครั้งที่สามเมื่อ 29 กรกฏาคม 2561 ใช้เข็มทิศจับทิศการวางตัวของวัดไชยวัฒนาราม เพื่อยืนยันตัวเลข 70 องศา
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide11(1).jpeg)
การวางตัวของวัดไชยวัฒนารามตามพิกัดทางดาราศาสตร์
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide4.jpeg)
วัดไชยวัฒนารามกับวัดพุทไธสวรรย์วางตัวที่มุมกวาด 70 องศา เหมือนกัน และตั้งอยู่บนฝั่งทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นเดียวกัน
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide2.jpeg)
น้องเต๋า ลงพื้นที่วัดพุทไธศวรรย์
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide3.jpeg)
น้องเต๋า Tow Napapahn ทำการวัดองศาการวางตัวของวัดพุทไธสวรรค์ พบว่าเท่ากับมุมกวาด 70 องศา
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide20.jpeg)
Google Earth ก็แสดงผลการวางตัวของวัดอรุณฯบนฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันตก ก็ทำมุมกวาด 70 องศา
มาถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนา "วิสาขบูชาโลก" 22 พฤษภาคม 2567 ได้ขอความช่วยเหลือจากหลานสาว "น้องเต๋า" ชื่อ Facebook: Tow Napapahn ซึ่งเป็นชาวอยุธยาโดยกำเนิด ให้ถ่ายภาพ sunrise ที่วัดไชยวัฒนาราม เพราะจากการคำนวณพบว่าวันนี้ดวงอาทิตย์จะขึ้นที่มุมกวาด 70 องศา ตรงกับ center ของโบราณสถาน จึงต้องการพิสูจน์ยืนยันเชิงประจักษ์ว่าวัดแห่งนี้หันหน้าไปที่มุมกวาด 70 องศา
ภาพ graphic การขึ้นของดวงอาทิตย์ที่วัดไชยวัฒนารามในวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เป็นวัน "วิสาขบูชาโลก" อนึ่ง การเคลื่อนตัวของดวงอาทิตย์จะเอียงประมาณ 14 องศาจากแนวดิ่ง เพราะวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เส้นรุ้ง 14 องศา จากการคำนวณด้วยโปรแกรมดาราศาสตร์ดวงอาทิตย์ ณ เวลา 06:47 น. จะโผล่ปรากฏกายครึ่งนึงที่ความสูง 30 เมตร ขององค์ปรางค์ประธาน
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide14.jpeg)
เปรียบเทียบภาพ Graphic กับภาพถ่ายจริง (ฝีมือของน้องเต๋า Tow Napapahn) เห็นชัดเจนว่าดวงอาทิตย์ปรากฏกายครึ่งดวง ณ ความสูง 30 เมตร ขององค์ปรางค์ประธาน แม้ว่าจะมีเมฆหนาและฝนปรอยๆ ...... ยืนยันว่าวัดไชยวัฒนารามหันหน้าตรงกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่มุมกวาด 70 องศา
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide15.jpeg)
การเคลื่อนตัวของดวงอาทิตย์เช้าตรู่วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เป็นไปตามสูตร แม้ว่าวันนั้นท้องฟ้ามีเมฆมากและฝนตกปรอยๆ
ภาพถ่ายยืนยันเชิงประจักษ์ว่าดวงอาทิตย์วันที่ 22 พฤษภาคม ขึ้นตามสูตรที่มุมกวาด 70 องศา สอดคล้องกับข้อมูลเข็มทิศ จึงนำไปสู่การวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์ เปรียบเทียบกับข้อมูลในเอกสารที่อ่านจาก internet ซึ่งกล่าวถึง "วันสถาปนากรุงศรีอยุธยา" ........ ลองมาพิจารณาที่ละ case ดังนี้
Case 1 ระบุ วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ.1893 ขึ้น 6 ค่ำ เดือนห้า
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide17.jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide33(2).jpeg)
ข้อสังเกต กรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยพระเจ้าอู่ทอง ยังไม่มี พ.ศ. และ จ.ศ. แต่ใช้ปฏิทิน "มหาศักราช" ที่เอามาจากชาวขอม ดังนั้น เดือน 5 ของมหาศักราชน่าจะอยู่ในเดือนกรกฏาคม จึงไม่ใช่ ปฏิทินจันทรคติในปัจจุบันที่เริ่มนับเดือนอ้าย (พฤศจิกายน - ธันวาคม) เดือนยี่ (ธันวาคม - มกราคม) เดือน 3 (มกราคม - กุมภาพันธ์) เดือน 4 (กุมภาพันธ์ - มีนาคม) เดือน 5 (มีนาคม - เมษายน) ..... อนึ่ง นักประวัติศาสตร์มีความเห็นเชิงทฤษฏีว่าพระเจ้าอู่ทองน่าจะมีเชื้อสายขอมหรือเกี่ยวพันกับขอมอย่างใดอย่างหนึ่ง นัยว่าพระองค์มาจากเมืองละโว้?
กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงให้ความเห็นว่าพระเจ้าอู่ทองน่าจะเป็นเจ้าชายเมืองละโว้ มีเชื้อสายขอม
เอกสารระบุว่าวันสถาปนากรุงศรีอยุธยา ตรงกับ วันศุกร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือนห้า เวลารุ่งแล้ว 3 นาฬิกา 9 บาท
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide19.jpeg)
ปฏิทิน Gregorian ย้อนหลังไปที่ 4 มีนาคม พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350 เป็นวันจันทร์ (Monday) ไม่ใช่ "วันศุกร์" และปรากฏการณ์ของดวงจันทร์ก็ตรงกับ แรม 9 ค่ำ (Waning Moon of 24.22 days) ไม่ใช่ ขึ้น 6 ค่ำ
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide20(1).jpeg)
โปรแกรมการคำนวณวันย้อนหลังแสดงผลว่า 4 มีนาคม พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350 ตรงกับ Monday ไม่ใช่ Friday
Case 2 ระบุ ขึ้น 6 ค่ำ เดือนห้า วันศุกร์ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ.1894 (ค.ศ.1351)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide23.jpeg)
โปรแกรมดาราศาสตร์แสดงผล วันที่ 12 มีนาคม ค.ศ.1351 ตรงกับ ขึ้น 13 ค่ำ ไม่ใช่ ขึ้น 6 ค่ำ
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide34(5).jpeg)
การนับเดือนในรัชสมัยของพระเจ้าอู่ทองใช้ปฏิทิน "มหาศักราช" ดังนั้น เดือนห้าจึงตรงกับ "กรกฏาคม" ..... แต่ถ้าเอาปฏิทินจันทรคติไทยในปัจจุบันไปใช้ เดือนห้าจึงตกที่ "มีนาคม"
ปฏิทิน Gregorian ย้อนหลัง 12 มีนาคม ค.ศ.1351 ตรงกับวันศุกร์ (Friday)
Case 3 เอกสารดวงเมืองกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า มีดาว "โรหินี" ซึ่งเป็นดาวประจำเมืองของกรุงศรีอยุธยาขึ้นที่ขอบฟ้า วันศุกร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 5 พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide25.jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide26.jpeg)
โฉมหน้าดวงเมืองกรุงศรีอยุธยา
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide27.jpeg)
โปรแกรมดาราศาสตร์แสดงภาพดาวประจำเมืองกรุงศรีอยุธยา "ดาวโรหิณี" (Aldebaran) โผล่ที่ขอบท้องฟ้าทิศตะวันออกในราศี "พฤษภ" (Taurus) วันที่ 11 กรกฏาคม พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350 เวลา 02:16 น.
เมื่อเทียบปฏิทิน Gregorian ย้อนหลังไปที่ 11 กรกฏาคม พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350 ตรงกับ "วันเสาร์"
(Saturday)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide30.jpeg)
อย่างไรก็ตามคนไทยโบราณถือว่า "ยังไม่ถึงรุ่งแจ้ง หรือ ดวงอาทิตย์ขึ้น" ให้ถือเป็น "วันเดิม" คือ "วันศุกร์" ดังนั้น แม้ว่า 11 กรกฏาคม พ.ศ.1983 หรือ ค.ศ.1350 ของปฏิทิน Gregorian จะระบุว่าเป็น "วันเสาร์" ก็ตามที ......... ฤกษ์ดาวประจำเมืองศรีอยุธยา "โรหิณี" (Aldebaran) ขึ้นที่ขอบฟ้าเวลา 02:16 น. ตามปฏิทิน Gregorian ก็ยังถือเป็น "วันศุกร์" เพราะยังไม่ถึงเกณฑ์เปลี่ยนวันใหม่
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide32.jpeg)
โปรแกรมดาราศาสตร์ แสดงผล วันเสาร์ ที่ 11 กรกฏาคม พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350 เวลา 19:13 น. ตรงกับ "ขึ้น 6 ค่ำ" (Age of moon 6.22 days old) แสดงว่าเมื่อได้ฤกษ์ "ดาวโรหิณี" ในตอนกลางคืนแล้ว ดวงจันทร์ในวันถัดไปตรงกับ ขึ้น 6 ค่ำ
เพื่อให้เห็นภาพของปฏิทินจันทรคติ ใช้โปรแกรมดาราศาสตร์ทำ simulation ระหว่างวันที่ 5 - 11 กรกฎาคม พ.ศ.1893 (ไล่ตั้งแต่ แรม 14 ค่ำ ข้ึน 1 ค่ำ ........ จนถึง ขึ้น 6 ค่ำ)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide32(1).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide33(4).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide34(6).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide35(3).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide36(2).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide37(1).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide38.jpeg)
ในรัชสมัยของพระเจ้าอู่ทองใช้ปฏิทินมหาศักราช เหมือนกับอาณาจักรสุโขทัย
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide33(1).jpeg)
ปฏิทิน "มหาศักราช" (Saka Calendar) ในรัชสมัยของพระเจ้าอู่ทอง ระบุว่า "เดือนห้า" คือเดือน "Shravana" เทียบกับปฏิทิน Gregorian คือ 23 มิถุนายน - 23 กรกฎาคม ดังนั้น วันที่ 10 และ 11 กรกฎาคม จึงอยู่ในกรอบของ "เดือนห้า"
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide35.jpeg)
ดวงอาทิตย์เช้าตรู่ 11 กรกฏาคม พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350 ขึ้น ณ มุมกวาด 70 องศา (azimuth 70)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide14(1).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide34(1).jpeg)
ภาพถ่ายดวงอาทิตย์ที่วัดไชยวัฒนาราม วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 ตรงกับมุมกวาด 70 องศา และ เมื่อถึงวันที่ 23 กรกฏาคม 2567 ดวงอาทิตย์จะกลับมาที่เดิม ณ มุมกวาด 70 องศา
นี่คือเหตุผลที่วัดโบราณสมัยพระเจ้าอู่ทองคือ "วัดพุทไธศวรรย์" จึงวางตัวหันหน้าไปที่มุมกวาด 70 องศา และยังผลให้วัดไชยวัฒนาราม และวัดอรุณฯ ที่สร้างในยุคสมัยต่อมา "เลียนแบบ" ด้วยมุมกวาดและตำแหน่งที่ตั้งเหมือนกัน คือ มุมกวาด 70 องศา และตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide51.jpeg)
ภาพ simulation ดวงอาทิตย์ขึ้นตรงกับหน้าปรางค์ประธานวัดไชยวัฒนาราม ที่มุมกวาด 70 องศา วันที่ 20 - 24 พฤษภาคม 19 - 23 กรกฎาคม ทุกปี
สรุป
ความเห็นส่วนตัว ให้น้ำหนักไปที่ Case 3 วันสถาปนากรุงศรีอยุธยา อยู่ระหว่างวันที่ 10 - 11 กรกฎาคม พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350 เนื่องจากมีนัยสำคัญ 4 ประการ
1. สอดคล้องกับดวงเมือง ขณะที่พราหมณ์กำลังทำพิธี มีดาวประจำเมือง "หิโรณี" (Aldebaran) ใน "ราศีพฤษภ" (taurus) ปรากฏที่ขอบฟ้า เวลา 02:16 น. วันเสาร์ ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350 ...... แต่ในทางความเชื่อของไทยโบราณยังถือว่าปรากฏการณ์ของดาวประจำเมืองเป็นคืน "วันศุกร์" เพราะยังไม่ถึงเวลารุ่งแจ้ง ดังนั้น จึงถือว่าฤกษ์ทำพิธี คือ วันศุกร์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350
2. เดือนห้า เป็นเดือนในปฏิทินมหาศักราช (Saka Calendar) ที่ใช้ในรัชสมัยพระเจ้าอู่ทอง คือเดือน Sharavana 23 มิถุนายน - 22 กรกฎาคม ดังนั้น วันศุกร์ ที่ 10 กรกฎาคม จึงอยู่ในเดือนห้า
3. ขึ้น 6 ค่ำ ตรงกับ วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350 เป็นวันรุ่งขึ้นของฤกษ์โรหิณี
4. ดวงอาทิตย์เช้าตรู่วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.1893 หรือ ค.ศ.1350 ตรงกับมุมกวาด 70 องศา (azimuth 70) สอดคล้องกับการวางตัวของ "วัดพุทไธศวรรย์" เป็นวัดแห่งแรกของกรุงศรีอยุธยาสร้างโดยพระเจ้าอู่ทอง และมีอิทธิพลต่อการสร้างวัดไชยวัฒนาราม และวัดอรุณฯ ซึ่งทั้งสามแห่งวางตัวในมุมกวาด 70 องศา และตั้งอยู่บนฝั่งทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1716757930/Slide33.jpeg)