ปรากฏการณ์แสงเหนือ ....... ภัยอันตรายที่แฝงมากับความสวยงาม
เราๆท่านๆโดยทั่วไปอยากเห็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ "แสงเหนือ" (Northen Light or Aurora borealis) สักครั้งในชีวิต ถึงขนาดลงทุนซื้อทัวร์บินไปประเทศแถบยุโรปเหนือบริเวณอาร์ติกเซอร์เคิ่ล เส้นรุ้ง 66.5 องศาเหนือ (Arctic Circle Lat 66.5 N) ซึ่งมักเกิดปรากฏการณ์นี้เป็นช่วงๆ ......... แต่กลางดึกวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ชาวอเมริกันได้ตื่นเต้นกับ "แสงเหนือ" แม้กระทั่งรัฐอลาบาม่าที่อยู่ทางใต้ ณ เส้นรุ้ง 30 N ก็ยังเห็นโดยไม่ต้องบินไปที่รัฐอลาสก้า มีการถ่ายรูปลง Facebook และ Share กันอย่างสนุกสนาน ....... ผมอยู่ที่เมือง Ankeny Iowa State USA ก็ได้เห็นและถ่ายภาพไว้เช่นกัน เมื่อเวลาประมาณ 22 น. ในใจเกิดคำถาม ........ ทำไมแสงเหนือจึงลงมาปรากฏที่อเมริกาซึ่งผิดปกติมาก?
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide1.jpeg)
ถาม ....... แสงเหนือคืออะไร
ตอบ ....... จุดดับบนดวงอาทิตย์ (Sunspots) เป็นต้นเหตุของการปะทุขนาดใหญ่ของพลังงานที่เรียกว่า "พายุสุริยะ" (solar flare or geomagnetic storm) พุ่งตรงมายังโลกด้วยความเร็ว 72 ล้าน กม. ต่อ ชม. หรือใช้เวลา 8 นาที ขณะเดียวกันโลกมีแนวป้องกันเรียกว่า "แม่เหล็กโลก" (magnetic shield) ทำหน้าที่หน่วงเหนียวให้คลื่นพายุสุริยะหักเหไปลงที่ขั้วโลกทั้งสองข้างบริเวณ arctic circle เส้นรุ้ง 66.5 องศา เมื่อกระทบกับชั้นบรรยากาศจะเกิดสีต่างๆ เช่น สีเขียวเกิดจากก๊าซออกซิเจน สีม่วงเกิดจากก๊าซไนโตรเจน ถ้าเกิดที่ขั้วโลกด้านเหนือ มีชื่อว่า "แสงเหนือ" (northen light or aurora borealis) เกิดที่ขั้วโลกใต้จะเรียกชื่อ "แสงใต้" (southern light or aurora australis)
จุดดับบนดวงอาทิตย์ทำให้เกิดการปะทุกลายเป็นพายุสุริยะ
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide9.jpeg)
พายุสุริยะพุ่งมายังโลก
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide7.jpeg)
แม่เหล็กโลกทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันและเหนี่ยวนำให้คลื่นพายุไปลงบริเวณขั้วโลกนัยว่าจะทำให้อ่อนกำลังลง
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide8(1).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide8(2).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide8(3).jpeg)
บริเวณ arctic circle ที่เส้นรุ้ง 66.5
ถาม ...... แสงเหนือจากพายุสุริยะเป็นอันตรายไม้
ตอบ ...... โดยปกติถ้าเกิดที่บริเวณขั้วโลก หรือ arctic circle ถือเป็นเรื่องปกติของปรากฏการณ์ธรรมชาติที่แม่เหล็กโลกทำงานได้ดี ภาษาหมัดมวยเรียกว่า "ต่อยมาติดการ์ด" ไม่มีผลเสียอะไร แต่มีผลดีต่อการท่องเที่ยวที่ผู้คนอยากจะไปชมแสงเหนือสร้างรายได้แก่ประเทศแถบนั้นๆ
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide10.jpeg)
โดยปกติแม่เหล็กโลจะทำหน้าที่ปกป้องพายุสุริยะและเกิดปรากฏการณ์แสงเหนือแสงใต้
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide12.jpeg)
ผู้คนที่อาศัยในบริเวณ arctic circle เห็นแสงเหนือจนชินตาถือเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ
ถาม ....... แม่เหล็กโลกคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร
ตอบ ..... เนื่องจากแกนด้านในสุดของโลก (inner core) ซึ่งอยู่ลึก 5,150 - 6,371 กม. เป็นแหล่งพลังงานความร้อนมหาศาล ขณะที่แกนถัดออกมา (outer core) อยู่ลึก 2,900 - 5,150 กม. เป็นของเหลวประกอบด้วยเหล็ก ของเหลวเหล่านี้ถูกความร้อนทำให้เกิดอาการหมุนเวียนเหมือนน้ำเดือด ภาษาวิทยาศาตร์เรียกว่าทำงานคล้ายไดนาโม (geodynamo) ประกอบกับโลกหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วราวๆ 1,600 กม. / ชม. ทำให้เกิดคลื่นแม่เหล็กพุ่งออกมาเสมือนกับโลกใบนี้มีแท่งแม่เหล็กฝังอยู่
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide13(1).jpeg)
ถ้าผ่าโลกออกมาดูจะเห็นองค์ประกอบเป็นชั้นๆ แต่ส่วนที่ทำให้เกิดแม่เหล็กคือแกนในที่เรียกว่า inner core เป็นแหล่งพลังงานความร้อน กับ outer core มีเหล็กเป็นของเหลว
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide17.jpeg)
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดแม่เหล็กโลก ความเร็วของการหมุนรอบตัวเอง มีแกนที่เป็นโลหะเหลว แกนในมีแหล่งพลังงานความร้อนพอที่จะทำให้โลหะเหลวเคลื่อนตัว
โลหะเหลวถูกความร้อนทำให้เคลื่อนตัวเหมือนเกลียวทำให้เกิดกระแสแม่เหล็ก
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide16.jpeg)
แม่เหล็กโลกวางตัวในแนวเหนือใต้ (magnetic north) เบี่ยงเบนจากแนวเหนือใต้ทางภูมิศาสตร์ (geographic north) เล็กน้อย
ถาม ....... ปรากฏการณ์ที่แสงเหนือเกิดขึ้นนอกเขต arctic circle และลามลงไปถึงเส้นรุ้ง 30 N เมื่อคืนวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 จะมีผลเสียอะไรไม้
ตอบ ...... เป็นสัญญาณอันตรายแสดงว่าพายุสุริยะมีความแรงขึ้นจนทะลุแนวป้องกันของแม่เหล็กโลก หรือ แม่เหล็กโลกอ่อนกำลัง หากเกิดเช่นนี้บ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นจะมีผลกระทบกับอุปกรณ์อิเลคโทรนิคทุกชนิดของโลก เช่น ดาวเทียม ระบบสื่อสาร ระบบการจ่ายไฟฟ้า ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง หากไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ (ปัจจุบันยังไม่ได้ยินว่าเรามีวิธีแก้ไขหรือป้องกันที่ดีอย่างไร) ปัญหานี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 1859 ทำให้ไฟฟ้าดับเกือบทั้งประเทศแคนาดาและอเมริกาเหนือ สถานีควบคุมโทรเลขเกิดไฟไหม้ เหตุการณ์นี้มีชื่อว่า Carrington Event 1859 ตามชื่อของนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบสาเหตุนี้
ภาพถ่ายแสงเหนือที่หลังบ้านของผมที่เมือง Ankeny Iowa USA คืนวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 เวลาสี่ทุ่มกว่า
เปรียบเทียบท้องฟ้าปกติกับท้องฟ้าที่เกิดแสงเหนือ ณ เมือง Ankeny Iowa USA
ถาม ........ อนาคตข้างหน้าเราจะอยู่กันอย่างไร?
ตอบ ........ องค์การ NASA ส่งซิกมาให้เราๆท่านๆเป็นนัยๆแล้วว่าอีกพันล้านปี หรืออาจจะเร็วกว่านั้น โลกมนุษย์จะแปรสภาพเหมือนดาวอังคารที่ทุกอย่างสูญสิ้นเพราะถูกพายุสุริยะผลาญอย่างรุนแรง จากการศึกษาพบว่าดาวอังคารเมื่อหลายพันล้านปีที่แล้วมีความอุดมสมบูรณ์เหมือนโลก มีแม่น้ำ มีทะเล มีทุกอย่างเหมือนโลก และที่สำคัญมี "วิวัฒนาการสิ่งมีชีวิตเหมือนโลก" องค์การ NASA เขียนข้อความและมีรูปภาพติดบน "นาฬิกาแดด" ของยานสำรวจภาคพื้นดิน เหมือนกับจะส่งซิกอะไรบางอย่าง .......... TWO WORLDS ONE BEGINNING!
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide26.jpeg)
ร่องรอยแม่น้ำบนดาวอังคารที่ยืนยันว่าพันล้านปีที่แล้วมีความอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้โลก
หินกรวดที่เกิดจากแม่น้ำที่ดาวอังคารกับหินกรวดบนโลกเหมือนกันยังกะแกะ
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide24.jpeg)
หินทรายที่เกิดจากการตกตะกอนที่ดาวอังคารและโลกมีโครงสร้างไม่ต่างกัน
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide23.jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide21.jpeg)
ภาพนี้ถ้าไม่บอกว่าเป็นดาวอังคารก็คิดว่าเป็นภาพจากโคกหินแฮ่แถวๆเทือกเขาภูพานในภาคอีสาน
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide24(1).jpeg)
นิตยาสาร LIVE SCIENCE ฉบับวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ยืนยันข้อมูลจากผลการวิเคราะห์โครงสร้างของก้อนหิน ........ ดาวอังคารเคยมีอ๊อกซิเจนและมีความน่าอยู่เหมือนโลก
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide21(1).jpeg)
ยานสำรวจของ NASA ยืนยันว่าดาวอังคารแห้งแล้งมีแต่หินกับดินและความว่างเปล่า
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide28(1).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide28.jpeg)
แม่เหล็กของดาวอังคารอ่อนมากทำให้ป้องกันพายุสุริยะไม่ได้
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide29.jpeg)
พายุสุริยะได้ทำลายชั้นบรรยากาศของดาวอังคารจนแทบไม่เหลือยังผลให้สูญสิ้นความอุดมสมบูรณ์ จากดาวเคราะห์ที่น่าอยู่กลายเป็นโลกที่แห้งแล้งมีแต่ก้อนหินและพื้นดินว่างเปล่า
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide30(1).jpeg)
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide30.jpeg)
ยานสำรวจดาวอังคารลำล่าสุดของนาซ่า ชื่อ Preserverance พบร่องรอยของ "อินทรีย์วัตถุ" ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งมีชีวิตก็แสดงว่าครั้งหนึ่งในอดีตต้องมี "ชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้"
![](http://www.yclsakhon.com/images/sub_1715533722/Slide19.jpeg)
นาฬิกาแดดที่ติดไปกับยานสำรวจดาวอังคารลำล่าสุดของ NASA ที่ชื่อว่า Preseverance แปลว่า "ผู้ปกป้อง" มีคำขวัญเขียนว่า TWO WORLDS ONE BEGINNING แปลเป็นไทย ....... สองพิภพ กำเนิดมาเหมือนกัน ....... ดีนะที่ไม่เขียนต่อว่า "ตอนจบก็เหมือนกัน" (ONE ENDING) แถมยังมีภาพ "วิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต" ตั้งแต่เซลเดียว พัฒนาเป็นพืช เป็นสัตว์ เช่น ไดโนเสาร์ และมาลงท้ายที่มนุษย์เจ้าเล่ห์กิเลศหนาอย่างเราๆท่านๆ ....... NASA ส่งซิกว่าวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้าโลกมนุษย์ก็คงจะพบจุดจบแบบเดียวกับดาวอังคาร
สรุป
สักวันหนึ่งข้างหน้ามนุษยชาติก็คงหนีไม่พ้นการสิ้นสลาย ดังคำสอนพุทธองค์ ....... ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง เกิดได้ ก็ดับได้ สาธุ สาธุ