เรียน ผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร
ตามที่ได้หารือกันเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2560 และมอบหมายให้ผมจัดทำร่างโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวดังรายละเอียดแจ้งแล้วนั้น พร้อมนี้ใคร่ขอส่งการบ้าน 3 โครงการ เพื่อพิจารณาตามสมควรต่อไป
1. Adventure Tourism







ชื่อโครงการ ลุยป่าค้นหาเมืองขอมพันปี (Treking to the lost city of ancient khmer)
ผู้รับผิดชอบโครงการ บริษัทประชารัฐสามัคคีสกลนครฯ
หน่วยงานสนับสนุน สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร
ความเป็นมา ภูเขาชื่อ "ภูเพ็ก" เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน ตั้งอยู่ที่ตำบลนาหัวบ่อ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร มีปราสาทร้างยุคขอมเรืองอำนาจเมื่อพันปีที่แล้วตั้งอยู่บนยอดเขา +520 เมตร จากระดับน้ำทะเล กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อปี พ.ศ.2478 ในชื่อว่า "พระธาตุภูเพ็ก" ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 เป็นต้นมาทีมงานชมรมพยัคฆ์ภูเพ็กซึ่งเป็นชาวบ้านอาสาสมัครได้ค้นพบซากโบราณสถาน เช่น ฝายหิน ฐานรากปราสาท แหล่งตัดหิน แท่งหินขนาดใหญ่ที่ตกแต่งเป็นรูปร่างแล้ว เนินดินลึกลับเรียงตัวเป็นเส้นตรงที่ยังไม่ทราบว่าคืออะไร ภาพสลักปริศนา ฯลฯ ซ่อนตัวกระจัดกระจายอยู่ในป่าและหุบเขา
อนึ่ง ปราสาทร้างที่ถูกตั้งชื่อว่า "พระธาตุภูเพ็ก" สร้างเสร็จเพียงบางส่วน แต่ก็มีเรื่องราวแห่งตำนาน "อรดีมายา" ตามบันทึกของกรมพระยาดำรงราชานุภาพเมื่อปี พ.ศ.2449 ว่าด้วยการแข่งขันสร้างปราสาทระหว่างกลุ่มหญิงและชายเพื่อจะได้อุรังคธาตุซึ่งพระมหากัสปะนำมาจากอินเดียไปประดิษฐานในสถานที่ของตนเอง แต่ในความเป็นจริงสาเหตุของการทิ้งงานยังคงเป็นปริศนา อย่างไรก็ตามโบราณสถานแห่งนี้เป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ตั้งอยู่บนยอดภูเขามีรูปร่างคล้าย "เขาพระสุเมรุ" และมีความสัมพันธ์กับปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่สอดคล้องกับปฏิทินมหาศักราชในครั้งโบราณ เช่น วิษุวัต (equinoxes) มายัน (solstices)
วัตถุประสงค์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบผจญภัย
สถานที่โครงการ บริเวณป่ารอบๆปราสาทภูเพ็ก อุทยานแห่งชาติภูพาน
ระยะเวลา ช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเมษายน
วิธีการดำเนินงาน แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน โดยให้บริษัทประชารัฐสามัคคีสกลนครฯเป็นผู้ดำเนินการในเบื้องต้น (เป็นการฝึกงานให้ชุมชน) และผ่องถ่ายให้ชุมชนดำเนินการด้วยตนเองเมื่อมีความพร้อมโดยบริษัทประชารัฐฯเป็นที่ปรึกษา
ขั้นตอนที่ 1 จัดเตรียมข้อมูล พฤศจิกายน - ธันวาคม 2560
1.1 สำรวจและบันทึกค่าพิกัด GPS ของเป้าหมายที่เป็นซากโบราณสถานและวัตถุต่างๆ เพื่อจัดทำระบบ GPS filing document 1.2 จัดทำข้อมูลสาระสำคัญของสถานที่และวัตถุเป้าหมายในระบบ QR Code เพื่อเชื่อมโยงกับ website
1.3 จัดทำรายละเอียด กติกา เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ และสิ่งที่จะต้องปฏิบัติ และอื่นๆที่จำเป็น
1.4 จัดทำแบบฟอร์มรับสมัครใน website ที่สามารถลงทะเบียนแบบ online และจ่ายค่าสมัครด้วย credit card หรือ debit card หรือ promptPay
1.5 ประชาสัมพันธ์โครงการด้วยระบบ E-advertising
1.6 เตรียมความพร้อมของชุมชนและบุคคลากรของบริษัทประชารัฐสามัคคีสกลนครฯ ที่จะดูแลโครงการ
ขั้นตอนที่ 2 ทดสอบความคล่องตัวของโครงการ 1 - 10 ธันวาคม 2560
2.1 ทดสอบการรับสมัคร และการจ่ายเงิน
2.2 ทดสอบโดยใช้นักท่องเที่ยวสมมุติให้เข้าร่วมกิจกรรมเสมือนจริง ตามกติกาและเงื่อนไขของโครงการ
2.3 ประเมินผล เสริมจุดแข็งและปรับแก้จุดอ่อน เพื่อสรุปความพร้อมของโครงการ
ขั้นตอนที่ 3 ดำเนินการรับสมัครนักท่องเที่ยวผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ รุ่นโปรโมชั่น 3 รุ่น เริ่มตั้งแต่ 10 ธันวาคม
3.1 ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ E-advertising และรับสมัครผ่าน website โดยมีรายละเอียด กำหนดการแต่ละรุ่น จำนวนคนแต่ละรุ่น อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ รวมทั้งสิ่งที่ผู้สมัครต้องเตรียมทำการบ้านมาก่อน เช่น download พิกัด GPS ลงใน Google Map เพื่อทำแผนที่เดินป่าของตนเอง (treking route)
3.2 กำหนดโควต้านักท่องเที่ยวรุ่นโปรโมชั่น 3 รุ่นๆละ 20 คน รวมทั้งสิ้น 60 คน
3.3 อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ในด้านการต้อนรับ การปฐมนิเทศก์ การนำเข้าสู่ที่พัก การนำไปที่จุดปล่อยตัว การรอรับที่จุดปลายทาง การรักษาความปลอดภัยและกรณีฉุกเฉินต่างๆ
3.4 นักท่องเที่ยวจะใช้ข้อมูล GPS และ Google Map ในการเดินเข้าหาเป้าหมายตามกำหนดเวลา และรายงานผลด้วยภาพถ่าย selfie และ tag มาที่ Facebook ของศูนย์อำนวยการ
3.5 การมอบประกาศณียบัตร หรือสิ่งของที่ระลึกแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ
ขั้นตอนที่ 4 ตั้งแต่รุ่นที่ 4 เป็นต้นไปบริษัทประชารัฐสามัคคีสกลนคร จะดำเนินการวางแผนและปฏิบัติการต่างๆโดยใช้งบประมาณของบริษัทฯ และส่งมอบโครงการให้ชุมชนดำเนินการด้วยตนเองในระยะเวลาต่อไป
งบประมาณ เป็นเงินทั้งสิ้น 385,000 บาท
จัดสรรงบประมาณให้แก่บริษัทประชารัฐสามัคคีสกลนครฯ เพื่อดำเนินการ ดังนี้
1. สำรวจ จัดทำข้อมูล GPS และ QR Code บรรจุสาระสำคัญของเป้าหมาย 20 แห่ง 100,000 บาท (เป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว)
2.จัดทำแบบฟอร์มลงทะเบียนรับสมัคร และการรับโอนเงินผ่านระบบ electronic 40,000 บาท
3.ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ electronic 40,000 บาท
4.ทดสอบความพร้อมของโครงการ 50,000 บาท
5.อำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวโควต้าโปรโมชั่น 3 รุ่นแรก 45,000 บาท
6.ค่าฝึกอบรม ฝึกงาน และเตรียมความพร้อมของชุมชนและบุคคลากรของบริษัทประชารัฐฯ 50,000 บาท
7.ค่าบริหารโครงการ 3 รุ่นแรก 60,000 บาท
หมายเหตุ รายจ่ายต่างๆสามารถถัวจ่ายกันได้ตามความจำเป็น
จุดเด่นของโครงการ
1.เป็นการท้าทายคนรุ่นใหม่ที่ชอบการผจญภัยโดยมีอุปกรณ์ไฮเทคเป็นเครื่องมือในการนำทางและค้นหาข้อมูลผ่านระบบ Digital
2.เป็นการผจญภัยที่มี story behind เชิงตำนาน ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ดาราศาสตร์ และศาสตร์แห่งความเชื่อ
3.ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและเก็บภาพถ่ายที่ประทับใจในแง่มุมต่างๆ
สิ่งที่คาดว่าจะได้รับ
สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนมีขีดความสามารถจัดการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยและขยายผลเป็นรูปแบบอื่นๆตามความเหมาะสม เป็นตัวอย่างการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ใช้ทรัพยากรและเรื่องราวในท้องถิ่นเป็นจุดขาย
การบริหารความเสี่ยงของโครงการ การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกและป้องกันภัยไม่ให้เกิดเหตุร้ายต่อนักท่องเที่ยว
2.Feng Shui Tourism

.jpg)






.jpg)







ชื่อโครงการ เพิ่มพลังชีวิตด้วยฮวงจุ้ยที่สกลนคร (Empowerment of life with the Feng Shui at Sakon City)
ผู้รับผิดชอบโครงการ บริษัทประชารัฐสามัคคีสกลนครฯ
หน่วยงานสนับสนุน สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร
ความเป็นมา จังหวัดสกลนครเป็นเมืองที่เจริญเติบโตขึ้นมาจากโครงสร้างพื้นฐานของ "ผังเมืองโบราณในยุคขอมเรืองอำนาจ" บรรพชนในยุคนั้นได้วางตำแหน่งของตัวเมืองตรงตามหลักความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ที่กำหนดให้หันหน้าไปทิศตะวันออกตรงกับแหล่งน้ำขนาดใหญ่และด้านทิศตะวันตกมีภูเขาเป็นแนวฉากหลัง มีการก่อสร้างปราสาท 1 หลังบนที่ดอน และอีก 1 หลังบนภูเขา ในแนวเส้นตรงเดียวกันกับเกาะกลางทะเลสาปขนาดใหญ่ (ชื่อปัจจุบันคือหนองหาร) เมื่อเกิดปรากฏการณ์สำคัญทางดาราศาสตร์ที่เรียกว่า "วิษุวัต" (equinoxes) สอดคล้องกับวันสำคัญในปฏิทินมหาศักราชที่อาณาจักรขอมรับมาจากอินเดียคือวันที่ 1 แห่งเดือนใจตระ (1st of Chaitra Month) และวันที่ 1 แห่งเดือนอัศวิน่า (1st of Ashvina Month) ดวงอาทิตย์จะขึ้นและตกเป็นแนวเส้นตรงกับสถานที่ทั้งสามแห่ง จากหลักฐานที่ปราสาทนารายณ์เจงเวงและปราสาทภูเพ็กที่มีรูปแปลนตรงกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ในปรากฏการณ์ "วิษุวัต" เชื่อได้ว่าจะต้องมีการประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์
พ.ศ.2540 เกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจฟองสบู่แตกหอการค้าจังหวัดสกลนครได้เชิญซินแสชื่อดังคืออาจารย์วิศิษฐ์ เตชะเกษม มาตรวจสอบฮวงจุ้ยของเมืองสกลนครเพื่อเป็นศิริมงคลต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเมือง ท่านซินแสพบว่าฮวงจุ้ยของเมืองนี้คือแนวเส้นตรงจากปราสาทภูเพ็กบนยอดภูเขาผ่านไปยังปราสาทนารยณ์เจงเวงบนที่ดอนนอกตัวเมืองและตรงไปยังอีกแห่งในหนองหาร (ปัจจุบันพบว่าคือเกาะดอนสวรรค์)
พ.ศ.2557 ครูพิเศษสอนวิชาดาราศาสตร์ English Program ที่โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา ชื่อนายสรรค์สนธิ บุณโยทยาน ได้แสดงภาพถ่ายปรากฏการณ์ "วิษุวัต" ประกอบหลักฐาน Google Earth and GPS ยืนยันว่าปราสาทภูเพ็ก ปราสาทนารายณ์เจงเวง และเกาะดอนสวรรค์ อยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน ตรงกับความเชื่อของบรรพชนโบราณในยุคขอมเรืองอำนาจและสอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ยของซินแสชื่อดัง
วัตถุประสงค์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยและศาสตร์แห่งความเชื่อแต่ครั้งโบราณยุคขอมเรืองอำนาจ ที่ยืนยันด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
สถานที่โครงการ ปราสาทภูเพ็ก ปราสาทนารายณ์เจงเวง เกาะดอนสวรรค์ในหนองหาร และสุริยะปฏิทินจำลองที่สระพังทอง (บารายศักดิ์สิทธิ์) ริมหนองหาร
ระยะเวลา ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
วิธีการดำเนินงาน มอบหมายให้บริษัทประชารัฐเป็นผู้ดำเนินการ
1.จัดการบรรยายพิเศษในหัวข้อ "พลังแห่งฮวงจุ้ย" โดยเชิญซินแสอาจารย์วิศิษฐ์ เตชะเกษม มาเป็นวิทยากรและลงพื้นที่สถานที่จริงทั้งสามแห่ง ผู้เข้าฟัง 100 คน ในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2561
2.โปรโมทเรื่องราวผ่านสื่อต่างๆและถ่ายทำสารคดีสั้นๆลง Youtube
3.ติดตั้ง QR Code แสดงเรื่องราวสาระสำคัญในสถานที่ที่เกี่ยวข้อง
4.อบรมให้ความรู้ชุมชนและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ชุมชนปราสาทนารายณ์เจงเวง ชุมชนปราสาทภูเพ็ก ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวหนองหาร ฯลฯ
งบประมาณ เป็นเงินทั้งสิ้น 200,000 บาท
1.ค่าใช้จ่าย (ค่าพาหนะ ค่าที่พัก และค่าตอบแทน) ในการเชิญซินแสมาเป็นวิทยากรและลงพื้นที่จริง 50,000 บาท
2.ค่าจัดการบรรยาย 1 วัน คนเข้าร่วม 100 คน 30,000 บาท
3.ค่าจัดทำ QR Code และเรื่องราวของสถานที่เกี่ยวข้อง 10,000 บาท
4.ค่าจัดทำสารคดีสั้นในรูปแบบ YouTube แสดงเรื่องราวของพลังแห่งฮวงจุ้ยเมืองสกลนคร 30,000 บาท
5.อบรมแกนนำชุมชน ธุรกิจนำเที่ยว เรือนำเที่ยวหนองหาร ฯลฯ เป็นเงิน 50,000 บาท
5.ค่าบริหารโครงการ 30,000 บาท
จุดเด่นของโครงการ
เป็นเรื่องราวแห่งความเชื่อจากยุคขอมเรืองอำนาจที่สอดคล้องกับศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยในปัจจุบัน และมีหลักฐานทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์รองรับ ตอบโจทย์ได้ทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่
สิ่งที่คาดว่าจะได้รับ
เมืองสกลนครจะอยู่ในทำเนียบฮวงจุ้ยและมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมได้ตลอดปี เป็นผลดีต่อการจับจ่ายใช้สอยและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น พาหนะ อาหาร ที่พัก ที่ระลึก และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
การบริหารความเสี่ยงของโครงการ การดูแลรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ
3.Christmas and The Roman Night
ชื่อโครงการ ค่ำคืนแห่งอาณาจักรโรมัน เทศกาลคริสต์มาส
ผู้รับผิดชอบโครงการ บริษัทประชารัฐสามัคคีสกลนครฯ
หน่วยงานสนับสนุน สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร
ความเป็นมา บ้านท่าแร่ ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เป็นชุมชนชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีประวัติการตั้งชุมชนนานกว่าร้อยปีโดยบาทหลวงชาวฝรั่งเศส มีโบราณสถานสไตล์ยุโรปที่เก่าแก่ ทุกๆปีชาวบ้านท่าแร่และมิสซังท่าแร่มีการจัด "แห่ดาวคริสต์มาส" ในช่วงเทศกาลระหว่างวันที่ 23 - 25 ธันวาคม และเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีการจัดกิจกรรมแห่ดาวขบวนใหญ่
เพื่อเป็นการสนองต่อบรรยากาศปีท่องเที่ยวแห่งชาติ 2561 (Amazing Thailand Tourism Year 2018) จึงสมควรเสริมบรรยากาศเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาสด้วยกิจกรรม "ค่ำคืนแห่งอาณาจักรโรมัน" (The Roman Night) เป็นการย้อนบรรยากาศกรุงเยรูซาเลมเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว
วัตถุประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเทศกาลคริสต์มาสให้มีสีสันและตื่นตาตื่นใจในความแปลกใหม่แก่นักท่องเที่ยว สมกับเป็นปีแห่ง Amazing Thailand Tourism Year 2018
2.เป็นตัวอย่างให้ชุมชนและส่วนราชการท้องถิ่นมีแนวคิดเชิงสร้างสรรในการจัดงานเทศกาล
สถานที่โครงการ อาณาเขตของมิสซังท่าแร่ ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
ระยะเวลา วันที่ 22 23 และ 24 ธันวาคม 2560
วิธีดำเนินงาน
1.ประสานกับคุณพ่อเจ้าวัดคาทอลิกมิสซังท่าแร่ และผู้นำชุมชนเพื่อให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรม
2.จัดกิจกรรมค่ำคืนแห่งอาณาจักรโรมัน (The Roman Night) ประกอบด้วย
2.1 การแสดงทุกคืนในรูปแบบ western style ที่เข้ากับบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาส เช่น ดนตรีเพลงสากล การแสดงแฟชั่นโชว์ชุดโรมัน (มีผ้าย้อมครามเป็นส่วนหนึ่งของชุด) การร้องเพลงประสานเสียงของเยาวชน การแสดงดนตรีสดแบบ acoustic ตามโต๊ะอาหารและมุมถนน การประกวดชุดโรมันที่โดนใจกรรมการแมวมอง การแสดงละครสั้นเรื่องราวของคืนวันคริสต์มาส ฯลฯ
2.2 จัดอาหารแบบ Roman Style เช่น ไก่งวงอบ ปลานักบุญเปรโต (St.Peter's Fish) เนื้อสะเต็กโคขุน ฯลฯ รวมทั้งเครื่องดื่มที่สอดคล้องกับบรรยากาศ โดยเชิญชวนให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
2.3 ส่งเสริมการแต่งกายด้วย Roman Costume ในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งมีเครื่องแต่งกายให้นักท่องเที่ยวได้เช่าถ่ายภาพและร่วมกิจกรรม
2.4 จัดทำ Star of Bethlehem ด้วยบอลลูนสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า จำลองปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่ The Three Magi ได้มองเห็นและเดินทางมาที่กรุงเยรูซาเลม
3.ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ โดยมีพรีเซนต์เตอร์แต่งชุดโรมัน และถ่ายทำ presentation ด้วยฉากบ้านโบราณ รวมทั้งการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในสถานที่จริง
งบประมาณ เป็นเงินทั้งสิ้น 300,000 บาท
1.ค่าถ่ายทำ presentation เพื่อประชาสัมพันธ์ 30,000 บาท
2.ค่าการจัดงานแถลงข่าวในสถานที่จริง 40,000 บาท โดยเชิญนักข่าว สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม
3.ค่าจัดกิจกรรมค่ำคืนแห่งอาณาจักรโรมัน เป็นค่าตอบแทนการแสดง ค่ารางวัลการประกวด ค่าจัดและตกแต่งสถานที่ ค่าเครื่องแต่งกายชุดโรมัน ค่าเครื่องเสียงและไฟส่องสว่าง ค่าอาหารคณะทำงาน ค่าทำความสะอาดสถานที่ ฯลฯ รวม 3 คืน 200,000 บาท
4.ค่าบริหารโครงการ 30,000 บาท
จุดเด่นของโครงการ
เป็นการฉีกแนวกิจกรรมเทศกาลคริสต์มาสที่ Based on True Story เพื่อสร้างบรรยากาศใหม่ๆให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจ และอยากจะกลับมาเยือนอีกหลายครั้ง
สิ่งที่คาดว่าจะได้รับ
เป็นการเปิดมิติแนวคิดแก่ชุมชนและหน่วยงานท้องถิ่นในการจัดกิจกรรมปีต่อๆไปโดยสร้างเรื่องราว (Theme) ใหม่ๆในแต่ละปี เช่น ปี 2562 อาจจะเป็นรูปแบบจำลองชุมชนชาวยิวที่ตำบล Bethlehem
การบริหารความเสี่ยงของโครงการ
การดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแก่ผู้มาร่วมงาน การสำรองพลังงานไฟฟ้าหากเกิดไฟดับ การจัดการในกรณีพายุฝนฟ้าคะนองผิดฤดู