ปฏิบัติการทางดาราศาสตร์ ชื่อรหัส "Operation Rahu EP XVII" วัดระยะทาง โลก - ดวงจันทร์ ในปรากฏการณ์ "ราหูอมจันทร์" กลางดึกวันที่ 7 - 8 กันยายน 2568 ประเทศไทย ..... ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการส่งข้อมูลข้ามทวีปมายังสหรัฐอเมริกาผ่านสื่อ Facebook เนื่องจาก ..... ตัวผมสรรค์สนธิ บุณโยทยาน ประธานชมรมอารยธรรมสกลนครผู้ทำการคำนวณอยู่ที่รัฐ Iowa USA) ไม่มีปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์ในทวีปอเมริกาเหนือ

คืนวันที่ 7 - 8 กันยายน 2568 ชาวไทยทั่วประเทศได้ชมปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ "จันทรุปราคาเต็มดวง"แล้ว ..... ย้อนกลับไปสองพันกว่าปีที่แล้วนักดาราศาสตร์ชาวกรีก ท่าน Aristarchusof Samos 310 - 230 BC (310 - 230 ปี ก่อนคริสตกาล) ได้คิดค้นวิธีการวัดระยะทาง โลก - ดวงจันทร์ โดยใช้ปรากฏการณ์นี้ ..... ลองมาดูว่าท่านทำอย่างไร
ขอจำลองเหตุการณ์ด้วย Operation Rahu EP I เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2558 (15 April 2015) ในปรากฏการณ์ "จันทรุปราคาเต็มดวง" ที่รัฐ Oklahoma USA และใช้วิธีเดียวกับท่าน Aristarchus โดยยืนดูท้องฟ้าท่ามกลางอากาศหนาวเย็นยามค่ำคืนที่หน้าบ้าน ณ เมือง Broken Arrow และพยายามจับเวลาการเคลื่อนตัวของดวงจันทร์ตามสูตรของท่าน Aristarchus แต่ท้องฟ้ามีเมฆมากไม่สามารถจับเวลาการเคลื่อนตัวของดวงจันทร์ จึงต้องอาศัยข้อมูลจาก Website ขององค์การ NASA ที่คำนวณล่วงหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว

ยืนดูดวงจันทร์อยู่ที่หน้าบ้านกลางดึกวันที่ 15 April 2015

ชาวกรีกรู้มานานแล้วว่าปรากฏการณ์ "จันทรุปราคา" เกิดจากการที่ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ โคจรเข้ามาอยู่ในเส้นตรงเดียวกันทำให้เงามืดของโลกบดบังดวงจันทร์ให้มืดชั่วขณะ ภาษากรีกเรียกเงามืดของโลกว่า Umbra ต่อมาศัพท์คำนี้กลายเป็นภาษาอังกฤษ Umbrella แปลว่า "ร่ม" อนึ่ง ตำแหน่งของดวงจันทร์ต้องอยู่ไม่เกินจากเงามืดของโลก .... ถ้าอยู่ไกลเกินกว่านี้จะไม่มีโอกาสเกิดจันทรุปราคา

นักดาราศาสตร์ชาวกรีกยังรู้อีกว่าเงาของวัตถุที่เกิดจากแสงอาทิตย์มีลักษณะเป็น "รูปทรงกรวย" มีความยาวประมาณ 108 เท่า ของเส้นผ่าศูนย์กลางของวัตถุนั้นๆ ..... ในที่นี้เงามืดของโลก (Earth's umbra) เป็นรูปทรงกรวย (cone shape) และยาวเท่ากับ 108 เท่า ของเส้นผ่าศูนย์กลางของโลก

ข้อมูลจาก Website ขององค์การ NASA ที่นำมาจำลองเหตุการณ์ Opeartion Rahu EP I
1.ดวงจันทร์เริ่มแตะเงามืดของโลก เพราะตามหลักดาราศาสตร์ตำแหน่งของดวงจันทร์ต้องอยู่ภายในระยะเงามืดของโลกจึงจะเกิดจันทรุปราคา (Phase 1 Time 12:58 pm)
2.ดวงจันทร์เคลื่อนเข้าไปจนมิดในเงามืดของโลก (Phase 2 Time 02:06 am )
3.ดวงจันทร์เคลื่อนตัวออกจากเงามืดของโลก (Phase 3 Time 04:33)
.jpeg)
ใช้วิธีของท่าน Aristarchus แปลงหน่วยของเวลาให้เป็นสัดส่วน ดังนี้
Phase 1 Time12:58 pm - 02:06 am = 68 นาที
Phase 2 ไปยัง Phase 3 Time 02:06 am - 04:33 am ใช้เวลา = 147 นาที
แปลงเวลาเป็นสัดส่วน = 147 นาที / 68 = 2.1617
หมายถึง สัดส่วนระหว่างเงามืดของโลก (Earth's umbra) กับ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของดวงจันทร์ (Moon's Diameter) = 2.1617 : 1
อนึ่ง วิธีการคำนวณระยะทาง โลก - ดวงจันทร์ ตามสูตรของท่าน Aristarchus ต้องใช้ตัวเลข "เส้นผ่าศูนย์กลางโลก" (Earth's Diameter) เข้ามาในสมการ ...... ผมและคณะเคยทำปฏิบัติการ Operation Eratosthenes EP I เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555 (21 March 2012) ระหว่างปราสาทภูเพ็ก สกลนคร กับ ปราสาทบายน กัมพูชา ได้ตัวเลขเส้นรอบวงโลก 38,451 Km และแปลงเป็นเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับ 12,234 Km

.jpeg)
สองพันกว่าปีที่แล้วนักดาราศาสตร์ชาวกรีก ท่าน Eratosthenes คิดค้นวิธีวัดขนาดเส้นรอบวงโลกด้วยมุมดวงอาทิตย์ระหว่างเมือง Alexandria ทางทิศเหนือ - เมือง Syene ทางทิศใต้ของอาณาจักรอียิปส์

Operation Eratosthenes EP I ระหว่างปราสาทภูเพ็ก สกลนคร กับ ปราสาทบายน กัมพูชา ได้ตัวเลขเส้นรอบวงโลก (Earth's Circumference) 38,451 Km และเส้นผ่าศูนย์กลางโลก (Earth's Diameter) เท่ากับ 12,234 Km อนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับเส้นรอบวงโลกจริงๆ 40,008 Km มีค่า Error = 4%

ผลการจำลองคำนวณระยะทาง โลก - ดวงจันทร์ ตามสูตรของท่าน Aristarchus ได้ ตัวเลข 417,899 Km เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลขององค์การ NASA 384,400 Km มีค่า Error 8.7%
ทำไมปฏิบัติการดาราศาสตร์ต้องใช้ชื่อรหัสว่า .... "ปฏิบัติการราหู Operation Rahu"
เรื่องนี้มี Story Behind จากเทพนิยายของชาวฮินดู ดังนี้ ครับ .... กาลครั้งหนึ่งขณะที่พระอินทร์กำลังทรงช้างเอราวันก็บังเอิญพบกับฤาษีที่ชื่อ "ดูวะษา" (Rishi Durvasa)

ท่านฤาษีดูวะษาดีใจที่พบกับพระอินทร์จึงถวายช่อดอกไม้ให้ .... แต่พระอินทร์คิดอย่างไรไม่ทราบบอกให้วางช่อดอกไม้ไว้บนหัวของช้างเอราวันแทนที่จะเอามาคล้องคอ พลันนั้นเองช้างเอราวันเกิดอาการกระฟัดกระเฟียดสบัดช่อดอกไม้หล่นลงพื้นและใช้เท้าเหยียบย่ำ

ท่านฤาษีดูวะษาโกรธมากถือว่าพระอินทร์ไม่ให้เกียรติจึง "สาปให้พระอินทร์มีอันเป็นไป" คำสาปนี้มีผลลามไปถึงเทพองค์อื่นๆด้วยเป็นเหตุให้บรรดาทวยเทพอ่อนเรียวแรงขาดฤทธิ์เดช เมื่อเผชิญหน้ากับอสูรก็แพ้ทางอย่างหมดรูป

เหล่าเทพหมดหนทางแก้ไขจึงพากันไปขอความช่วยเหลือกับพระวิษณุ .... ได้ความว่าต้องไปกินน้ำอมฤตที่ได้จากพิธีกวนทะเลศักดิ์สิทธิ์ โดยใช้ภูเขามันทาระเป็นแกนกลางและใช้พญานาค "วาสุกรี" เป็นเสมือนเชือกพับรอบภูเขามันทาระและออกแรงดึงให้เกิดการหมุน ..... แต่เมื่อพิจารณาแล้วกำลังพลฝ่ายเทพมีจำนวนไม่เพียงพอจึงต้องบากหน้าไปขอร้องเหล่าอสูรให้มาช่วยออกแรงโดยสัญญาว่าจะแบ่งกันแบบ 50:50 และมอบหมายให้อยู่ทางด้านหัวพญานาค.... เหล่าเทพกับพระวิษณุขยิบตาแบบรู้กัน 2 แผน คือ อันดับแรกการที่ให้เหล่าอสูรอยู่ทางหัวพญานาคเพราะรู้ดีว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งท่านพญานาคอาจจะพ่นพิษออกมาเหล่าอสูรก็ต้องรับไปแบบจัดเต็มๆ แผนที่สองเมื่อได้น้ำอมฤตแล้วจะไม่แบ่งให้อสูรโดยพระวิษณุจะปลอมตัวเป็นหญิงสาวเพื่อหลอกล่อให้อสูรหันไปสนใจแต่สาวสวยจนลืมดูว่าเหล่าเทพเอาน้ำอมฤตไปกินหมดแล้ว ..... งานนี้พูดกับแบบตรงๆก็คือ "เหล่าอสูรโดนต้มชนิดเนียนๆ"

ขณะที่พิธีกวนน้ำอมฤตกำลังดำเนินอย่างขมักเขม้นภูเขามันทาระทำท่าจะจมลงไปใต้ทะเล พระวิษณุจึงต้องรีบแปลงกายเป็นเต่ายักษ์ในชื่อ "อวตาลกอร์มะ" มาช่วยหนุนภูเขา ..... อนึ่ง รูปปั้นพิธีนี้ตั้งตระหง่านอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมินัยว่าเพื่อเป็นศิริมงคลแก่บ้านเมือง

ทุกอย่างเป็นไปตามแผนพระวิษณุแปลงกายเป็นหญิงสาวสวยชื่อ "นางโมหิณี" ถือหม้อน้ำอมฤตไว้บนมือ แต่เหล่าอสูรมัวแต่มองสาวสวยจนลืมดูน้ำอมฤต

ระหว่างนั้นมีอสูรตนหนึ่งชื่อว่า "ราหู" น่าจะอ่านเกมส์ออกจึงแอบแปลงกายเป็นเทพและมานั่งปนอยู่ในแถวเพื่อรอรับน้ำอมฤต .... แต่เทพสุริยาและเทพจันทราหันไปเห็นพอดีจึงรีบร้องบอกพระวิษณุให้ขว้างจักรไปตัดคอราหูทันที แม้ว่าหัวจะขาดออกจากร่างแต่ลิ้นของราหูได้สัมผัสน้ำอมฤตเรียบร้อยแล้วจึงเป็น "อมตะ"

ราหูมีความเจ็บแค้นเทพสุริยาและเทพจันทราจึงพยายามเข้าทำร้ายด้วยการกลืนกิน ..... เป็นที่มาของ "ราหูอมจันทร์" อนึ่ง เราๆท่านๆจำนวนไม่น้อยมีความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาราหู เพื่อนำมาซึ่งโชคลาภและความสมปรารถนา
คนไทยจำนวนไม่น้อยให้ความสำคัญกับ "ราหู" ในพิธีกรรมที่เรียกว่า "เสริมดวงชะตา"

คำศัพท์ภาษาไทย "จัทรุปราคา หรือ จันทรคลาส" มาจากรากศัพท์ภาษาสันสกฤต Chandra Grahan ..... อนึ่งศัพท์วิชาการต่างๆในวิชาดาราศาสตร์ล้วนมาจากรากภาษาสันสกฤต
Operation Rahu EP XVII ในแง่มุมวิทยาศาสตร์
นำวิธีการของท่าน Aristarchus มาวิเคราะห์ พบว่าเงื่อนไขในการคำนวณมีองค์ประกอบสำคัญ 5 อย่าง กล่าวคือ
1.ขนาดเส้นรอบวงดวงจันทร์ (Moon's Diameter) และ เส้นผ่าศูนย์กลางเงามืดของโลก (Earth's Umbra) เพื่อเอาทั้งคู่มาทำ "สัดส่วน"
2.สร้าง "สามเหลี่ยมคล้าย" 2 รูป จากสัดส่วนเงามืดของโลก กับ เส้นผ่าศูนย์กลางของดวงจันทร์
.jpeg)
3.เงามืดของโลกมีรูปร่างกรวยแหลม (Cone Shape) ยาว 108 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลางโลก ข้อมูลนี้เกิดจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์
.jpeg)
4.ดวงจันทร์ก็มีเงามืด (Moon's Umbra) ในกรณีที่เกิด "สุริยุปราคาเต็มดวง" เงามืดจะยาวมาถึงโลก

5.ใช้ข้อมูลเส้นผ่าศูนย์กลางโลกที่ได้มาจากการคิดค้นของนักดาราศาสตร์กรีกอีกคน คือ ท่าน Eratosthenes เมื่อนำตัวเลขนี้คูณกับ 108 จะเท่ากับความยาวของเงามืดของโลก (Lenght of Earth's Umbra) ..... เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555 ชมรมอารยธรรมสกลนครได้ทำปฏิบัติการ Operation Eratosthenes EP I โดยใช้เงาดวงอาทิตย์ ณ เวลาเที่ยงสุริยะ (Solar Noon) ระหว่างปราสาทภูเพ็ก สกลนคร กับ ปราสาทบายน ประเทศกัมพูชา ได้ตัวเลขเส้นรอบวงโลก 38,451 Km และแปลงเป็นเส้นผ่าศูนย์กลางได้ 12,234 Km
.jpeg)
.jpeg)
คำนวณจากภาพถ่าย "ราหูอมจันทร์" ที่ส่งมาจากประเทศไทย 2 ภาพ คือจากจังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ โดยเครือข่ายพันธมิตรใน Facebook 2 ท่าน คือ คุณอุ้ม ธีรมา วิเสโส เป็นสื่อมวลชน และ คุณ Pom Dararat เป็นมัคคุเทศก์อาชีพเชียงใหม่
คุณอุ้ม ธีรมา วิเสโส (ชื่อ Facebook) ส่งภาพแรกจากเชียงรายมาให้ใกล้เคียงกับ Real Time เพราะกลางคืนที่ไทยเป็นกลางวันของผมที่อเมริกา
ใช้โปรแกรม PowerPoint สร้างวงกลมจากภาพ ทำให้มองเห็นขนาดเงามืดของโลก (Earth's Umbra) เปรียบเทียบกับขนาดของดวงจันทร์

ทำสัญลักษณ์ Earth's Umbra (D) และ Moon's Diameter (d)

.jpeg)
วัดขนาด Earth's Umbra = 35 Units และ Moon's Diameter = 12 Units
.jpeg)

นำข้อมูลมาเข้าสมการที่ Update มาจากสูตรของท่าน Aristarchus ได้ระยะทาง โลก - ดวงจันทร์ 378,153 Km มีค่า Error 2.17% เมื่อเทียบกับข้อมูลขององค์การ NASA 384,400 Km

คุณ Pom Dararat โพ้สภาพนี้ลง Facebook และยินดีให้นำมาใช้ในการคำนวณ

โปรแกรม PowerPoint สร้างวงกลมให้เห็นขนาดของ Earth's Umbra และ Moon's Diameter

.jpeg)
สัดส่วนระหว่าง Earth's Umbra กับ Moon's Diameter 55 : 19
.jpeg)
.jpeg)
นำข้อมูลมาเข้าสมการออกเป็นระยะทาง โลก - ดวงจันทร์ 378,153 Km เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลขององค์การ NASA มีค่า Error 1.6 %
นำข้อมูลทั้งสองครั้งมาหาค่าเฉลี่ย ระยะทาง โลก - ดวงจันทร์ 377,096 Km Error 1.9% เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลขององค์การ NASA

ถ้ารู้ระยะทาง โลก - ดวงจันทร์ ก็สามารถคำนวณขนาดของดวงจันทร์ (Moon's Diameter) ได้ไม่ยาก โดยเอาตัวเลข 108 ไปหาร ระยะทาง 377,096 Km = 3,491 Km


อนึ่งภาพดวงจันทร์ขณะที่เข้าไปอยู่เงามืดของโลกมีสีแดงอมส้ม (Blood Moon) เกิดจากชั้นบรรยากาศของโลกก่อให้เกิดการหักเหของแสงที่เป็นสีแดงและสีส้ม (red and orange wavelengths of sunlight) ให้เข้ามาสะท้อนบริเวณที่มองเห็นดวงจันทร์ภาพที่ออกมาจึงเป็นสีแดงอมส้ม ขณะเดียวกันคลื่นแสงที่เป็นสีเหลือง สีเขียว สีฟ้า และสีม่วง ถูกชั้นบรรยากาศผลักให้เบนออกไปข้างนอก
สรุป
ปฎิบัติการราหู ครั้งที่ 17 Operation Rahu EP XVII ประสบความสำเร็จด้วยดีอย่างยิ่งจากความร่วมมือของพันธมิตรในประเทศไทย และเป็นการเปิดมิติใหม่แห่งการชมปรากฏการณ์ "จันทรุปราคา" อย่างมีนัยแห่งการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างศาสตร์ต่างๆ ได้แก่ ดาราศาสตร์ ประวัติศาสตร์สากล ภาษาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เรขาคณิต ฟิสิกส์ และตบท้ายด้วยศาสตร์แห่งความเชื่อ