ความเชื่อทางเดียวสามารถขยายความคิดเห็นที่เข้มงวดได้ สล็อตออนไลน์มือถือ

คนที่ดันทุรังอาจมีโอกาสน้อยที่จะแก้ไขความไม่แน่นอนโดยการแสวงหาข้อเท็จจริงใหม่ ๆ

"เมื่อเรายอมรับศาสนาระบบการเมืองความเชื่อทางวรรณกรรมอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าเรากลายเป็นหุ่นยนต์เราไม่เติบโต" ―Anaïs Nin, The Diary of Anaïs Nin (2487-2490)

งานวิจัยใหม่เกี่ยวกับ "กลไกการรับรู้ที่อาจนำไปสู่การก่อตัวของโลกทัศน์แบบดันทุรัง" ชี้ให้เห็นว่าผู้ที่มีแนวโน้มที่จะเชื่อในความเชื่อมักมีโอกาสน้อยที่จะตรวจสอบความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นโดยการทำภารกิจค้นหาข้อเท็จจริง การศึกษาเชิงสังเกตที่ผ่านการตรวจสอบโดยเพื่อนนี้ (Schulz et al., 2020) ซึ่งมีคนมากกว่า 700 คนโดยนักวิจัยจาก University College London และ Max Planck Institute for Biological Cybernetics ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนในรายงานการประชุมของ National Academy of Sciences

ผู้เขียนอธิบายว่า "เมื่อความรู้หายากก็ต้องปรับตัวเพื่อแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขความไม่แน่นอนและได้รับโลกทัศน์ที่ถูกต้องมากขึ้น" ผู้เขียนอธิบาย "ที่นี่เราตรวจสอบว่าความโน้มเอียงในการแสวงหาข้อมูลที่มีการชี้นำความไม่แน่นอนเกี่ยวข้องกับความแตกต่างของแต่ละบุคคลในความเชื่อซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เชื่อมโยงกับความเชื่อที่ฝังแน่นในวาทกรรมทางการเมืองวิทยาศาสตร์และศาสนา"

การวิจัยยังชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่เพียงแค่มีการเข้าถึงข้อมูลที่สามารถหักล้างทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่มีมูลความจริงไม่ได้หมายความว่าคนที่ดันทุรังจะมีแนวโน้มที่จะแสวงหาข้อมูลนั้น "วันนี้มีความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะ" ชูลซ์ตั้งข้อสังเกต "เราไม่เคยมีอิสระในการตัดสินใจว่าเรามีหลักฐานเพียงพอเกี่ยวกับบางสิ่งหรือไม่หรือควรหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนที่จะเชื่อ" สล็อตออนไลน์มือถือ