ปฏิบัติการเวกัส 2558 "อีราโต้สทีเนส" ภาค 2 วัดโลกทั้งใบด้วยไม้แท่งเดียว
Operation Vegas 2015 "Eratosthenes" Episode II Measure Earth With One Stick
สองพันกว่าปีที่แล้วนักดาราศาสตร์ชาวกรีก "อีราโต้สทีเนส" ใช้เงาดวงอาทิตย์ของเสาหินโอเบลิส (obelisk) ที่เมืองอเล็กซานเดรีย อียิปส์ ตรงกับปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ "ครีษมายัน" (Summer Solstice) วัดเส้นรอบวงของโลกได้อย่างน่าทึ่ง สองพันกว่าปีต่อมานักพิภพวิทยาชาวไทย "สรรค์สนธิ บุณโยทยาน" ใช้ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์เดียวกันวัดเส้นรอบวงโลกจากเงาดวงอาทิตย์ที่โรงแรม Luxor Hotel and Casino เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งจำลองรูปแบบอาคารเหมือน "มหาปีรามิด" ทุกประการ โดยใช้สมการคณิตศาสตร์โบราณอายุกว่าสองพันปีของท่าน "อีราโต้สทีเนส"

เมื่อสองร้อยปีก่อนคริตกาลนักดาราศาสตร์ชาวกรีก "อีราโต้สทีเนส" ใช้เงาดวงอาทิตย์ของเสาหินโอเบริส ที่เมือง Alexandria และมุมดวงอาทิตย์ที่เมือง Syene ในปรากฏการณ์ "ครีษมายัน" (summer solstice) คำนวณเส้นรอบวงของโลกโดยมีค่า error เพียง 15%

ท่านอีราโต้สทีเนส เป็นผู้คิดสมการคำนวณเส้นรอบวงโลกโดยใช้มุมดวงอาทิตย์
.jpg)
ช่วงวันที่ 24 - 28 มิถุนายน 2558 ผมไปที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาด้า สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นเพื่อนลูกสาวเข้าร่วมประชุมประจำปีสมาคมนักธุรกิจอพาร์ทเม้นส์แห่งสหรัฐอเมริกา (US National Apartment Association) โดยเข้าพักที่โรงแรม Luxor Hotel and Casino ซึ่งออกแบบเหมือน "มหาปีรามิด" โดยมีองค์ประกอบสฟิ๊งส์ เสาหินโอเบริส รูปสลักฟาโรห์ และรูปสลักในเรื่องราวอียิปส์ อย่างครบครัน ค่าใช้จ่ายในการนี้ตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก อาหาร และแม้กระทั่งค่าเล่นคาสิโน 10 ดอลล่าห์ มาจากกระเป๋าของซีอีโอ Regency Point Apartment แห่งเมือง Tulsa Oklahoma เรียกว่างานนี้มากับแม่เลี้ยงใหญ่ทุกอย่างจัดเต็ม
แต่จุดไฮไลท์ในบทบาทของนักพิภพวิทยาอย่างผมก็คือ เขาจัดให้พักห้องสูทชั้น 14 ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอาคารปีรามิด ทำให้มองเห็นดวงอาทิตย์ สฟิ๊งส์ และแท่งเสาหินโอเบริส อย่างชัดเจน ประจวบกับช่วงนี้เป็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ "ครีษมายัน" (Summer Solstice) ดวงอาทิตย์ขึ้นที่ตำแหน่งเหนือสุดทำให้กลางวันยาวที่สุดในรอบปี "ลาสเวกัส" ตั้งอยู่ที่เส้นรุ้ง 36 องศาเหนือ เส้นแวง 115 องศาตะวันตก ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:25 และตกเวลา 20:30 แน่ละครับงานนี้ไม่พลาดโอกาสอันดีงาม ผมเตรียมนาฬิกาแดดชนิด Horizontal เลียนแบบแท่งหินโอเบลิสขนาดจิ๋วสูง 5 ซม. เพื่อใช้ในปฏิบัติการ "วัดเส้นรอบวงโลก" ตามสูตรของท่าน "อีราโต้สทีเนส" นักดาราศาสตร์ชาวกรีกเมื่อสองร้อยปีก่อนคริตกาล
โรงแรมนี้จำลองแบบ "มหาปีรามิด" ของอียิปส์ ทุกประการ ตั้งแต่รูปทรงและการวางทิศทางให้หันหน้าเข้าหาตำแหน่ง "ทิศตะวันออกแท้" ที่มุมกวาด 90 องศา (Az 90 degree: equinox) จึงสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ในการคำนวณทางดาราศาสตร์ได้เป็นอย่างดี
ภาพถ่ายและข้อมูลจาก Google Earth ยืนยันการวางทิศของโรงแรมที่เป็นรูปทรงมหาปีรามิด ว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ดาราศาสตร์ 100%

จากหน้าต่างห้องพักหมายเลข 14160 ชั้น 14 ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ทำให้มองเห็นสฟิ๊งส์ เสาหินโอเบลิส และทิวทัศน์ของภูเขาในทะเลทรายอย่างชัดเจน

แสดงตำแหน่งห้องพักชั้น 14 หมายเลข 14160 อยู่ที่มุมด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของมหาปีรามิด

จากหน้าต่างของห้องพักผมมองเห็นดวงอาทิตย์ในปรากฏการณ์ "ครีษมายัน" (summer solstice) อย่างชัดเจน
ปฏิบัติการเวกัส 2558
1. จัดเตรียมอุปกรณ์ ผมเตรียมการล่วงหน้าโดยออกแบบนาฬิกาแดดชนิด Horizontal เป็นรูปจำลองยอดเสาหินโอเบลิส เพื่อใช้คำนวณมุมดวงอาทิตย์ในเวลา "เที่ยงสุริยะ" (solar noon) ของปรากฏการณ์ครีษมายัน โดยในหน้าปัดนาฬิกาแดดมีเส้น curve แสดงการเคลื่อนตัวของเงาดวงอาทิตย์ตลอดทั้งวันเพื่อยืนยันความถูกต้องของการออกแบบ


เปรียบเทียบระหว่างนาฬิกาแดดกับเสาหินโอเบลิสที่หน้าโรงแรม

เข็มนาฬิกาแดดเลียนแบบปลายยอดของเสาหินโอเบลิส

หน้าปัดนาฬิกาแดด (dial) มีเส้นแสดงการเคลื่อนตัวของเงาดวงอาทิตย์ในปรากฏการณ์ดาราศาสตร์สำคัญ ได้แก่ เหมายัน (winter solstice) วิษุวัต (equinox) และครีษมายัน (summer solstice)
2. ถ่ายภาพเงาดวงอาทิตย์ในปรากฏการณ์ "ครีษมายัน" ตั้งแต่เช้าจนบ่ายแก่ๆเพื่อยืนยันความถูกต้องในการทำงานของนาฬิกาแดด โดยใช้ curve แสดงตำแหน่งการเคลื่อนตัวของเงาดวงอาทิตย์ เป็นตัวชี้วัดในปรากฏการณ์ summer solstice
.jpg)


เวลาเที่ยงสุริยะ (solar noon) แทบมองไม่เห็นเงาเพราะตำแหน่งดวงอาทิตย์อยู่ตรงกลางเข็มนาฬิกาแดดพอดี แต่สามารถสังเกตเงาที่ฐานนาฬิกาแดด



เส้น curve สีเหลือง แสดงเงาดวงอาทิตย์ของนาฬิกาแดดตั้งแต่เช้าถึงเย็นในปรากฏการณ์ summer solstice
3. คำนวณมุมก้มของดวงอาทิตย์ (angle of incidence) ในตำแหน่ง "เที่ยงสุริยะ" (solar noon) ณตำแหน่งที่ตั้งโรงแรม Luxor เมือง Las Vegas Nevada USA โดยใช้สูตร Tangent



4.ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ดาราศาสตร์ และ Google Earth จำลองสถานะการณ์ของมุมและเงาของดวงอาทิตย์ ณ เมือง Ejido el Peligro ประเทศ Mexico ซึ่งตั้งอยู่ในแนวทิศใต้ ณ เส้นแวง 115 W อันเดียวกับเมือง Las Vegas เนื่องจากผมไม่สามารถไปที่นั่นด้วยตนเองในวันเดียวกัน ก็เลยต้องพึ่งพาไฮเทคโนโลยีสักหน่อย งานนี้ถ้าท่านอีราโต้สทีเนสฟื้นขึ้นมาเห็นท่านคงจะพูดแบบประชดว่า "เล่นเอาเปรียบนี่หว่า" ใช้ความยาวของเงาดวงอาทิตย์ ณ เที่ยงสุริยะคำนวณหาค่า "มุมก้ม" (angle of incidence) ของเมือง Las Vegas และเมือง Ejido el Peligro เข้าสูตรของท่านอีราโต้สทีเนส ได้ค่าเส้นรอบวงโลกเท่ากับ 37,894 กม. เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเส้นรอบวงที่แท้จริงจากข้อมูลขององค์การนาซ่า 40,008 กม. ปฏิบัติการครั้งนี้มีค่าความคลาดเคลื่อน (error) เพียง 5.28%

เมือง Ejido el Peligro ประเทศ Mexico ตั้งอยู่ตอนใต้ในแนวเส้นแวงที่ 115 W เดียวกันกับเมือง Las vegas จึงถูกเลือกให้เป็นคู่แฝดในปฏิบัติการครั้งนี้

แผนที่ Googlr Earth แสดงให้เห็นว่าทั้งสองเมืองอยู่ในเส้นแวงเดียวกัน

มีระยะทางห่างกัน 400 กิโลเมตร

ตามสูตรของท่าน "อีราโต้สทีเนส" ต้องใช้มุมดวงอาทิตย์ ณ เที่ยงสุริยะ (solar noon) ของทั้งสองเมืองในวันเดียวกัน

นำค่าของมุมก้ม (angle of incidence) จากทั้งสองเมือง และระยะทางระหว่างกัน มาเข้าสมการจะได้ค่า "เส้นรอบวงโลก"
จุดขายของ Las Vegas สวรรค์หรือนรก........ของนักเสี่ยงโชค
ไหนๆผมก็พาท่านมาถึงเมืองลาสเวกัสแล้วก็ขอพาท่านชม "แม่เหล็ก" ของเมืองนี้ที่เน้นจุดขายในเรื่อง "กิน เที่ยว และการพนัน" จนมีคำกล่าวว่า "อะไรที่เป็นเรื่องไม่เข้าท่าก็ให้ทิ้งไว้ที่เวกัส ไม่ต้องเอากลับไปบ้าน" ในสายตาของผมเมืองนี้เป็นสวรรค์ของนักพนันและคนติดเหล้าติดยา เนื่องจากทุกที่ทุกแห่งสูบบุหรี่ กินเหล้าได้ตามใจชอบ ดังนั้นทั้งเมืองจึงอบอวลไปด้วยควันบุหรี่ อย่างไรก็ตามกฏหมายก็ยังเป็นกฏหมายเขาห้ามเยาวชนต่ำกว่า 21 เข้าไปยุ่งกับอบายมุขอย่างเด็ดขาด เรียกง่ายๆว่า "ดูแต่ตามืออย่าต้อง"

อุปกรณ์การพนันนานาชนิดเปิดให้เล่นแบบ 24 ชั่วโมง แต่มีกฏหมายห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 21 ปี อย่างเด็ดขาด อย่างผมปาเข้าไป 65 เขาดูแค่หน้าก็สอบผ่านแล้ว

ย่าน downtown เปิดเป็นถนนคนเดิน มีอบายมุขให้เลือกครบวงจร

ถนนสายหลักชื่อ Vegas Strip ก็เป็นที่ตั้งของโรงแรมและบ่อนขนาดใหญ่ๆ ที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ Caesar Palace Hotel and Casino

โรงแรมระดับ 5 ดาว ต่างแข่งขันกันประดับประดาชนิดจัดเต็มๆโดยไม่ต้องถามเรื่อง "จ่ายค่าไฟฟ้าเท่าไหร่"

.jpg)
.jpg)
โรงแรมชื่อดัง Caesar Palace ชื่อนี้แฟนๆหมัดมวยรู้จักอย่างดีเพราะเป็นสถานที่จัดมวยประเภท "คู่หยุดโลก" แต่บางรายการก็ "ค่อนข้างปาหี่" เหมือนคู่แมนนี่ ปาเกียว กับเมเวทเทอร์ ฟลอย เมื่อเดือนเมษายน 2558

Caesar Palace Hotel and Casino มีร้านอาหารชื่อดังของเชฟมีพระกาฬอย่าง Gordon Ramsay แต่ราคาค่าอาหารไม่แพงอย่างที่คิดตกราวๆจานละ 12 - 15 เหรียญ คิดว่าเขาคงจะหากำไรจากบ่อนการพนันมากกว่าร้านอาหาร
.jpg)
.jpg)
ทันที่ที่เดินลงจากเตรื่องบินท่านจะพบกับป้ายต้อนรับและ Casino ขนาดย่อมให้เล่นตั้งแต่ประตูแรกจนประตูสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง
.jpg)
ป้ายต้อนรับทีย่าน Downtown

ร้านอาหารไทยก็อยู่ในย่าน Downtown


โรงรับจำนำ Pawn Shop ชื่อดังก็ตั้งอยู่ที่นี่ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวมากกว่าการจำนำจริงๆ
ถ้าไม่มีเขื่อนขนาดยักษ์ที่ชื่อว่า Hoover Dam เมืองลาสเวกัสก็คงเป็นได้แค่ "กระต้อบเล็กๆกลางทะเลทราย" เพราะทั้งพลังงานไฟฟ้าและน้ำประปาก็มาจากเขื่อนแห่งนี้ Hoover Dam สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1931 - 1935 กั้นแม่น้ำโคโลราโดระหว่างพรมแดนรัฐ Arizona กับรัฐ Nevada โดยตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีคนที่ 31 ท่าน Herbert Clark Hoover และอีกยี่สิบกว่าปีต่อมาก็เป็นต้นแบบให้เขื่อนพลังงานไฟฟ้าแห่งแรกของประเทศไทยคือ "เขื่อนยันฮี" กั้นแม่น้ำปิงที่จังหวัดตากและต่อมาได้รับพระราชทานชื่อว่า "เขื่อนภูมิพล"
.jpg)

.jpg)
.jpg)
.jpg)

ผมเคยมา Las Vegas เมื่อเดือนตุลาคม 2526 และกลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่งในเดือนมิถุนายน 2558 ห่างกัน 32 ปี ก็เลยไปยืนถ่ายรูปที่เดิม 4 Queen Hotel and Casino ในย่าน downtown ตอนนั้นบริเวณนี้เป็นถนนมีรถยนต์วิ่งผ่าน แต่ตอนนี้กลายเป็นถนนคนเดิน ผมไม่เคยคิดว่าอีกสามสิบปีต่อมาลูกสาวทั้งสองคนจะมาตั้งหลักปักฐานอยู่ที่อเมริกา มีหลานลูกซอดไทยอเมริกัน 4 คน ผมกับภรรยาก็เลยต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างสกลนครกับรัฐเทกซัสและรัฐโอคลาโฮม่าสหรัฐอเมริกา แต่พูดตรงๆอยู่เมืองไทยสบายกว่ากันเยอะเลยเพราะบ้านเรามีเสรีภาพในการใช้ชีวิตมากกว่าอเมริกา คนไทยจำนวนมากคิดว่าอเมริกามีเสรีภาพทำอะไรก็ได้ ไม่จริงเลยครับที่นี่กฏหมายและกฏระเบียบหยุมหยิบไปหมด พูดอะไรก็ต้องระวังปากเดี๋ยวจะโดนข้อหาหมิ่นประมาท ทำอะไรก็ต้องระวังกลัวโดนฟ้องเพราะคนอเมริกันฟ้องกันได้ทุกกรณีตั้งแต่กาแฟหกจนตกบันได จะกินเหล้ากินยาก็ไม่ง่ายเพราะร้านค้ามีเวลาจำกัดไม่ได้ปล่อยให้นั่งสั่งเบียร์มากินจนซอดแจ้งเหมือนประเทศไทย .......... ผมว่าเมืองไทยนะดีที่สุดแล้วไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพลเรือนหรือรัฐบาลทหารก็ยังสามารถเที่ยวได้ กินได้ ทำอะไรตามใจคือไทยแท้
