ประสบการณ์ตรงเรื่อง "ยูเอฟโอ" ผมคิดแบบวิทยาศาสตร์
หลายท่านคงได้สัมผัสกับเรื่องราวของสิ่งบินลึกลับที่เรียกว่า "ยูเอฟโอ" มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษ Unidentified Flying Object :UFO ขณะเดียวกันหลายท่านก็คิดว่ามันเป็นจิตนาการหรือภาพลวงตา แต่ในทางวิทยาศาสตร์มันเป็นไปได้เพราะเหตุผลหลักๆ 3 ประการ
1. สิ่งมีชีวิตมีเพียงที่โลกของเราเท่านั้นหรือ ขณะที่จักรวาล "แกแลกซี่ทางช้างเผือก" ของเราอย่างเดียวก็มีระบบสุริยะจำนวนล้านล้านล้านจนนับไม่ถ้วน ในทางคณิตศาสตร์มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิตเพียงโลกของเราเท่านั้น
2.มนุษย์สามารถก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจากคนยุคหินเดินหาอยู่หากินไปวันๆ กลายเป็นนักบินอวกาศภายในเวลาเพียงห้าหมื่นปีเท่านั้น แล้วโลกอื่นๆที่เขาพัฒนาก่อนเราเป็นหลายล้านปีละ คงไฮเทคขั้นเทพจนเราคิดไม่ถึงเชียวละ
3.เราเองก็อยากที่จะไปสำรวจดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ และตอนนี้ยานอวกาศขององค์การนาซ่าก็กำลังเดินต้วมเตี้ยมอยู่ที่ผิวดาวอังคาร ลำล่าสุดมีชื่อว่า Perseverance (แปลว่าสู้สุดฤทธิ์) ....... ด้วยเทคโนโลยีและจิตนาการที่สะสมในสมองมนุษย์มานานห้าหมื่นปีนับจากยุคของมนุษย์โคมันส์ยอง เราสามารถส่งยานอวกาศไร้มนุษย์ในรูปแบบ "หุ่นยนต์" ไปถึงดาวอังคารได้ ในทำนองเดียวกันดาวเคราะห์ดวงอื่นๆที่มีวิวัฒนาการก่อนเรานับล้านๆปี พวกเขาเหล่านั้นมิท่องอวกาศได้อย่างสบายเลยหรือ
เชื่อว่าแฟนๆโซเชี่ยลมีเดียหลายท่านคงคุ้นเคยกับเรื่องราวและภาพ "ยูเอฟโอ" แต่ท่านเหล่านั้นอาจจะยังไม่มีประสบการณ์ตรงๆแบบผม และนี่คือเหตุผลที่ทำให้กล้าเขียนเรื่องนี้ด้วยข้อมูลที่มีอยู่ในมือแบบตัวจริงเสียงจริง
ยูเอฟโอ ..... ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นในสายตาของผู้นำระดับโลกอย่างท่านโรนั่ล รีแกน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
วันที่ 21 กันยายน ค.ศ.1987 ท่านประธานาธิบดีโรนั่ล รีแกน นำเรื่องการคุกคามจากต่างดาวไปปราศัยในที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติ ท่านพูดตรงๆโดยไม่อ้อมค้อมว่า "ความขัดแย้งในโลกของเราจะยุติทันที ถ้าโลกถูกคุกคามจากต่างดาว" เชื่อว่าท่านฑูตไทยประจำยูเอ็นก็ต้องนั่งฟังอยู่ แต่พี่ไทยอย่างเราๆท่านๆจำนวนมากยังไม่ทราบข้อมูลนี้เลย

ท่ามกลางความขัดแย้งทั้งหลายท่านคงลืมไปว่าเราล้วนเป็นมนุษยชาติที่ต้องอยู่ร่วมกัน ไม่แน่นะถ้าวันหนึ่งเราพบว่าการคุกคามจากนอกโลกเป็นเรื่องจริงขึ้นมาก็วันนั้นแหละเราๆท่านๆคงจะหันมาปรองดองกัน ข้าพเจ้าเชื่อว่าความขัดแย้งในโลกจะยุติทันทีถ้าเราทั้งหลายต้องเผชิญภัยจากต่างดาว ...... ผมแปลคำปราศัยชองท่านโรนั่ล รีแกน ในสำนวนไทยที่ทำให้มองเห็นเจตนาอันแท้จริงของผู้นำระดับโลก
.jpg)
ท่านประธานาธิบดีโรนั่ล รีแกน พบกับท่านเลขาธิการมิกกาฮิล กาบาช้อฟ ของสหภาพโซเวียต แบบสองต่อสองในการเจรจายุติความขัดแย้งระหว่างโลกตะวันตกกับสหภาพโซเวียต และตอนหนึ่งของการพูดคุยท่านรีแกนได้ยกเรื่องการคุกคามจากต่างดาวขึ้นมาหารือ
ผลการพูดคุยแบบสองต่อสองระหว่างผู้นำมหาอำนาจทำให้เกิดข้อตกลงในความร่วมมือที่จะปกป้องโลกหากมีภัยคุกคามจากต่างดาว แม้ว่าในครั้งนั้นท่านผู้นำสหภาพโซเวียตจะออกท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้
.jpg)
ผลการเจรจาแบบสองต่อสองระหว่างมหาบิ๊กระดับโลกนำไปสู่การลงนามในความร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งแรกในประวัติศาสตร์แห่งสงครามเย็น
.jpg)
ภาพประวัติศาสตร์แห่งความร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็น
.jpg)
ผลงานที่เป็นรูปธรรมดาบแรกแห่งความร่วมมือระหว่างมหาอำนาจสองขั้วก็คือ "ยกเลิกกำแพงเบอร์ลิน" และให้โลกตะวันตกกับโลกตะวันออกกลายเป็นพันธมิตร ภาพนี้เป็นการปราศัยที่กำแพงเบอร์ลินก่อนที่จะทำพิธี "ทุบกำแพง"

ท่านประธานาธิบดีโรนั่ล รีแกน ประเดิมทุบกำแพงเบอร์ลินเพื่อยุติสงครามเย็นระหว่างสองขั้วอำนาจโลก วันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ.1989 หรือ พ.ศ. 2532

ผลงานรูปธรรมดาบสองคือความร่วมมือในโครงการอวกาศที่เรียกว่า "สถานีอวกาศนานาชาติ" (International Space Station: ISS) ซึ่งยังคงต่อเนื่องถึงปัจจุบันโดยมีนักบินอวกาศทั้งสองค่ายทำงานร่วมกัน

สหภาพโซเวียตยกเลิกโครงการสถานีอวกาศเมียร์และหันมาร่วมลงทุนในโครงการ International Space Station

อเมริกันก็ยกเลิกโครงการ "กระสวยอวกาศ" (Space Suttle) และหันมาใช้บริการยานขนส่งโซยุต (Soyuz) ของสหภาพโซเวียต
.jpg)
ปัจจุบันแม้ว่าสหภาพโซเวียตได้ล่มสลายไปแล้ว ประเทศรัสเซียและประเทศอดีตสหภาพก็ยังคงความร่วมมือกับสถานีอวกาศนานาชาติ จะเห็นว่าฐานปล่อยจรวดอยู่ในประเทศคาซักสถาน โดยนักบินอวกาศชาวอเมริกันและรัสเซียก็ต้องไปขึ้นยานที่ Baikonur ประเทศคาซักสถาน
ภาพการ์ตูนล้อเลียนเรื่องมนุษย์ต่างดาวกับประธานาธิบดีโรนั่ล รีแกน และเลขาธิการมิกกาฮิล กอร์บาช้อฟ

เลขาธิการมิกกาฮิล กอร์บาช้อป กลายเป็นเพื่อนที่ดีของสหรัฐอเมริกา ท่านเดินทางมาร่วมพิธีฝังศพของประานาธิบดีโรนั่ล รีแกน อย่างเป็นทางการ เดือนมิถุนายน พ.ศ.2547

Paul Hellyer อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมประเทศแคนาดา เป็นอีกผู้หนึ่งที่มีข้อมูล UFO และชักชวนให้ประเทศต่างๆหาวิธีรับมือกับภัยคุกคามจากต่างดาวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เคยมีคดีดังระดับโลกที่ทางการสหรัฐอเมริกาฟ้องศาลอังกฤษให้ส่งตัวแกรี่ แมกคินน่อน ในข้อหาเป็นแฮกเกอร์เข้าไปล้วงข้อมูลขององค์การนาซ่าและกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ข่าวระบุมือดีชาวลอนดอนผู้นี้แฮกเข้าไปดูข้อมูลในแฟ้มลับเกี่ยวกับ UFO และนำไปให้สัมภาษ BBC

ชาวอังกฤษประท้วงไม่ให้ทางการส่งตัวแกรี่ แมกเคนน่อน ไปสหรัฐในข้อหาแฮกเข้าไปดูข้อมูล UFO เพราะถือว่าเป็นสิทธิของประชาชนที่ต้องรับรู้ข้อมูลที่ทางการใช้งบประมาณที่มาจากภาษีเก็บรวบรวมเรื่องราวเหล่านี้ในระบบคอมพิวเตอร์

หลังจากที่ยื้อคดีความระหว่างสหรัฐกับอังกฤษหลายปี ก็ประกาศยุติเรื่องเมื่อปี 2555 ในความเห็นส่วนตัวเชื่อว่ามีการตกลงแบบ win win คือให้แกรี่ แมกเคนน่อน หุบปากเงียบ เพื่อแลกกับการเป่าคดี ไม่งั้นเรื่องจะบานปลายไปพัวพันกับพื้นที่ลับสุดยอด "Area 51" ที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยกล่าวหาว่าทางการสหรัฐเก็บซากยานต่างดาวที่ตกในทะเลทราย เมือง Roswell รัฐ New Mexico เมื่อปี 1947 ไว้ที่นี่
.jpg)
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 ท่านประธานาธิบดีปูติน ส่งสารแสดงความยินดีต่อว่าที่ประธานาธิบดีโดนั่ล ทรัมพ์ และหวังว่าจะเกิดความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ
.jpg)
ประชาชนผู้สนับสนุน Trump หวังจะเห็นความร่วมมือระหว่างรัสเซียและอเมริกาในการปกป้องโลก
United nations กับการประชุมเรื่อง UFO
ในสมัยที่ท่านอูถ่าน (U Thant) เป็นเลขาธิการสหประชาชาติ ปี 1961 - 1971 ก็มีการยกเรื่อง UFO ขึ้นมาพูดกันแต่ไม่ได้เอาจริงเอาจังอะไร พอมาถึงยุคของท่าน Kurt Waldheim มีการจัดประชุมอย่างเป็นทางการโดยการเสนอของ Sir Eric Gairy นายกรัฐมนตรีประเทศ Grenada และมีผู้เชี่ยวชาญ UFO ระดับโลกเข้าร่วมเมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม 1978 แต่ผลการประชุมครั้งนั้นไม่เป็นที่เปิดเผย ดูรายชื่อผู้เข้าประชุมแต่ละท่านล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญ UFO ระดับโลกซึ่งแฟนคลับเรื่องนี้คงรู้จักเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามเรื่องราวของ UFO ในที่ประชุม UN เงียบหายไปนานและมาโผล่อีกครั้งในสมัยของท่านประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Ronal Reagan ปี 1987 ไม่ทราบว่าเมื่อถึงสมัยประธานาธิบดี Donald Trump ที่ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเหนือ Hillary Cliton เมื่อคืนวันที่ 8 พฤศจิกายน 2016 จะมีเรื่องราวนี้โผล่ขึ้นมาอีกหรือไม่
.jpg)
.jpg)
แต่ละท่านที่นั่งประชุมล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญ UFO ที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Dr.J Allen Hynek อดีตที่ปรึกษาของกองทัพอากาศสหรัฐ และ Mr.Gordon Cooper นักบินอวกาศอเมริกันในโครงการ Mercury และ Gemini ที่ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า "เขาเห็น UFO" ด้วยตาตนเอง ท่านที่สนใจเข้าไปชมคำสัมภาษของเขาได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=dvPR8T1o3Dc หรือชมรายละเอียดต่างๆโดยใช้ Keyword ว่า Gordon Cooper UFO
ยูเอฟโอเหนือกรุงโรม
เดือนตุลาคม 2549 มีโอกาศไปที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ก็เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆตามประสาคนมีกล้องดิจิต้อล และเมื่อกลับมาถึงบ้านได้นำภาพเหล่านั้นโหลดลงคอมพิวเตอร์ปรากฏว่ามีภาพ 2 เฟรม ถ่ายที่บริเวณ Spanish Step หนึ่งในเฟรมปรากฏภาพวัตถุ 2 สิ่ง บนท้องฟ้าเหนือยอดตึก อีกเฟรมภาพวัตถุดังกล่าวหายไปแล้ว เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วภาพดังกล่าวไม่ใช่นกและเครื่องบินเพราะซูมดูแล้วไม่เหมือน (มีภาพเปรียบเทียบของนกและเครื่องบินที่ถ่ายด้วยกล้องตัวเดียวกัน)
ไปถึงกรุงโรมเช้าวันที่ 17 ตุลาคม 2549
สองภาพข้างล่างนี้ดูเผินๆก็เหมือนไม่มีอะไรในกอไผ่ เป็นภาพที่ถ่ายอย่างต่อเนื่อง 2 เฟรม ห่างกันเพียงชั่ววินาที

เฟรมแรก

เฟรมที่สอง
แต่พอซูมดูใน "เฟรมแรก" จะเห็นวัตถุ 2 สิ่ง อยู่บนท้องฟ้า ส่วน "เฟรมที่สอง" วัตถุดังกล่าวหายไปแล้วแสดงว่าต้องมีความเร็วมาก ดูภาพชายใส่เสื้อสีขาวกำลังเดินขึ้นบันได
.jpg)


ซูมดูจะเห็นวัตถุเป็นรูปร่างลักษณะค่อนข้างกลมๆ
.jpg)

เปรียบเทียบภาพนกที่ถ่ายด้วยกล้องอันเดียวกัน
.jpg)
เปรียบเทียบกับภาพถ่ายเครื่องบินด้วยกล้องตัวเดียวกัน
.jpg)
ปรากฏการณ์ที่เกาะช้าง
เมื่อเดือนเมษายน 2550 ให้ลูกสาวคนเล็กชื่อกรวิกา บุณโยทยาน ชื่อเล่นน้องนุ้ย ตอนนั้นเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยสยาม ไปต้อนรับเพื่อนชาวอเมริกันซึ่งเป็นอดีตนักบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐ เขามาเที่ยวเมืองไทยพร้อมกับภรรยาและลูก ทั้งหมดพากันไปเที่ยวทะเลที่เกาะช้าง จังหวัดตราด และเย็น วันที่ 8 เมษายน 2550 ขณะเดินเล่นอยู่ที่ชายหาดน้องนุ้ยและเพื่อนชาวอเมริกันมองเห็นวัตถุลึกลับบินอยู่บนท้องฟ้าในทะเล โดยสังเกตุเห็นลักษณะการบินที่แปลกๆชนิดฝืนกฏแรงโน้มถ่วง (Newton's law of gravity) เจ้าสิ่งบินนั้นมันสามารถเลี้ยวหรือเปลี่ยนทิศทางได้โดยไม่ต้อง "ตีโค้ง" เรียกว่าวิ่งอยู่ดีๆก็เลี้ยวหักมุมได้เลย น้องนุ้ยรีบโทรมารายงานผมทันทีตอนนั้นกำลังขับรถมาจากนครพนมจะไปบ้านที่สกลนคร ต้องรีบสั่งให้ลูกทำการบันทึกภาพทันทีด้วยกล้องดิจิต้อล ส่วนเพื่อนชาวอเมริกันก็บันทึกภาพด้วยกล้องเช่นเดียวกัน และในฐานะที่เป็นอดีตนักบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐเพื่อนให้ความเห็นว่าเจ้าสิ่งบินนี้ต้องไม่ใช่เครื่องบินรุ่นใหม่ของสหรัฐอย่างแน่นอน เพราะรุ่นล่าสุดที่แสนจะไฮเทคอย่างนกเหยี่ยวปีศาจ "สเต้ล" ก็ยังไม่สามารถฝืนกฏแรงดึงดูดได้ต้องตีโค้งตามสูตร ไม่มีทางเลี้ยวแบบหักมุม
อย่างไรก็ตามพอถ่ายภาพเสร็จฝนตกลงมาทันทีทันใดกล้องสองตัวเปียกฝนอย่างจังทำให้ขัดข้องไม่สามารถโหลดภาพได้ สองวันต่อมารีบขับรถไปหาลูกที่กรุงเทพและนำเมมโมรี่ก้าดของกล้องไปให้ผู้เชี่ยวชาญที่ห้างเดอะมอลบางแคทำการกู้คืนข้อมูล ปรากฏว่าสามารถกู้คืนได้ส่วนหนึ่ง รีบนำข้อมูลที่กู้ได้ไปโหลดลงคอมพิวเตอร์และขยายภาพดู โชคดีครับยังได้ภาพมาจำนวนหนึ่งที่พอวิเคราะห์ได้ว่ามันคือ "ยูเอฟโอ"




.jpeg)



นักท่องเที่ยวกำลังเพลินอยู่กับบรรยากาศยามเย็น และอาหาร อีกส่วนหนึ่งก็เล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน


.jpeg)
Frame 1 or Action 1 นักท่องเที่ยวกำลังสนุกกับบรรยากาศและไม่มีใครสังเกตสิ่งบินลึกลับบนท้องฟ้า

.jpeg)
.jpeg)
ข้อสังเกตการทำมุมของแสงอาทิตย์ก่อให้เกิดภาพสะท้อนแสงมันวาวและเงาที่ด้านหลัง
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)

Frame 2 or Action 2 เจ้าสิ่งบินลึกลับทิ้งตัวลงจนเกือบแตะท้องน้ำทะเล
ภาพขยายทำให้เห็นว่าต้องเป็นโลหะเพราะสะท้อนแสงอาทิตย์มันวาวมีเงาดำด้านหลัง
และมุมตกกระทบก็เอียงเล็กน้อยสอดคล้องกับพิกัดทิศทางของดวงอาทิตย์

ภาพเปรียบเทียบที่ถ่ายจากต่างประเทศ ก็มาลักษณะเดียวกันคือวัตถุดังกล่าวบินอยู่ในทะเล
ขณะที่นักท่องเที่ยวยังคงสนุกอยู่กับการเล่นน้ำ หรือพักผ่อน ไม่มีใครสังเกตเห็นเจ้าสิ่งบินนี้


.jpeg)


Frame 3 or Actionj 3 มันทะยายขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นการถ่ายภาพที่มีแสงจ้าของดวงอาทิตย์
จึงทำให้ภาพจางลงแต่ก็พอมองเห็นว่าเป็นวัตถุรูปร่างทรงกลม
.jpeg)


Frame 4 or Action 4 มันทะยานสูงขึ้นไปอีกอย่างรวดเร็วชนิดที่เครื่องบินสุดไฮเทค
ของกองทัพอากาศสหรัฐอย่าง "สเต็ล" ยังต้องชิดซ้าย

Frame 4 or Action 4 ฉากสุดท้ายก่อนที่จะหายไปกับท้องฟ้า


เมื่อประมวลภาพทั้งสี่เข้าด้วยกันจะเห็นว่าเจ้าสิ่งบินลึกลับนี้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แสดงว่ามันต้องมีอุปกรณ์สลายแรงดึงดูดของโลกซึ่งเรียกว่า Antigravity เรื่องนี้องค์การนาซ่าของสหรัฐก็กำลังพยายามอย่างสุดเหวี่ยงที่จะผลิตยานชนิดสามารถสลายแรงดึงดูดได้
.jpeg)
ภาพ UFO ที่ถ่ายในสถานที่ต่างๆ
.jpeg)

เปรียบเทียบภาพถ่ายระหว่างสิ่งบินลึกลับที่เกาะช้าง ประเทศไทย เมืองรอสเวล สหรัฐอเมริกา และ อำเภอนาแก ประเทศไทย กับเครื่องบินไอพ่น และนก
เผชิญหน้า (เผชิญหลัง) กับ ยูเอฟโอ ที่เมืองรอสเวล รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา
เมื่อเดือนเมษายน ปี 2553 ผมกับภรรยาไปเยี่ยมลูก "น้องนุ้ย" ที่รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา และพากันขับรถไปที่เมืองรอสเวล รัฐนิวเม็กซิโก ใช้เวลาเช้าถึงเย็น ผมรู้จักเรื่องราวของเมืองนี้มานานแล้วเพราะตามประวัติ ยูเอฟโอ ตกที่ทะเลทรายชานเมืองเมื่อปี ค.ศ.1947 หรือ พ.ศ. 2490 ชาวอเมริกันในรัฐแถบนี้คุ้นหูกับคำว่า UFO Crashed in Roswell ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์และศูนย์ค้นคว้า ยูเอฟโอ ผมก็ตั้งใจไปชมที่นี่แหละและได้มาถึงจริงๆวันที่ 12 เมษายน 2553


ภรรยา น้องนุ้ย และผม ถ่ายภาพที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเมืองรอสเวล ที่นี่เขาโปรโมทเรื่อง ยูเอฟโอ อย่างจริงจัง

ป้ายยินดีต้อนรับสู่เมืองรอสเวล รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา
.jpg)
เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ และศูนย์วิจัย ยูเอฟโอ ตั้งอยู่ถนนกลางเมืองรอสเวล


มีหุ่นจำลองแสดงเหตุการณ์ ยูเอฟโอ ตกที่ทะเลทรายนอกเมืองรอสเวล และหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานข่าวว่า กองทัพอากาศยึดซากจานบินได้ที่ทุ่งเลี้ยงปศุสัตว์ เมืองรอสเวล


แสดงภาพถ่าย ยูเอฟโอ จากที่ต่างๆ

ที่น่าสนใจก็ชิ้นนี้แหละครับ มันเป็นเศษโลหะที่ชาวบ้านเก็บได้จากซากยานลึกลับที่ตกในทะเลทราย (เข้าใจว่าชิ้นนี้หลงหูหลงตาเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศที่ถูกสั่งให้เข้ามาเคลียพื้นที่) ทางศูนย์ได้ส่งไปให้สถาบันวิทยาศาสตร์ตรวจสอบในห้องแลปโดยใช้วิธีวิเคราะห์โครงสร้าง "ไอโซโทป" ผลการตรวจยืนยันว่าวัตถุชิ้นนี้ไม่มีโครงสร้างไอโซโทปเหมือนวัสดุสิ่งใดในโลกใบนี้ ยังงี้ก็ต้องมาจากโลกใบอื่นนะซิ
.jpg)
หลังจากชมพิพิธพัณฑ์ก็ไปกินอาหารที่ร้านแมกโดนั่ล ซึ่งทำเลียนแบบยาน ยูเอฟโอ



แมกโดนั่ลที่นี่ราคาถูกกว่าที่เมืองไทย เพราะเป็นอาหารพื้นเมืองที่ใครๆก็นิยมกิน
.jpg)
.jpg)

เสร็จแล้วก็ออกมายืนถ่ายรูปตามธรรมเนียมนักท่องเที่ยวชาวไทย ภรรยาผมกลัวแดดก็เลยยืนหลบอยู่ในร่ม รูปนี้ก็ไม่มีอะไรเป็นท้องฟ้าโล่งๆ
.jpg)

เนื่องจากน้องนุ้ยใช้กล้องไฮเทค แคนน่อน 7 D สามารถกดแชตเตอร์ได้อย่างต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ภาพนี้จึงปรากฏวัตถุลึกลับ 2 ลำ บินอยู่บนท้องฟ้า ไม่รู้ว่ามันโผล่มาจากไหนเร็วเหลือเกินแค่เสี้ยววินาที ผมยังยืนอยู่ท่าเดิม มุมกล้องก็มุมเดิม


ภาพขยายให้เห็นเจ้าวัตถุลึกลับ 2 ลำ ถ้าเป็นเครื่องบินไอพ่นก็ไม่น่าจะเร็วขนาดนี้
เพราะวิเคราะห์จากมุมกล้องถ่ายระยะไกลเฟรมของเลนส์สามารถคุมพื้นที่ได้ระยะทางเยอะมาก หากเฟรมแรกไม่มีภาพวัตถุนี้แต่พอเฟรมที่สองมีก็แสดงว่าต้องบินได้เร็วชนิดพริบตา อนึ่งที่ผมพาดหัวว่า เผชิญหน้า (เผชิญหลัง) กับ ยูเอฟโอ ก็เพราะมันอยู่ข้างหลังผมนี่แหละ

เปรียบเทียบภาพทั้งสองเฟรมให้เห็นความเร็วของเจ้าสิ่งบินลึกลับ (แต่งสีเพิ่อให้มองเห็นได้ชัดขึ้น)


เปรียบเทียบกับภาพของเครื่องบินไอพ่น เร็วยังไงก็ต้องติดภาพในเฟรมที่สอง
เพราะมุมกว้างของเลนส์ครอบคลุมระยะทางได้ไกลมาก

.jpg)






ภาพเครื่องบินไอพ่นถ่ายติดทุกเฟรม


โดยทั่วไปเครื่องบินไอพ่นในระยะสูงจะมีไอน้ำเป็นหางยาวออกมาชัดเจน
เผชิญหน้า (เผชิญหลัง) กับ ยูเอฟโอ เป็นครั้งที่สอง ในบริเวณทุ่งนา นอกเมืองรอสเวล รัฐนิวเม็กซิโก
ตกบ่ายแก่ๆบอกให้ลูกขับรถออกไปหาวิวแถวนอกเมืองเพื่อถ่ายทำภาพประกอบ "มิวสิก วีดิโอ" กับกีต้าร์ตัวใหม่ยี่ห้อเฟนเดอร์ เมดอินยูเอสเอ แต่ที่ไหนได้กลับถูกยูเอฟโอประกบข้างหลังอีกครั้ง
จอดรถแถวๆทุ่งนาเพื่อหามุมกล้องดีๆ

ภาพแรกไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ

ภาพที่สองมีวัตถุบางอย่างบินเข้ามาอยู่ในเฟรมของภาพด้านหลัง สองภาพนี้ห่างกันแค่อึดใจ


เปรียบเทียบระหว่างทั้งสองเฟรม ยังไม่ทันขยับตัว


ภาพที่สามมองไม่เห็นเจ้าสิ่งนั้นแล้ว

วิเคราะห์ภาพโดยใช้หลักทางฟิสิกซ์ของแสงอาทิตย์ แสดงว่าเจ้าสิ่งบินลึกลับนี้ต้องเป็นโลหะเพราะมันสะท้อนแสงโดยมีเงาข้างหลัง


แสดงว่ามันบินเข้ามาในเฟรมของกล้องอย่างรวดเร็ว เพราะภาพแรกยังไม่เห็นอะไร


แต่งสีให้ดูการสะท้อนแสงอาทิตย์ของวัตถุลึกลับนี้ได้ชัดขึ้น


.jpeg)
.jpeg)
วิเคราะห์เส้นทางของแสงอาทิตย์และเงา เปรียบเทียบระหว่างเจ้าวัตถุบินลึกลับกับแว่นตา แสดงให้เห็นว่ามันสะท้อนแสงและเกิดเงาในลักษณะเดียวกันกับแว่นตา

การถ่ายรูปแล้วติด ยูเอฟโอ ในฉากข้างหลังแบบบังเอิญไม่ใช่ผมเป็นคนแรกครับ
นักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่มาเมืองรอสเวล ก็มีประสบการณ์เดียวกันมาแล้วหลายคน
.jpg)

น้องนุ้ย กับกล้องแคนน่อน 7 D


เป็นไงครับ เอาประสบการณ์จริงของตัวเองมาเล่าให้ฟังพร้อมกับภาพเชิงวิเคราะห์
โดยใช้หลักการทางฟิสิกซ์ เพื่อยืนยันว่า ยูเอฟโอ เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ และไม่ใช่นิยายอีกต่อไป
UFO ที่อำเภอนาแก นครพนม
บ่ายแก่ๆวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ผมกับอาจารย์วรวิทย์ ตงศิริ เดินทางไปที่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ กรป.กลาง อำเภอนาแก นครพนม เพื่อหารือกับท่าน ผบ.หน่วย เรื่องโครงการสร้างจุดขายการท่องเที่ยวในค่ายทหาร ขณะที่กำลังคุยหารือกันผมมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเห็นวัตถุประหลาดลอยนิ่งๆ ท่าน ผบ.ให้ทัศนะบางคนอาจคิดว่าเป็น UFO ผมไม่ได้ออกความเห็นอะไรเพราะกลัวเขาจะหาว่าติ้งต้อง แต่ในใจเริ่มสงสัยว่าน่าจะใช่ UFO เพราะมันมีขนาดใหญ่จนสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าทั้งๆที่อยู่สูงมากและก็ลอยอยู่นิ่งๆเป็นเวลานาน ถ้าเป็นลูกโป่งหรือบันลูนมันจะต้องลอยตามกระแสลมข้างบน ใช้กล้อง Iphone 12 ProMax ถ่ายเป็น VDO พบว่ามัน "หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูง" เคลื่อนที่และหยุดได้อย่างกระทันหัน ซึ่งค้านกับกฏแรงดึงดูดของนิวตัน (Newton's law of gravitational force) แสดงว่ามันต้องมีเทคโนโลยี "สลายแรงดึงดูดของโลก" (antigravity force)

ภาพขยายพบว่าเป็นวัตถุทรงกลม

ภาพถ่ายใน VDO มองเห็นการหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็ว

เคลื่อนที่และหยุดนิ่งได้แบบกระทันหัน


เอาภาพวีดีโอมาตัดต่อเป็นภาพนิ่งแสดงให้เห็นการเคลื่อนตัวของ UFO ที่ฝืนกฏแห่งแรงดึงดูดของโลก เพราะสามารถเลี้ยวแบบหักข้อศอกได้สบาย

ภาพเครื่องบินระยะไกลด้วยกล้องตัวเดียวกัน เมื่อ zoom จะเห็นลำตัวและหางเครื่องบินชัดเจน
.jpeg)
.jpeg)
เปรียบภาพถ่ายด้วยกล้องตัวเดียวกันระหว่างเครื่องบิน กับ UFO

เปรียบเทียบภาพระหว่าง UFO กับ Balloon
อนึ่ง ข่าวบอลลูนของจีนที่ถูกสหรัฐยิงตกเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 อาจจะสับสนกับภาพ UFO แต่มีข้อสังเกตคือเวลาถ่าย VDO จะเห็นว่าวัตถุนี้หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วและมีแสงวูบวาบออกมารอบตัวซึ่งไม่น่าจะเป็นคุณสมบัติของบอลลูนตรวจอากาศ
"สิ่งบินลึกลับ" ที่ดอยสุเทพ?
คุณ Pom Dararat เป็นมัคคุเทศก์อาชีพมีฝีมือในการถ่ายภาพ และเป็นเพื่อน Facebook ส่งภาพเหล่านี้มาให้ดู ใช้เวลาวิเคราะห์อยู่นานจนฟันธงได้ว่า ไม่ใช่เครื่องบิน ไม่ใช่นก ไม่ใช่ขี้แมงวันหน้ากล้องเพราะมันเคลื่อนที่จากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก แล้วมันจะเป็นอะไรละ?

ภาพแรก (Frame 0) ไม่มีอะไรบนท้องฟ้า
ภาพที่ 1 (Frame 1) สิ่งบินลึกลับโผล่ออกมาทางทิศตะวันออก เวลา 09:57
.jpeg)
Frame 1 09:57 and Frame 2 09:58 สิ่งบินลึกลับขยับเข้ามา จากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตกแต่ถอยห่างออกไปทางทิศเหนือทำให้ภาพดูเล็กลง
.jpeg)
Frame 2 09:58 and Frame 3 09:58 ภาพดูเล็กลง แสดงว่าเคลื่อนตัวออกไปไกลทางทิศเหนือ

.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
เปรียบเทียบกับภาพถ่ายเครื่องบินต่างกันชัดเจน

เปรียบเทียบภาพสิ่งบินลึกลับที่ดอยสุเทพ เชียงใหม่ กับภาพถ่ายที่ อำเภอนาแก นครพนม มีความคล้ายกันมาก

.jpeg)
เปรียบเทียบกับภาพถ่ายนกแตกต่างกันชัดเจน
ประสบการณ์ตรงของคุณวิลัยภรณ์ บุณโยทยาน
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2557 คุณวิลัยภรณ์ฯ ภรรยาของผมไปจังหวัดมหาสารคามเพื่อทำธุระเกี่ยวกับการอัดเสียงเพลงสำหรับแจกในงานฉลอง 50 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เข้าพักที่โรงแรมตักศิลาในตัวเมืองมหาสารคาม เวลาประมาณ 10:30 น. ขณะที่กำลังอยู่ในห้องพักของโรงแรมซึ่งมีหน้าต่างด้านทิศเหนือ คุณวิลัยภรณ์ฯสังเกตุเห็นวัตถุบางอย่างลอยอยู่บนท้องฟ้าในระยะไกล เมื่อตั้งใจดูอย่างจริงจังก็พบว่าวัตถุนั้นมีลักษณะทรงกลมซึ่งไม่น่าจะเป็นเครื่องบินธรรมดา เนื่องจากคุณวิลัยภรณ์มักได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ UFO จากผมบ่อยๆและเคยไปดูงานที่ UFO Museum เมือง Roswell รัฐ New Mexico USA เมื่อเดือนเมษายน 2510 แต่ตอนนั้นเธอคิดว่ามันเหมือนจิตนาการแบบภาพยนต์ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริงจังอะไร เมื่อมาเห็นด้วยตาตนเองเข้าจริงคราวนี้เธอจึงเชื่อว่านี่คือ UFO ตัวจริงเสียงจริง เพราะเหตุผล 3 ประการ
1. วัตถุที่เป็นทรงกลมทำไมจึงบินอยู่บนอากาศได้มันผิดหลักอากาศพลศาสตร์ เว้นแต่ว่ามันมีเทคโนโลยีที่สามารถสลายแรงดึงดูดของโลก (Anti-gravity technology) บางช่วงมันสามารถหยุดนิ่งอยู่ในอากาศเหมือนจอดอยู่เฉยๆก็แสดงว่าแรงดึงดูดของโลกไม่มีผลต่อมันเลย ขัดแย้งกับกฏแรงโน้มถ่วงของเซอร์ไอแซค นิวตั้น อย่างชัดเจน ดีนะที่มันไม่โชว์การเลี้ยวแบบหักมุม 90 องศา
2. เมื่อวัตถุดังกล่าวผ่านเข้าไปบริเวณที่เป็นก้อนเมฆจะเกิดปฏิกริยาทำให้มีก้อนเมฆรวมตัวเป็นทางยาวเหมือนไอเสียรถยนต์ แต่พอออกมานอกก้อนเมฆปฏิกริยาดังกล่าวก็หายไป แสดงว่าเจ้าวัตถุนั้นต้องมีพลังงานความร้อนหรือพลังงานอย่างใดอย่างหนึ่ง หากจะคิดว่าวัตถุนั้นเป็นเพียงบอลลูนธรรมดามันก็ไม่น่าจะมีปฏิกริยาต่อก้อนเมฆขนาดนั้น เพราะบอลลูนเป็นวัตถุอัดแก้สฮีเลี่ยมไม่มีความร้อนมากมายอะไรถ้าว่าไปก็เหมือนลูกโป่งธรรมดานั่นเอง
3. บางครั้งบางขณะเจ้าวัตถุนั้นสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นมันวาววูบวาบแสดงว่ามันต้องเป็นวัสดุอะไรบางอย่างที่มีลักษณะมันวาว หรือโลหะอย่างใดอย่างหนึ่ง

ใช้โปรแกรมดาราศาสตร์สร้างภาพเสมือนของตำแหน่งดวงอาทิตย์ ณ หน้าโรงแรมตักศิลาในตัวเมืองมหาสารคาม ทำให้ทราบว่าเมื่อเวลา 10:30 น. วันที่ 25 ตุลาคม 2557 ดวงอาทิตย์ทำมุม 45 องศา ก็สอดคล้องกับการสะท้อนแสงของว้ตถุลึกลับที่ด้านถูกแสงแดดเป็นมันวาวและด้านตรงข้ามเป็นเงามืด (ตามคำอธิบายของคุณวิลัยภรณ์ที่เห็นปรากฏการณ์กับตาตัวเอง)
ภาพนี้ (ซ้ายมือ) ผมและคุณวิลัยภรณ์ไปชม UFO Museum ที่เมือง Roswell New Mexico USA เมื่อเดือนเมษายน 2550 (ขวามือ) เป็นภาพถ่ายวัตถุลึกลับจากหน้าต่างโรงแรมตักศิลา จังหวัดมหาสารคาม 10:30 น. วันที่ 25 ตุลาคม 2557
ภาพข้างล่างนี้เป็นทั้งหมด 10 รูป ที่คุณวิลัยภรณ์ถ่ายด้วยกล้องดิจิต้อลขนาดเล็กแบบธรรมดา เธอยังบ่นเสียดายว่าน่าจะเอากล้อง Nikon ที่มีเลนส์ซูมติดตัวไปด้วยจะได้ภาพที่ชัดคมกว่านี้แน่นอน ผมเรียงลำดับไว้เป็นหมายเลข 1 - 10 และทำเครื่องหมายลูกศรสีขาวเอาไว้ให้เป็นตัวช่วยให้ทราบว่าเจ้าวัตถุนั้นอยู่ที่ตำแหน่งไหน ถ้าเอาเสาวิทยุด้านล่างเป็นตัวอ้างอิงจะเห็นว่าเจ้าวัตถุมันเคลื่อนตัวจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก และบางช่วงก็หยุดอยู่นิ่งๆกลางอากาศ
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
ภาพที่ 2 - 4 แสดงให้เห็นว่ามันกำลังเคลื่อนตัวจากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
ภาพที่ 5 และ 7 เห็นได้ชัดเจนว่ามันเปลี่ยนตำแหน่งโดยดิ่งขึ้นไปตรงๆ
ตอนนี้คุณวิลัยภรณ์ยืนยันว่า "เชื่อแล้วคะ" เข้าทำนองสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เรื่องราวประสบการณ์ UFO ยังไม่หมดเท่านี้ หากมีข้อมูลพบเห็นใหม่ๆก็จะมา update ให้พระเดชพระคุณท่านได้รับทราบต่อไป
ปรากฏการณ์ที่ปราสาทนารายณ์เจงเวง อ.เมือง สกลนคร
ไปถ่ายภาพดวงอาทิตย์ตรงศรีษะที่ปราสาทนารายณ์เจงเวง อ.เมืองสกลนคร เมื่อวันที่ 5 - 6 สิงหาคม 2559 ปรากฏว่ามีภาพ "วัตถุบินลึกลับ" (unidentified flying object: UFO) ติดเข้ามาด้วย
.jpg)
ภาพดวงอาทิตย์ตรงศรีษะที่ปราสาทนารายณ์เจงเวง อ.เมืองสกลนคร

เงาของกระถางชี้ว่า "ดวงอาทิตย์ตรงศรีษะ"

ช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีผู้คนมีแต่เพื่อนสี่ขาวิ่งไปมา
.jpg)
วันที่ 5 สิงหาคม 2559 เวลา 11:27 ได้ภาพ UFO ท้องฟ้าเหนือปราสาทนารายณ์เจงเวง
.jpg)
ภาพขยาย

แต่งสีเพื่อให้ดูชัดขึ้น

เพื่อให้แน่ใจว่าภาพดังกล่าวไม่ใช่ "ขี้แมงวันหน้ากล้อง" จึงเปรียบเทียบกับภาพที่ถ่ายไล่ๆกัน เพื่อยืนยันว่าสิ่งนั้นต้องเป็น "วัตถุบนท้องฟ้า" (Flying Object)
อนึ่ง พิจารณาภาพนี้อยู่หลายวันโดยเปรียบเทียบกับปรากฏการณ์ต่างๆบนท้องฟ้า ประกอบกับภาพถ่าย ณ สถานที่เดียวกัน มุมกล้องเดียวกันในวันต่อมา ที่สุดของที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า "มันคือภาพดวงอาทิตย์" ที่ถูกกรองแสงโดยก้อนเมฆทำให้ดูคล้ายกับวัตถุลึกลับ ........ เล่นเอาตกใจหมดเลย ..... วิทยาศาสตร์ก็เป็นแบบนี้แหละครับ "ต้องพิสูจน์ให้ถึงที่สุด"
.jpg)
ภาพถ่าย 2 รูปนี้ทำให้ฟันธงว่าเป็น "ดวงอาทิตย์ ไม่ใช่ UFO" เพราะมีการเปรียบเทียบระหว่างภาพวันที่ 6 สิงหาคม กับวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ทั้งสอง object อยู่ในสถานที่เดียวกัน ถ้าเป็น UFO มันคงไม่น่าจะมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันทั้งสองวัน อนึ่งหลักการทางฟิสิกซ์ก็มีคำอธิบายว่าก้อนเมฆสามารถทำหน้าที่เหมือนกระจกฝ้าในการกรองแสงจ้าของดวงอาทิตย์และสร้างภาพดวงอาทิตย์เป็นลูกกลมๆดังที่เห็น ทำนองเดียวกันกับหมอกและฝุ่นในขอบฟ้าทำให้เรามองเห็นดวงอาทิตย์เป็นลูกกลมแดงตอนเช้าๆและเย็นๆ
วิเคราะห์ clip VDO จากข่าว UFO ที่ ถนนงามวงศ์วาน นนทบุรี เมื่อ 1 มิถุนายน 2566
ตามข้อมูลข่าว ผู้ถ่าย clip ระบุว่าถ่ายเมื่อวันที่ 1 มิถุนาย น 2566 เวลา 07:48 น. บนทางด่วนงามวงศ์วาน
ประเด็นการวิเคราะห์
1.เป็น clip จริงๆหรือ Photo Shop
ภาพ VDO มีการบินสวนทาง ระหว่าง UFO กับ นก (Bird) ซึ่งมีการกระพือปีกขึ้นลงอย่างเป็นธรรมชาติของสัตว์ปีก
2.ภาพที่ปรากฏ เป็น "วัตถุ" หรือ ภาพสะท้อน หรือ รอยขี้แมลงวันของเลนส์กล้อง
การที่เกิดเงาของแสงอาทิตย์แสดงว่าต้องเป็น "วัตถุ" ไม่ใช่ ภาพสะท้อน หรือ ขี้แมงวันหน้ากล้องใช้โปรแกรมดาราศาสตร์ค้นหาตำแหน่งดวงอาทิตย์ ณ สถานที่ วัน และเวลาตาม clip พบว่าดวงอาทิตย์อยู่ ณ พิกัด มุมกวาด (azimuth 71 องศา ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) ทำมุมตกกระทบ 26 องศา (altitude 26) เมื่อเปรียบกับ "เงา" (shadow) ที่ปรากฏบน UFO กับเงาของอาคารพาณิชย์ด้านล่าง มีมุมตกกระทบ 26 องศา เท่ากัน
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
วีดีโอ นี้ถ่ายเมื่อวันที่ 1 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2566 เวลา 07:48 น.
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
UFO เป็นวัตถุสะท้อนแสงอาทิตย์และเกิดเงา
.jpeg)
.jpeg)
ใช้โปรแกรมดาราศาสตร์คำนวณพิกัดของดวงอาทิตย์ ณ วันและเวลาตาม clip
.jpeg)
ทั้ง UFO และอาคารพาณิชย์มีเงาดวงอาทิตย์
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
จำลองเส้นทางของ sunlight ด้วยมุมตกกระทบ 26 องศา ที่ UFO และอาคารพาณิชย์
.jpeg)
UFO และอาคารพาณิชย์ มีมุมตกกระทบของ sunlight และเงา เหมือนกัน
.jpeg)
.jpeg)
การเคลื่อนที่ของ UFO and Bird
.jpeg)
ภาพการกระผือปีกของนก
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ "เพนตาก้อน" ปล่อยคลิป UFO ออกมาอย่างเป็นทางการ โดยใชัถ้อยคำว่า "ไม่ใช่ชั้นความลับอีกต่อไป" (declassified)
.jpg)
เป็นคลิปวีดีโอถ่ายโดยนักบินกองทัพเรือสหรัฐ เปรียบเทียบกับภาพถ่ายของผมที่เมือง Roswell New Mexico USA
.jpg)
คลิปวีดีโอของนักบินกองทัพเรือสหรัฐ เปรียบเทียบกับภาพถ่ายของลูกสาว (น้องนุ้ย) ที่เกาะช้าง
พฤษภาคม 2565 สภาผู้แทนสหรัฐอเมริกา (US congress) พิจารณาข้อมูล UFO อย่างเป็นทางการ
กระทรวงกลาโหมและฝ่ายความมั่นคงสหรัฐตั้งชื่อ UFO ใหม่ว่า UAP (Unidentified Aerial Phenomena) และนำข้อมูลนับร้อยฉบับเข้าแถลงต่อสภา นับเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ที่มีการยกเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างเป็นทางการเพื่อให้สอดคล้องกับกฏหมายสหรัฐที่ระบุว่า "การเข้าถึงข้อมูลโดยประชาชน" เนื่องจากองค์การเอกชนได้เกาะติดเรื่อง UFO มานานหลายสิบปีแล้วแต่ทางการสหรัฐไม่พูดอะไรเลยจะปฏิเสธก็ไม่เชิง ออกอาการแบ่งรับแบ่งสู้มาตลอดหลายปี ที่สุดของที่สุดอั้นไม่ไหวเพราะหน่วยงานของกองทัพออกมาเปิดเผยเองว่านักบินรบอเมริกันจำนวนมากได้พบกับยานประหลาดที่มีเทคโลโลยีเหนือชั้นสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงและเปลี่ยนทิศทางได้อย่างกระทันหันแถมยังพุ่งลงน้ำทะเลได้อีกด้วย เสืออากาศอเมริกันและลูกเรือจำนวนมากมีภาพถ่าย VDO เป็นหลักฐาน เล่นเอานักการเมืองในสภา congress นั่งไม่ติด จนต้องเปิดการประชุมวาระพิเศษเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
ภาพข่าวสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาเปิดการถกอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับ UFO เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
ล่าสุดปลายเดือนกรกฏาคม 2566 วุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกา 2 ท่าน ได้ยื่นเสนอต่อสภาคองเกรสให้ออกกฏหมาย "เปิดเผยเรื่องราวสิ่งบินลึกลับ" เป็นกฏหมายในชื่อ The Unidentified Anomalous Phenomena (UAP) Disclosure Act of 2023
.jpeg)
.jpeg)
ภาพถ่ายเปรียบเทียบภาพถ่ายสิ่งบินลึกลับ ซ้ายมือ คือ UAP ถ่ายโดยนักบินกองทัพเรือสหรัฐ ขวามือ ภาพถ่ายฝีมือลูกสาวของผมที่เกาะช้าง เมื่อ 8 เมษายน 2550
ล่าสุด 31 พฤษภาคม 2566 องค์การ NASA และหน่วยงานการป้องกันประเทศสหรัฐอเมริกา (The US Department of Defence) จัดประชุมเรื่องวัตถุบินลึกลับในชื่อที่ตั้งใหม่ว่า UAP (Unidentified Anomalous Phenomena)
We are not Alone at Si Thep Archaeological Park
เป็นสำนวนภาษาอังกฤษหมายถึง ...... เราๆท่านๆในโลกใบนี้ไม่ได้อยู่โดยลำพังแล้ว แต่มีเพื่อนจากต่างดาวมาร่วมแจมที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์
ปรากฏการณ์ที่โบราณสถานยุคทวารวดี "เขาคลังนอก" ณ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ 13 ธันวาคม 2566
.jpeg)
ผมกับคณะไปที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เพื่อเก็บข้อมูลทางโบราณคดีและดาราศาสตร์ 13 ธันวาคม 2567
มีภาพถ่ายทั้งหมด 5 Frame ขณะที่ผมและคุณเพชรดา ศรชัยไพศาล กำลังยืนบรรยาย ระหว่างเวลา 11:55 - 11:56 น.
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
เมื่อพิจารณา Frame 4 มีวัตถุบางอย่างปรากฏที่ด้านบนของโบราณสถาน
เปรียบเทียบ Frame 3 กับ Frame 4 ในเวลาใกล้เคียงกัน ปรากฏว่า Frame 4 มีภาพวัตถุลึกลับ แต่ เฟรม 3 ไม่มีอะไร แสดงว่ามันต้องเคลื่อนตัวเข้ามาเร็วมาก
.jpeg)

ซูมภาพ Frame 4 จะเห็นวัตถุทั้งสามลำ Object 1 อยู่ใกล้ที่สุด ส่วน Object 2 และ Object 3 อยู่ไกลๆ
ภาพขยายของทั้งสาม Objects
.jpeg)
ใช้โปรแกรม PowerPoint ขยายและแต่งสีแต่งเงา เห็นได้ชัดเจนว่ามีรูปร่างประหลาด ภาพตรงกลางเป็นภาพต้นฉบับ (original photo)


เปรียบเทียบภาพวัตถุลึกลับ กับภาพนกและภาพเครื่องบิน เห็นได้ชัดเจนว่าต่างกันมาก

คำถาม ......... ทำไมภาพถ่ายวัตถุลึกลับที่โบราณสถานเขาคลังนอกจึงเป็นเงาดำๆ แต่ภาพถ่ายวัตถุลึกลับที่เกาะช้างเมื่อ 8 เมษายน 2007 (2550) จึงมีแสงสะท้อนและเงาที่ด้านหลัง
คำตอบ ....... มุมตกกระทบของดวงอาทิตย์ไม่เหมือนกัน ที่โบราณสถานเขาคลังนอกยิงมุมกล้องจากด้านล่างของวัตถุลึกลับและดวงอาทิตย์อยู่ข้างบนภาพจึงออกมาเป็นเงาดำมืด แต่ที่เกาะช้างมุมกล้องกับวัตถุอยู่ในระนาบเดียวกันและดวงอาทิตย์กำลังคล้อยต่ำจึงมีทั้งแสงสะท้อนมันวาวและเงามืดที่ด้านตรงกันข้าม

ขณะถ่ายภาพดวงอาทิตย์อยู่ที่มุมสูง ส่วนกล้องอยู่ที่มุมต่ำ (ด้านล่างของวัตถุ) ภาพออกมาจึงเป็นเงาดำๆ
.jpeg)

เปรียบเทียบภาพถ่ายที่สถูปเขาคลังนอก อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ประเทศไทย ..... กับภาพถ่ายที่รัฐ Texas USA รูปร่างของ UFO คล้ายกันมาก
We are not alone ....... Haloween Night 17 Oct 2024 Ankeny City Iowa USA
เย็นวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ไปร่วมงานฮาโลวีนกับครอบครัวที่ถนนคนเดินในเมืองแองเคนี่ รัฐไอโอว่า สหรัฐอเมริกา ...... ภาพถ่าย 2 เฟรม มีวัตถุลึกลับบนท้องฟ้าจำนวนหลายอัน ตอนแรกคิดว่าเป็นภาพดาวบนท้องฟ้าแต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบแล้ว .... ไม่ใช่ดาวแน่นอนเพราะมันเปลี่ยนตำแหน่งและหายไปอย่างรวดเร็วภายใน 1 นาที หรือว่าจะเป็นดาวเทียม Starlink Satellites ของคุณน้าอีลอน มาสซ์ ก็ไม่น่าใช่เพราะตำแหน่งของมันไม่เรียงเป็นแถวเหมือนดาวเทียม ...... แล้วมันคืออะไรละ!
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
.jpeg)
ภาพแรกถ่ายเมื่อ 19:09 น. มองเผินๆเหมือนไม่มีอะไร เป็นถนนคนเดินในงานฮาโลวีน
ซูมเข้าไปดู ..... อ้าว นั่นมันคืออะไร ใช่ดาวบนท้องฟ้าไม้ ..... แต่ถ้าเป็นดาวจริงๆทำไม่มีเพียงแค่ 4 ดวง
.jpeg)
เปรียบเทียบ Objects กับ Star (Arcturus?)
ซูมหนึ่งในวัตถุทั้งสี่ ..... รูปร่างมันแปลกๆไม่เหมือนดาว
ภาพที่ 2 มันเพิ่มจำนวนขึ้นและเรียงตัวเป็นแนวโค้งกับขอบฟ้า
.jpeg)
ภาพที่ 3 มันหายไปหมดแล้วทั้งๆที่เวลาห่างกันไม่ถึง 1 นาที
.jpeg)
เปรียบเทียบ Frame 2 and Frame 3 ในมุมกล้องเดียวกัน ณ เวลา 19:25 น. โดยมีภาพดาว (Star) เป็นตัวยืนยันว่าดาวยังคงปรากฏที่เดิม แต่วัตถุเหล่านั้นหายไปอย่างรวดเร็ว
ซูมให้เห็นภาพดาว (Star) ยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิม แต่วัตถุลึกลับหายไปหมดแล้ว
.jpeg)
.jpeg)
เปรียบเทียบ Frame 1 and Frame 2 การเรียงตัวของวัตถุเหล่านั้นเปลี่ยนตำแหน่งไปอย่างชัดเจน แสดงว่ามันเคลื่อนที่ได้
.jpeg)
หรือว่าวัตถุเหล่านั้นคือดาวเทียม Starlink Satellites ของคุณน้าอีลอน มาสซ์ ..... แต่ดูแล้วการเรียกตัวมันไม่เหมือนกันนะ
ถาม ตอบ เชิงวิทยาศาสตร์
ถาม ...... ภาพที่ปรากฏเป็นความบกพร่องของกล้อง หรือ ขี้แมงวันติดหน้ากล้อง?
ตอบ ...... ถ้าเป็นความบกพร่องดังที่กล่าวจะต้องเกิดขึ้นทั้ง 3 เฟรม ไม่ใช่มีแค่เฟรมที่ 1 และ 2 เท่านั้น
ถาม ...... ภาพดังกล่าวเป็น star ใช่ไม้
ตอบ ...... ไม่ใช่ star เพราะ มันเปลี่ยนตำแหน่งอย่างชัดเจนเปรียบเทียบระหว่าง เฟรม 1 กับ เฟรม 2 ถ้าเป็น star จะต้องอยู่ที่รูปแบบการเรียงตัวเหมือนเดิม (same formation)
ถ้ามีข้อมูลอะไรเข้ามาใหม่ จะ Update ให้คราบ